สิ้นเสียงนกหวีดยาวในเกมฟุตบอลโลกเพลย์ออฟ นัดที่ 2 ของทุกโซนช่วงกลางสัปดาห์ แฟนลูกหนังทั่วโลกคงได้เห็นหน้าค่าตาทั้ง 32 ทีม ที่ตบเท้าเข้าสู้ศึกเวิลด์ คัพ 2014 ที่บราซิล และขณะที่หลายชาติสุขสมหวัง ยังมีแข้งดังอีกหลารายที่ต้องพลาดทัวร์นาเมนต์สำคัญกลางปีหน้า โดย “เดลีเมล์” ได้แจกแจงสตาร์อับโชคในตำแหน่งต่างๆ ดังนี้
ผู้รักษาประตู - ปีเตอร์ เช็ก (สาธารณรัฐเช็ก / เชลซี)
มือกาวร่างโย่งจากค่าย เชลซี ถูกจัดว่าเป็นผู้รักษาประตูระดับแถวหน้าของโลกไม่ต่างจาก อิเกร์ กาซึยาส หรือ จิอันลุยจิ บุฟฟอน เขาคว้าแชมป์มากมายระดับสโมสร ได้กลับมาร่วมงานกับยอดกุนซืออย่าง โชเซ มูรินโญ ในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ แต่ในระดับชาติ นายด่านเฮดการ์ดต้องพลาดไปฟุตบอลโลกเป็นครั้งที่ 2 ต่อจากปี 2010
กองหลัง - บรานิสลาฟ อิวาโนวิช (เซอร์เบีย / เชลซี)
เซอร์เบีย อยู่ร่วมกลุ่มเอ ในการเล่นรอบคัดเลือกโซนยุโรปร่วมกับ เบลเยียม และ โครเอเชีย โดยพวกเขาจบอันดับที่ 3 ของกลุ่มและชวดการไปลุ้นเพลย์ออฟ เท่ากับว่า บรานิสลาฟ อิวาโนวิช หมดสิทธิ์ไปแก้มือ หลังจาก 4 ปีก่อนเขาช่วยบ้านเกิดชนะ 1 แพ้ 2 นัด ในการลุยเวิลด์ คัพ ฉบับกาฬทวีป
กองหลัง - แดเนียล แอ็กเกอร์ (เดนมาร์ก / ลิเวอร์พูล)
ตลกร้ายสุดๆ ของทีมจากแดนโคนม หลังจากพวกเขาสามารถจบอันดับที่ 2 ในการเล่นรอบคัดเลือกกลุ่มบี ทว่าการมีแค่ 16 แต้มจาก 10 เกม พวกเขากลายเป็นอันดับ 2 ที่ผลงานแย่ที่สุดและเป็นทีมเดียวอดไปเล่นเพลย์ออฟ ดังนั้นสิ่งที่ แอ็กเกอร์ ทำได้ในช่วงซัมเมอร์คงต้องมุ่งสมาธิอยู่ ลิเวอร์พูล ช่วยลุ้นแชมป์ในฤดูกาลต่อไปแทน
กองหลัง - มาร์ติน สเคอร์เทล (สโลวาเกีย / ลิเวอร์พูล)
ปาฏิหาริย์ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ และทีมชาติ สโลวาเกีย ก็เช่นกัน พวกเขาเคยทำผลงานสุดหรูสสร้างประวัติศาสตร์ไปเหยียมสนามฟุตบอลโลกครั้งแรกของประเทศในศึกเวิลด์ คัพ ที่ แอฟริกาใต้ ปี 2010 และสามารถเข้าถึงรอบ 16 ทีมสุดท้าย มาปีนี้แข้งสโลวักไม่แกร่งเหมือนเก่า เช่นเดียวกับ สเคอร์เทล ที่มีสถานะเป็นเพียงผู้ชมเท่านั้น
กองหลัง - อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ (เซอร์เบีย / แมนเชสเตอร์ ซิตี)
อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ ต้องยอมรับว่า ฟอร์มที่สั่งสมมาสมัยอยู่ ลาซิโอ และเล่นได้โดนเด่นกับ เซอร์เบีย ในฟุตบอลโลก ปี 2010 ทำให้เขาได้ย้ายจากกรุงโรม มาทำมาหากินในเมืองแมนเชสเตอร์ กับทีมเงินถุงเงินถังอย่าง “เรือใบสีฟ้า” แต่ทุกอย่างไม่แน่นอน แบ็กจอมบุกชาวเซิร์บยังแกร่งเหมือนเก่า เพียงแต่ทีมเซิร์บของเขาไม่เจ๋งเหมือนเก่า เลยต้องนอนอยู่บ้านไป
มิดฟิลด์ - คริสเตียน อิริคเซน (เดนมาร์ก / ท็อตแนม ฮอตสเปอร์)
