“เงือก-ฉลาม” บุกเนปิดอว์ ลุ้นระทึกภารกิจป้องแชมป์

ASTV ผู้จัดการรายวัน – นับถอยหลังอีกไม่ถึง 1 เดือน ซีเกมส์ ครั้งที่ 27 จะเปิดฉากขึ้นอย่างเป็นทางการ ณ กรุงเนปิดอว์ ประเทศพม่า ระหว่างวันที่ 11-22 ธันวาคม โดย “ว่ายน้ำ” ถือเป็นหนึ่งในกีฬาสากลที่ถูกบรรจุแข่งขันครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นความหวังในการลุ้นเหรียญของทัพนักกีฬาไทยมาตลอด ดังนั้นทีมข่าว MGR Sport ได้บุกเจาะความพร้อม “เงือกสาว-ฉลามหนุ่ม” แม้ปีนี้สมาคมว่ายน้ำแห่งประเทศไทย รวมถึงตัวนักกีฬายอมรับว่า คู่แข่งในภูมิภาคอาเซียนหลายชาติพัฒนาศักยภาพ ทำสถิติขึ้นมาได้น่ากลัว

ย้อนไปเมื่อ 2 ปีก่อน ซีเกมส์ ครั้งที่ 26 ประเทศอินโดนีเซีย ถือเป็นความสำเร็จของสมาคมว่ายน้ำฯ หลังไทยครองความเป็นจ้าวสระทำผลงานเกินคาดกวาดเหรียญกลับบ้านทั้งสิ้น 8 เหรียญทอง 8 เหรียญเงิน และ 8 เหรียญทองแดง ครั้งนั้นมีดาราชูโรงอย่าง “เงือกอุ้ม” ณัชฐานันตร์ จันทร์กระจ่าง ที่อยู่ในช่วงพีคเต็มที่ และ “เจมส์บอนด์” ณัฐพงษ์ เกษอินทร์ ซึ่งทั้งคู่ยังติดทีมในชุดนี้คอยเป็นแกนหลักให้กับน้องๆ เช่นเคย

ความพร้อมล่าสุดในปีนี้ “โค้ชตึก” ธนาวิชญ์ โถสกุล เลขาธิการสมาคมว่ายน้ำในฐานะผู้ฝึกสอนได้คัดเลือกนักว่ายน้ำ 20 รายเข้าเก็บตัวที่การกีฬาแห่งประเทศไทย ตั้งแต่เดือนตุลาคมที่ผ่านมา ทำให้เริ่มมีความฟิตมากขึ้น ล่าสุดเพิ่งบินไปเก็บตัวที่เมืองคุนหมิง สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 7-28 พฤศจิกายน ขาดเพียง 4 รายดาวรุ่งดวงใหม่อย่าง ธนกฤต กิตติยะ, “จีน่า” สาริศา สุวรรณเชษฐ์, “หมอนอิง” เพียงขวัญ ปะวะโพตะโก และ “พลอย” ภัทรวดี กิตติยะ ที่แยกไปเก็บตัวในต่างประเทศ

ซึ่งเมื่อพูดถึงเรื่องการลุ้นเหรียญ “โค้ชตึก” ยอมรับว่า “การกลับไปครองจ้าวสระที่พม่าคงไม่ง่ายแน่นอน คู่แข่งหลายชาติอย่าง มาเลเซีย เวียดนาม พัฒนาและตื่นตัวมากขึ้นส่งนักกีฬาของตัวเองไปเก็บตัวซ้อม ตระเวนแข่งที่สหรัฐอเมริกา หรือ ออสเตรเลีย อีกทั้งยังจ้างโค้ชติวเข้มตัวต่อตัว หรือแม้แต่ สิงคโปร์ ที่มี เต้า ลี่ ฉลามหนุ่มที่โอนสัญชาติมาจากจีน ขณะที่ของเราสิ่งที่น่ากังวล เป็นปัญหาไม่ต่างจากสมาคมกีฬาอื่นๆ คือไม่สามารถหาเลือดใหม่ขึ้นมาทดแทนได้ทันที เพื่อเป็นหวังต่อจากรุ่นพี่ แต่ทั้งนี้เชื่อว่าจะมีเหรียญติดมือในประเภทฟรีสไตล์ 100 เมตรหญิง 200 เมตรหญิง และเดี่ยวผสม 400 เมตรชาย เป็นหลัก”

