ฟรองค์ ริเบรี สตาร์ดังของบาเยิร์น มิวนิก เชื่อว่าอาชีพนักฟุตบอลของเขา ทำให้สามารถที่จะห่างไกลจากความยากจนและกลายเป็นคนตกงานได้ พร้อมขอบคุณความจนที่ทำให้แข็งแกร่งขึ้นมาก
ดาวเตะทีมชาติฝรั่งเศสเติบโตที่บูโลญจน์ ซึ่งเป็นเมืองที่อัตราค่าแรงถูกมาก ก่อนที่เขาจะย้ายไปอยู่อคาเดมีฟุตบอลของลีลล์ และสุดท้ายกลับมาเล่นฟุตบอลอาชีพที่บูโลญจน์ใหม่โดยเขาเป็นกำลังหลักให้กับทีมตั้งแต่อายุ 18 ปี
ริเบรีในช่วงนั้นถือได่ว่าเป็นดาวดวงใหม่ของวงการฟุตบอลฝรั่งเศส เนื่องจากมีสไตล์การเล่นที่ไม่เหมือนรุ่นพี่คนก่อนๆ จนทำให้แข้งเมืองน้ำหอมรายนี้ กลายมาเป็นหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดในโลก แต่เขามักนึกขอบคุณวันวานเสมอที่ทำให้มีทุกวันนี้ได้
ริเบรีกล่าวว่า “ผมเติบโตในสลัม เป็นคนที่ไม่มีอะไรติดตัวมาเลย ซึ่งเมืองที่อาศัยนั้น ทุกคนคือคนจนและแน่นอนตนนั้นก็เป็นหนึ่งในคนจนที่นั่นด้วย ต้องขอบคุณฟุตบอล ถ้าไม่มีฟุตบอลผมคงต้องกลายเป็นคนว่างงานเหมือนกับคนอื่นๆ ในพื้นที่แน่นอน”
“เมื่อไรก็ตามที่ไปชอปปิ้ง ตนเองมักนึกถึงอดีตว่าดีเท่าไหร่แล้วที่มีทุกวันนี้ ซึ่งไม่มีใครที่สามารถลืมอดีตได้และอดีตของผมมันทำให้แข็งแรง เพื่อที่จะผ่านอุปสรรคนานและตอนนี้ถือว่าประสบความสำเร็จแล้วที่บาเยิร์น” เขากล่าวปิดท้าย
หลังจากที่บูโลญจน์ ดาวเตะวัย 30 ปีรายนี้ ก็มีอันต้องหลายไปอีกหลายทีม ไม่ว่าจะเป็น เมตส์ ทีมในฝรั่งเศส จากนั้นก็ออกไปค้าแข้งที่ตุรกีกับ กาลาตาซาราย แล้วก็กลับมาที่ โอลิมปิก มาร์กเซย ทีมดังในบ้านเกิด สุดท้ายแล้วย้ายเข้ารัง อัลลิอันซ์ อารีนา เมื่อปี 2007