"อินทรีทัพฟ้า" แอร์ฟอร์ซ เซ็นทรัล ส่งหลักฐานเข้ายื่นอุทธรณ์โทษแบน 7 นัดของ อิซัค ฮอนนี่ โดยคณะกรรมการพิจารณาลดโทษแบน อิสซัค ฮอนนี่ กองหลังชาวกาน่า จาก 7 นัด เหลือเพียงนัดเดียว หลังมีหลักฐานไม่ได้ทำร้ายร่างกายผู้ตัดสิน
จากกรณี เมื่อวันที่ 19 เม.ย.ที่ผ่านมา มีรายงานจากผู้ตัดสินในเกมระหว่าง แอร์ฟอร์ซ กับ สมุทรสงคราม ว่า อิสซัค ฮอนนี่ กองหลังอินทรีทัพฟ้า ใช้ถ้อยคำหยาบคายกับผู้ตัดสิน และเจตนาทำร้ายร่างกายผู้ตัดสิน ทำให้คณะอนุกรรมการพิจารณามารยาท วินัย ข้อประท้วง มีบทลงโทษกรณีแรกคือ แบน 1 นัด ปรับ 30,000 บาท และกรณีที่ 2 แบน 6 นัด ปรับ 85,000 บาท รวมแบน 7 นัด ปรับ 110,000 บาท
ทำให้ทางสโมสรต้นสังกัดของปราการหลังชาวกาน่า ยื่นเรื่องขออุทธรณ์ต่อคณะกรรมการอุทธรณ์ ที่มี พล.อ.กสิณ ทองโกมล เป็นประธาน พร้อมยื่นคลิปหลักฐานประกอบการอุทธรณ์ ซึ่งคณะกรรมการอุทธรณ์ได้พิจารณาแล้วมีความเห็นว่า ฮอนนี่ ไม่มีเจตนาทำร้ายผู้ตัดสินแต่อย่างใด จึงได้ยกเลิกโทษแบน 6 นัด และโทษปรับ 85,000 บาท ทั้งนี้ยังคงเหลือโทษที่นักกีฬาได้กล่าวคำหยาบคายต่อผู้ต้ดสิน โดยแบน 1 นัด พร้อมปรับเงินอีก 30,000 บาท
ด้าน นายศรัณย์ สันติพัฒนาชัย ประธานบริษัท แอร์ฟอร์ซ ยูไนเต็ดได้กล่าวว่า " ต้องขอบคุณคณะกรรมการที่ยอมพิจารณาหลักฐานยืนยันว่าเราไม่เคยมีพฤติกรรมที่เลวร้ายเช่นนั้น การทำร้ายผู้ตัดสินเป็นข้อหาที่ร้ายแรง หากมีนักกีฬาหรือเจ้าหน้าที่คนใดกระทำเช่นนั้นจริง เราจะไม่ร้องขอให้ลดหย่อนโทษเลย แต่เนื่องจากในกรณีนี้ ฮอนนี่ไม่ได้มีเจตนาจริงๆ อย่างไรก็ตาม ถือว่าเป็นบทเรียนที่เขาและเพื่อนร่วมทีมจะต้องจดจำว่าฟุตบอลประเทศไทยนั้นอาจแตกต่างจากในทีวี การโดนเนื้อโดนตัวผู้ตัดสินในทุกกรณีถือได้ว่าเป็นข้อห้ามอย่างเด็ดขาด"
นอกจากนี้ นายใหญ่อินทรีทัพฟ้า ยังกล่าวต่ออีกว่า "ส่วนการด่าทอนั้น เมื่อคณะผู้ตัดสินยังคงลงโทษตามเดิม ทางเราก็ยินดีน้อมรับ และจะนำบทเรียนตรงนี้ไปพัฒนาปรับปรุงมารยาทของนักกีฬาเราต่อไป สตาฟโค้ชคงต้องไปอบรมว่าจะทำเหมือนในทีวีที่นักเตะด่าทอหรือสบถผู้ตัดสินนั้นไม่สามารถกระทำได้ "
"ทั้งนี้เราได้วิงวอนให้คณะกรรมการของทีพีแอล อย่าได้ละเลยข้อเท็จจริงที่ว่าต้นเหตุหลักของความวุ่นวายนี้มาจากที่ไหน นั่นคือการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ตัดสินที่เราเห็นว่าน่าจะมีปัญหา จนกระทั่งนำมาซึ่งการประท้วง การไม่เห็นด้วยของนักกีฬา ผมไม่ได้โยนปัญหานี้กลับไปยังผู้ตัดสิน เพราะถึงแม้ว่าผู้ตัดสินจะผิดพลาดอย่างไร นักกีฬาก็ไม่มีสิทธิ์จะเข้าทำร้ายทั้งสิ้น เพียงแต่อยากให้ทราบว่าพัฒนาการของผู้ตัดสินให้มีความทันเกมและเป็นสากล จะสร้างความเชื่อถือให้แก่ทุกภาคส่วน ปัญหาเรื่องการประท้วงการต่อว่า ก็จะลดน้อยลง"
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *