xs
xsm
sm
md
lg

สุดหิน “เซราะกราว” ตะกายถึงฝัน “ACL”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บุรีรัมย์ ประเดิมถ้วยเอเชีย
ASTV ผู้จัดการรายวัน – บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มหาอำนาจลูกหนังจากประเทศไทย มีคิวลงโชว์แข้งในเวทีระดับทวีปอย่าง “เอเอฟซี แชมเปียนส์ ลีก 2014” โดยจะประเดิมด้วยการบุกไปเยือน ชานตง หลูหนิง ทีมดังลีกจีน ถึงแดนมังกร วันที่ 25 กุมภาพันธ์ นี้ ที่สนาม จีนาน โอลิมปิก สปอร์ต เซ็นเตอร์ เวลา 14.30 น.(ตามเวลาประเทศไทย) ซึ่งเกมนี้สำคัญอย่างยิ่ง เพราะเป็นตัวแปรก้าวแรกเพื่อเป้าหมาย 10 แต้ม ตามที่ เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสร “ปราสาทสายฟ้า” ลั่นวาจาไว้ว่าจะต้องเก็บให้จึงจะเพียงพอต่อการทะลุเข้ารอบต่อไป แต่จะทำได้หรือไม่นั้นล้วนมีตัวแปรและปัจจัยต่างๆ ที่อาจจะสมหวังหรือผิดหวังก็ได้

ย้อนไปเมื่อปี 2012 บุรีรัมย์ ลงเล่นรายการนี้เป็นครั้งแรก ชนะ 2 แพ้ 4 มี 6 แต้ม รั้งบ๊วยกลุ่มจอดป้ายสนิท ถัดมาปี 2013 เก็บชัยได้ 1 นัด แต่สามารถยันเสมอได้ถึง 4 เกม และแพ้เพียงแมตช์เดียว มี 7 แต้ม ตบเท้าเข้ารอบต่อไปในฐานะอันดับ 2 ของกลุ่มก่อนก้าวไปถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย แต่ปีนี้ เนวิน มองว่าแต้มที่ได้เท่ากับปีที่ผ่านมานั้นไม่เพียงพอต่อการลิ่วรอบ 16 ทีม เพราะต้องเจอของแข็งร่วมกลุ่ม อี อย่าง โปฮัง สตีลเลอร์ส (แชมป์ เค-ลีก เกาหลีใต้), ชานตง หลูหนิง (รองแชมป์ไชนีส ซูเปอร์ ลีก จีน) และ เซเรโซ โอซากา (อันดับ 4 เจ-ลีก ญี่ปุ่น)

เมื่อมองแล้วโอกาสที่เป็นไปได้มากที่สุดหากหวังจะทำคะแนนได้ตามเป้าคือต้องใช้ความได้เปรียบจากการเล่นในบ้านเก็บชัยให้ได้ทั้ง 3 นัด (9 แต้ม) แล้วหวังผลเสมอจากเกมเยือนอีก 1 แต้มในเกมใดเกมหนึ่ง แต่ทั้งนี้หากพลิกปูมจะพบว่าสถิติในบ้านของ “ปราสาทสายฟ้า” นั้นชนะได้แค่ปีละ 1 นัดเท่านั้น รวม 2 ปี ชนะ-เสมอ-แพ้ อย่างละ 2 เกม ขณะที่เกมเยือนชนะเพียงนัดเดียวที่เหลือเสมอ 2 และแพ้ 3 อย่างไรก็ตามยังแอบมีข่าวดีเมื่อพบว่าทีมจากแดนมังกรนั้นถูกโฉลกกับ “เซราะกราว” มากที่สุด เพราะสามารถเก็บได้ถึง 6 แต้ม จากการบุกชนะกว่างโจว เอเวอร์แกรนด์ 2-1และเปิดบ้านทุบ เจียงซู เซียนตี 2-1

ดังนั้นเกมที่จะออกไปเยือน ชานตงฯ จึงถือว่าได้ลุ้นและเป็นตัวแปรสำคัญที่สุด เพราะด้วยประสบการณ์ทำให้ บุรีรัมย์ รู้ดีว่าควรจะต่อกรทีมจีนอย่างไร บวกกับสภาพทีมที่พร้อมสมบูรณ์ เกมล่าสุดพัก 4 แข้งต่างชาติที่มีชื่อในโควตารายการนี้ยกแผงทั้ง ดาบิด โรเชลา, คาร์เมโล กอนซาเรซ, เจย์ ซิมป์สัน และ ไค ฮิราโนะ รวมถึง “เจ้าอุ้ม” ธีราทร บุญมาทัน แบ็กซ้ายตัวเก่ง ทำให้ต้องมีอย่างน้อย 1 แต้ม ติดมือกลับบ้านหรือฝันไกลถึงชัยชนะสถานเดียว