ขณะที่ “เงือกอุ้ม” ขอรับใช้ชาติและเป็นซีเกมส์ครั้งสุดท้ายในฐานะพี่ใหญ่ ยืนยันว่า ทีมพร้อมกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ สภาพร่างกายของทุกคนเริ่มฟิตขึ้นตามลำดับ ไม่มีใครมีอาการบาดเจ็บ น้องๆ ทุกคนตอนมีสภาพจิตใจพร้อมเต็มที่ ในทีมต่างคอยช่วยเหลือ เป็นหนึ่งเดียวกัน ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีก่อนลุยศึกใหญ่ที่พม่า โดยคิดว่าครั้งนี้ว่ายน้ำประเภทหญิงน่าจะมีลุ้นมากกว่าประเภทชาย เพราะหากเทียบสถิติของคู่แข่งชายอย่าง มาเลเซีย และ เวียดนาม เวลาดีกว่าของไทย 2-3 วินาที และส่วนตัวขอลุ้น 2 เหรียญทองฟรีสไตล์ 100 เมตร และ ฟรีสไตล์ 200 เมตร เพื่อเป็นการทิ้งทวน

อย่างไรก็ตาม เงือกสาวเจ้าของ 12 เหรียญทองซีเกมส์ ยังกังวลปัญหาเรื่องสระว่ายน้ำของเจ้าภาพ “ที่พม่าเป็นสระแบบอินดอร์ ซึ่งตามมาตรฐานต้องติดฮีตเตอร์ทำความร้อนไม่ให้น้ำเย็นเกินไป เพราะจะมีผลกับตัวนักกีฬาในการปรับอุณหภูมิเวลากระโดดลงสระและมีผลกับการทำเวลาแข่งขันด้วย ก่อนหน้านี้หลายชาติได้พยายามเรียกร้องไป แต่ทางพม่าไม่ได้มีการแก้ไขพร้อมให้คำตอบแค่ว่า รัฐบาลพม่ามีงบมาให้แค่สร้างสระเท่านั้น ไม่ได้เตรียมงบมาเพื่อติดฮีตเตอร์”

ปิดท้ายที่น้องเล็กอย่าง เบญจพร ศรีพนมธร ในวัย 18 ปี ที่มี “เงือกอุ้ม” เป็นต้นแบบ ซึ่งถูกคาดหวังว่าจะขึ้นมาเป็นความหวังคนใหม่ โดย “น้องเบญ” ติดทัพซีเกมส์มาแล้ว 3 ครั้ง ผ่านประสบการณ์ว่ายน้ำชิงแชมป์โลก “ฟีน่า เวิลด์ แชมเปียนชิป” ที่สเปน เมื่อเดือนสิงหาคม ตั้งเป้าของลุ้นเหรียญทองซีเกมส์แรกที่ “เนปิดอว์” ในประเภทฟรีสไตล์ 800 เมตร ส่วน ธนกฤต กิตติยะ, “จีน่า” สาริศา และ “หมอนอิง” เพียงขวัญ ที่เก็บตัวต่างแดนว่ากันว่าอาจเป็น 3 ตัวละครลับช่วยเบียดลุ้นเหรียญในหนนี้ด้วย ซึ่งอีกหนึ่งเดือนข้างหน้าเรามาลุ้นกันว่าทีมว่ายน้ำจะสามารถทำภารกิจป้องกันแชมป์ได้ดีมากน้อยแค่ไหน