แดเนียล สเตอร์ริดจ์ กองหน้าของ ลิเวอร์พูล สวมบทฮีโร่ช่วยให้ “หงสแดง” รอดพ้นจากความพ่ายแพ้ในช่วงท้ายเกมหลังโหม่งตีเสมอ “ทอฟฟี่” เอฟเวอร์ตัน 3-3 เก็บแต้มกลับบ้านได้หวุดหวิด ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมอร์ซีย์ไซด์ ดาร์บี คืนวันที่ 23 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
เอฟเวอร์ตัน 3-3 ลิเวอร์พูล
ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เกมนัดสำคัญ “เมอร์ซีย์ไซด์ ดาร์บี แมตช์” เอฟเวอร์ตัน อันดับ 6 ของตาราง มี 20 แต้ม เปิด กูดิสัน พาร์ค เจอกับ ลิเวอร์พูล รองจ่าฝูงมี 23 แต้ม เกมนี้เจ้าถิ่นส่งตัวหลักลงครบครันทั้ง สตีเวน พีนาร์ กับ โรเมลู ลูกากู ดาวยิงฟอร์มกระฉูด ส่วนผู้มาเยือน หลุยส์ ซัวเรซ ยืนเป็นกองหน้าตัวจริง ส่วน แดเนียล สเตอร์ริดจ์ เป็นเพียงตัวสำรอง
เปิดฉากมา 5 นาที ลิเวอร์พูล บุกมานำอย่างรวดเร็ว 1-0 หลุยส์ ซัวเรซ โหม่งชงต่อให้ ฟิลิปเป คูตินโญ พักบอลก่อนดีดด้วยขวานิ่มๆ แต่ไม่ทันไร นาที 7 เอฟเวอร์ตัน ก็ตีเสมอแบบทันควันจังหวะฟรีคิก บอลยาวมาหน้าประตูแล้วกองหลังทีมเยือนสกัดไม่ขาด เป็น เควิน มิรัลลาส วิ่งเติมขึ้นมาแหย่บอลเข้าเสาแรกเป็น 1-1
เอฟเวอร์ตัน เกือบได้ลูกที่สอง นาที 11 โรเมลู ลูกากู สปีดหลุดเดี่ยวขึ้นมาจับบอลในเขตโทษแต่ ซิมง มิโญเลต์ ออกมารวบบอลทัน แต่แล้ว นาที 18 ลิเวอร์พูล ได้ฟรีคิกระยะหวังผล ก่อนที่ หลุยส์ ซัวเรซ ปั่นทะลุกำแพงบอลเสียบเสาเข้าไปแบบสวยงามขึ้นนำอีกครั้ง 2-1
เกมเริ่มดุเดือดขึ้น นาที 36 เควิน มิรัลลาส ได้ใบเหลืองเป็นของสมนาคุณหลังไปยันใส่ หลุยส์ ซัวเรซ จนเลือดออกที่หัวเข่าขวา แต่ยังกลับมาวิ่งปร๋อได้ตามปกติ จากนั้นช่วงเวลาที่เหลือยังไม่มีฝ่ายใดยิงประตูเพิ่มได้ จบครึ่งแรก เอฟเวอร์ตัน ตามหลัง ลิเวอร์พูล 1-2
ครึ่งหลัง ทอฟฟี่” พลาดโอกาสทองเหลือเชื่อ นาที 53 เคราร์ด เดโลฟู ตัวสำรอง กระชากหลุดเดี่ยวมาจากครึ่งสนาม แต่จังหวะสุดท้ายแปติดบล็อก ซิมง มิโญเลต์ แบบไม่น่าให้อภัย ขณะที่ ลิเวอร์พูล พลาดเหมือนกัน นาที 59 แนวรับเจ้าถิ่นทำพลาดปล่อยบอลเข้าเขตโทษแต่ โจ อัลเลน แปเหน่งๆ หลุดเสานิดเดียว
เอฟเวอร์ตัน บุกแหลกจนนาที 71 ก็ตามตีเสมอได้อีกรอบ 2-2 โรเมลู ลูกากู ซัดฟรีคิกติดเซฟ มิโญเลต์ แต่ เควิน มิรัลลาส ตามไปเก็บบอลก่อนจ่ายยัดให้ ลูกากู แปเน้นๆ ตุงตาข่าย ต่อมา นาที 78 ทีมเยือนไม่รอช้าส่ง แดเนียล สเตอร์ริดจ์ กองหน้าอีกคนลงมาแทน ลูคัส เลวา ที่โดนใบเหลืองไปแล้ว
และแล้ว นาที 81 เจ้าบ้านก็เป็นฝ่ายพลิกขึ้นนำ 3-2 จนได้ จากลูกเตะมุมแล้วเป็น ลูกากู เทกตัวโหม่งตาข่ายแทบขาด แต่สุดท้าย นาที 88 ลิเวอร์พูล รอดตายได้ในที่สุด สตีเวน เจอร์ราร์ด เปิดฟรีคิกให้ แดเนียล สเตอร์ริดจ์ โขกช่วยให้ “หงส์แดง” ตีเสมอ 3-3 เก็บแต้มออกจากถิ่น กูดิสัน พาร์ค ไปจนได้
รายชื่อผู้เล่นทั้ง 2 ทีม
เอฟเวอร์ตัน - ทิม โฮเวิร์ด, เลห์ตัน เบนส์, ฟิล จากิลกา, ซิลแวง ดิสแตง, ซีมุส โคลแมน, เควิน มิรัลลาส, แกเร็ธ แบร์รี, รอสส์ บาร์คลีย์, สตีเวน พีนาร์, โรเมลู ลูกากู
ลิเวอร์พูล - ซิมง มิโญเลต์, กเล็น จอห์นสัน, แดเนียล แอกเกอร์, มาร์ติน สเคอร์เทล, จอห์น ฟลานาแกน, สตีเวน เจอร์ราร์ด, ลูคัส เลวา, โจ อัลเลน, ฟิลิปเป คูตินโญ, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, หลุยส์ ซัวเรซ
ผลฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน 2556
เอฟเวอร์ตัน 3-3 ลิเวอร์พูล
[0-1 ฟิลิปเป คูตินโญ น.5, 1-1 เควิน มิรัลลาส น.8, 1-2 หลุยส์ ซัวเรซ น.19, 2-2 โรเมลู ลูกากู น.72, 3-2 โรเมลู ลูกากู น.82, 3-3 แดเนียล สเตอร์ริดจ์ น.89]
ฟูแลม 1-2 สวอนซี ซิตี
[0-1 อารอน ฮิวจ์ส น.56, 1-1 สกอตต์ พาร์เกอร์ น.64, 1-2 จอนโจ เชลวีย์ น.80]
ฮัลล์ ซิตี 0-1 คริสตัล พาเลซ
[0-1 แบร์รี แบนแนน น.81]
นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 2-1 นอริช ซิตี
[1-0 โลอิค เรมี น.2, 2-0 โยฮัน กุฟฟรอง น.38, 2-1 เลอรอย เฟอร์ น.80]
สโต๊ค ซิตี 2-0 ซันเดอร์แลนด์
[1-0 ชาร์ลี อดัม น.30, 2-0 สตีเวน เอ็นซอนซี น.81]
อาร์เซนอล 2-0 เซาแธมป์ตัน
[1-0 โอลิวิเยร์ ชิรูด์ น.22, 2-0 โอลิวิเยร์ ชิรูด์ น.86]