โดยเกมนี้ขุนพล “ปราสาทสายฟ้า” นอกจากสภาพอากาศติดลบ 6 องศาเซลเซียสแล้ว ยังต้องรับมือกับอาวุธหนักอย่าง วากเนอร์ เลิฟ กองหน้าทีมชาติบราซิล ดีกรีดาวซัลโวยูฟา คัพ ปี 2009, วอลเตอร์ มอลติลโล ตัวรุกทีมชาติอาร์เจนตินา, อลอยซิโอ หอกแซมบ้า และ ไรอัน แม็คโกวาน ตัวรับชาวออสเตรเลีย ที่มีค่าตัวรวมกันกว่า 1,000 ล้านบาท รวมถึงแข้งท้องถิ่นอย่าง หาน เป็ง ดาวซัลโวประจำทีม กับ จิน จิงเดา ดาวรุ่งยอดเยี่ยมลีกจีนซีซันที่แล้ว ภายใต้การคุมบังเหียนของ อเลซี สตีวัล หรือ “คูคาร์” กุนซือใหม่ชาวบราซิล ผู้ที่พา แอตเลติโก มิไนโร ทีมดังแดนกาแฟ คว้าแชมป์ “โคปา ลิเบอร์ตาดอเรส คัพ” หรือฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรอเมริกาใต้ เมื่อปีที่ผ่านมา

จากนั้นค่อยมาวัดต่อกับเกมในบ้านซึ่งก็มีโอกาสสูง เพราะแม้ว่าหลังจากนั้นตัวแทนจากประเทศไทยจะต้องลงเตะสลับกับเกมลีกอย่างสุดโหดถึง 2 ช่วง คือ วันที่ 8 มีนาคม-ราชบุรี มิตรผล เอฟซี (เหย้า), 11 มีนาคม-โปฮังฯ (เหย้า), 15 มีนาคม-บีอีซี เทโรศาสน (เยือน) และ 18 มีนาคม-เซเรโซฯ (เยือน) ต่อด้วยอีกช่วงคือวันที่ 2 เมษายน-เซเรโซฯ (เหย้า), 6 เมษายน-สมุทรสงคราม เอฟซี (เหย้า), 9 เมษายน-สุพรรณบุรี เอฟซี (เยือน), 16 เมษายน-ชานตงฯ (เหย้า), 19 เมษายน-สิงห์ท่าเรือ (เยือน) และปิดท้าย 23 เมษายน-โปฮังฯ (เยือน) แต่ก็ยังพอมีเวลาได้พักหายใจและโรเตชันผู้เล่นอยู่บ้าง

แต่หากพลาดท่าไร้แต้มตั้งแต่เกมแรกจะทำให้งานของ บุรีรัมย์ ยากขึ้นเป็น 2 เท่าทันที เพราะการจะบุกไปแบ่งแต้มจาก 2 ทีมที่เหลือนั้น ต้องบอกว่ามหาหิน เซเรโซ โอซากา มีทั้ง ดิเอโก ฟอร์ลัน หอกดีกรีดาวซัลโวลีกยุโรป 2 สมัยวัย 34 ปี รวมทั้ง กอจโก คาชาร์ มิดฟิลด์เซิร์บ ที่ย้ายมาจาก ฮัมบูร์ก เอสวี ในบุนเดสลีกา เยอรมนี และ มิตช์ นิโชลส์ ตัวรุกออสซี่ ผนึกกำลังกับ 2 กองกลางทีมชาติญี่ปุ่นชุดใหญ่ในปัจจุบันอย่าง โฮตารุ ยามากูชิ กับ โยชิโร คากิทานิ ตัวรุกวัย 24 ปี ที่ระเบิดไป 21 ตุงในลีกซีซันที่ผ่านมา

ขณะที่ โปฮัง สตีลเลอร์ส มีจุดเด่นอยู่ที่เกมรับ ฤดูกาลที่ผ่านมาแพ้น้อยสุดในลีกเพียง 6 นัด (เหย้า 3 เยือน 3) ส่วนผู้เล่นแม้ว่าจะใช้แข้งเกาหลีใต้ยกทีมโดยไม่มีสตาร์ดังเหมือนทีมอื่น แต่ล้วนเป็นแข้งที่เล่นร่วมกันมานานหลายปี อาทิ 2 กองหลังที่ติดธงโสมขาวอย่าง คิม แด โฮ กับ ชิน ควาง เฮือน หรือแดนกลางที่มี โก มู เยียว รุกกียอดเยี่ยม เค-ลีก ซีซันที่ผ่านมา ทำเกมร่วมกับ ลี เมียง จู และ ฮวาน จิน ซุง โดยมี โช ชานโฮ ดาวซัลโวประจำทีม กับ ปาร์ค ซุง โฮ หอกตัวเก๋าวัย 31 ปี คอยจบสกอร์ ที่สำคัญซีซันนี้นับเป็นปีที่ 3 แล้วที่บุรีรัมย์ต้องอยู่ร่วมกลุ่มกับแชมป์เค-ลีก แถมยังไม่เคยชนะได้สักครั้งเดียวทั้ง ชุนบุค ฮุนได มอเตอร์ส (0-2 , 2-3) และ เอฟซี โซล (0-0 , 2-2)
เยือน ชานตงฯ ของ วากเนอร์ เลิฟ
ฟอร์ลัน หอกเวิลด์คลาสของ เซเรโซฯ
โปฮังฯ แชมป์จากเกาหลีใต้
กำลังโหลดความคิดเห็น