เพลย์เมกเกอร์ร่างเล็กจากแดนโคนม เพิ่งได้รับบาดเจ็บจากเกมกระชับมิตรเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา แน่นอนเขามีทั้งข่าวดีและข่าวร้าย เริ่มจากเรื่องดีอาการเจ็บของ อิริคเซน ไม่หนักมากและจะพักเพียง 4 สัปดาห์ ก่อนกลับมาลงสนามให้ “ไก่เดือยทอง” อีกครั้ง แต่ข่าวร้าย บราซิล ไม่มีตั๋วให้จอมสร้างสรรค์เกมไปวาดฝีเท้าที่แผนดินแซมบ้า
มิดฟิลด์ - มาเร็ก ฮัมซิก (สโลวาเกีย / นาโปลี)
ไฮไลต์สำคัญของซูเปอร์สตาร์และกัปตันทีมชาติสโลวาเกียที่เคยเป็นกำลังหลักของทีมในศึกฟุตบอลโลก 2010 ในช่วงซัมเมอร์นี้ คงไม่ต้องไปสนใจกับเพื่อนร่วมอาชีพที่ห่ำหั่นลุ้นแย่งถ้วยทองคำมากนัก แต่สิ่งที่น่าลุ้นกว่าคือ นาโปลี จะเก็บเขาไว้ค้าแข้งต่อในถิ่น ซาน เปาโล ได้หรือไม่ และหากย้ายจากเมืองเนเปิลส์เขาจะทำกำไรให้ นาโปลี ได้ขนาดไหน
มิดฟิลด์ - แกเร็ธ เบลล์ (เวลส์ / รีล มาดริด)
นี่คือตัวอย่างที่ชัดเจนว่า นักเตะค่าตัวแพงที่สุดในโลกไม่ได้รับการการันตีว่าจะได้ลงเล่นในทัวร์นาเมนต์ที่ดีและยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกเสมอไป ทัพ “มังกรแดง” ผลงานสุดห่วยในการเล่นรอบคัดเลือกมี 10 แต้มจาก 10 เกม นักเตะคนเดียวอาจเปลี่ยนเกมได้แต่ไม่สามารถเปลี่ยนทีมได้ งานนี้ต่อให้ “เวลส์” มี “เบล” แต่ผลงานก็ไม่ “เวลล์” อยู่ดี
ศูนย์หน้า - โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี (โปแลนด์ / โบรุสเซีย ดอร์ตมุนด์)
หัวหอกเนื้อหอมชาวโปล มีชื่อติดหูในตลาดซื้อขายมาตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา จากผลงานการยิงประตูแบบเป็นกอบเป็นกำให้กับ โบรุสเซีย ดอร์ตมุนด์ แต่น่าเสียดายที่ลูกยิงมากมายของเขาไม่สามารถพาทีมชาติโปแลนด์ไปโชว์ฝีเท้าในช่วงกลางปีหน้าที่ดินแดนกาแฟได้
ศูนย์หน้า - สลาตัน อิบราฮิโมวิช (สวีเดน / ปารีส แซงต์ แชร์กแมง)
ทุกคนรู้จัก สลาตัน ในนามของกองหน้าที่อันตรายที่สุดและเป็นแข้งที่ยอดเยี่ยมไร้ที่ติไม่ต่างจาก คริสเตียโน โรนัลโด ของ โปรตุเกส แต่เมื่อ 2 ชาติมาช่วงชิงตั๋วไปเดียวกัน “อิบรา” ที่โดดเดี่ยวมากเกินไปในแดนหน้าคงไม่สามารถจะร่ายมนต์วิเศษพาทีม สวีเดน ไปฟุตบอลโลกปีนี้ได้ ในเมื่อเพื่อนร่วมทีมยังฝากความหวังกับเขามากเกินไป
ศูนย์หน้า - ปาปิส เดมบา ซิสเซ (เซเนกัล / นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด)
ยิงระเบิดในสีเสื้อของ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด แต่ดวงเฮงบังเอิญต้องมาเล่นรอบคัดเลือกรอบที่ 3 โซนแอฟริกาพบกับ ไอวอรี โคสต์ ทีมที่มีแดนกลางเพื่อนร่วมค่ายอย่าง ชีค ติโอเต อยู่ด้วย และที่สำคัญผู้ชนะมีได้ทีมเดียว ทีมที่ยิงได้น้อยกว่าอย่าง เซเนกัล ของ ซิสเซ คงต้องโบกมือลาบราซิลไปตามระเบียบ
