ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ลีกสูงสุดของเมืองผู้ดี ยังคงเป็นลีกอันดับ 1 ที่ทุ่มเงินคว้าตัวนักเตะเสริมทัพมากที่สุดในบรรดาลีกดังของยุโรป ตามการรายงานจาก “เดลีเมล์” สื่อจอมขุดคุ้ย โดยตามการเปิดเผยระบุว่า ต้นปีที่ผ่านมามีการใช้เงินเสริมทัพไปทั้งสิ้น ถึง 125 ล้านปอนด์ (ประมาณ 6,250 ล้านบาท)
ช่วงตลาดซื้อขายนักเตะเดือนมกราคมที่ผ่านมา บรรดายอดทีมจากศึกพรีเมียร์ลีก ถลุงเงินชอปปิ้งกันสนุกมือ โดยมียอดสูงถึง 125 ล้านปอนด์ (ประมาณ 6,250 ล้านบาท) มากกว่าลีกยุโรปอื่นๆ อย่างฝรั่งเศส ที่ตามมาเป็นอันดับ 244 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,200 ล้านบาท) และ กัลโช ซีเรีย อา อิตาลี 34.9 ล้านบาท (ประมาณ 1,745 ล้านบาท) ส่วน บุนเดสลีกา เยอรมนี 27.4 ล้านบาท (ประมาณ 1,370 ล้านบาท) โดย ลาลีกา สเปน น้อยที่สุด 10 ล้านปอนด์ (ประมาณ 500 ล้านบาท)
และเมื่อเจาะลึกลงในรายละเอียดของสโมสรเชลซี ทีมดังแห่งกรุงลอนดอน กลายเป็นทีมที่ใช้เงินหมุนเวียนมากที่สุดชอปไป 43.8 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,190 ล้านบาท) ได้นักเตะใหม่ 3 รายทั้ง เนมันยา มาติช, โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ เคิร์ท ซูมา ปราการหลังดาวรุ่ง โดยปล่อย ฆวน มาตา และ เควัน เดอ บรุนย์ ออกไปได้เงินเข้ามารวมกัน 51.5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,500 ล้านบาท)
ขณะที่เซอร์ไพรส์ไม่เบาต้องยกให้ ฮัลล์ ซิตี ที่เพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมามกราคมที่ผ่านมาใช้เงินไปทั้งสิ้น 13.5 ล้านปอนด์ รั้งอันดับที่ 8 จากทีมชั้นนำของยุโรป และฟูแลม เองที่กำลังหนีตกชั้นใช้เงิน 12.6 ล้านปอนด์แลกกับนักเตะใหม่ถึง 7 ราย ส่วน นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ขายนักเตะเพียงรายเดียวแต่ได้รับเงิน 20.8 ล้านปอนด์ จาก โยอัน คาบาย ที่ปล่อยให้กับ ปารีส แซงแชร์กแมง
