“เจ้าตูน” จำรัส ฤทธิเดช คว้าเหรียญทองซีเกมส์ จากการแข่งขันวิ่งข้ามรั้ว 110 เมตรชาย มาครองเป็นสมัยที่ 3 พร้อมทำลายสถิติเก่าตัวเองที่เวลา 13.72 วินาที เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา พร้อมเผยได้พระดีเครื่องนำโชคจากคุณแม่
การแข่งขันกรีฑา ในศึก “เนปิดอว์ เกมส์” ณ สนาม วันนะ เต็กกี สเตเดียม ประจำวันที่ 18 ธันวาคม เป็นการแข่งขันวันสุดท้ายโดยทัพนักกีฬาไทยยังได้ลุ้นจากวิ่งข้ามรั้ว 110 เมตรชาย โดยมี จำรัส ฤทธิเดช เจ้าของแชมป์เก่า 2 สมัยออกสตาร์ทจากลู่ที่ 7
หลังสิ้นเสียงสัญญาณสตาร์ท “เจ้าตูน” สปีดเต็มฝีเท้าก้าวข้ามรั้วนำแบบม้วนเดียวจบเข้าเส้นชัยด้วยเวลา 13.72 วินาที ทำลายสถิติตัวเองเมื่อ 2 ปีก่อน โดยถือเป็นการป้องกันแชมป์สมัยที่ 3 ของประเภทนี้ ทิ้ง เรย์ซาม ชาห์ วาน โซเฟียน คู่ปรับคนสำคัญจากมาเลเซียให้เป็นที่ 2 และ อนาวโซเน เซย์ซา จากลาวเป็นที่ 3
ภายหลังการเส้นชัย ลมกรดจากพัทลุง ยอมรับว่า “กลัวจะไม่ได้เหรียญสมัยที่ 3 เนื่องจากเพิ่งแพ้คู่แข่งจากมาเลเซียในการแข่งชิงแชมป์ประเทศไทยเมื่อ 3-4 เดือนก่อน แต่โค้ชยังไว้ใจ และให้มุ่งมั่นในตัวเองก่อนที่จะทำออกมาได้ดีทำลายสถิติตัวเองจากครั้งแรกที่ลาว เวลา 13.89 วินาที ที่อินโดนีเซีย เวลา 13.77 วินาที และมาครั้งนี้เร็วที่สุด โดยช่วง 6 เดือนหลังได้นำเทคนิคต่างๆ ในช่วงออกตัวมาใช้ ต้องขขอบคุณ ทริเซีย โรเบิร์ต อดีตนักวิ่งลูกครึ่งไทย-อเมริกัน ที่มาช่วยติวให้”
ทั้งนี้เมื่อถูกถามว่ามีของดีและได้บนใดๆ ก่อนหน้านี้หรือไม่ ลมกรดวัย 24 ปี เผยว่า “ก่อนมาคุณแม่ไปบนไว้ที่จังหวัดพัทลุง และนครศรีธรรมราช แต่ไม่ทราบว่าวัดใด พร้อมกับให้ดื่มน้ำมนต์จากวัด ส่วนของที่แม่ให้ติดตัวมาคือสร้อยพระที่แม่เคยฝันถึง ซึ่งพระนี้ครอบครัวได้มาจากวัดดัง โดยมีประวัติว่าหลวงพ่อท่านหนึ่งขุดเจอขึ้นมาจากภูเขา”
ขณะที่ผลการแข่งขันประเภทข้ามรั้ว 110 เมตรหญิง วัลลภา พันธุ์สูงเนิน ของไทยทำเวลาดีที่สุดเข้าเส้นชัยเป็นอันดับที่ 2 คว้าเหรียญเงินด้วยเวลา 13.71 วินาที ส่วนทองเป็นของ ดีดีห์ อีราวาตี จากอินโดนีเซีย เวลา 13.53 วินาที
