พรีเมียร์ ลีก สุดสัปดาห์นี้ต้องหลีกทางให้เกมเอฟเอ คัพ ที่ดำเนินมาถึงรอบที่ 5 โดย 2 คู่บิ๊กแมตช์ที่พลาดไม่ได้เป็นการล้างแค้นเริ่มที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี เปิดบ้านพบ เชลซี ในวันเสาร์ ต่อด้วย ลิเวอร์พูล บุกเยือน อาร์เซนอล ในวันอาทิตย์ ซึ่งก่อนเกม “MGR SPORT” วิเคราะห์คีย์แมน 6 คู่ที่จะมีผลต่อเกมดังนี้
อาร์เซนอล - ลิเวอร์พูล
“ปืนโต” เพิ่งบุกไปโดน ลิเวอร์พูล เผาเครื่องเละคารังแอนฟิลด์เมื่อสุดสัปดาห์ก่อนในเกมลีก และทำให้พวกเขาต้องเสียตำแหน่งจ่าฝูงด้วยการแพ้ไปถึง 1-5 โดย 20 นาทีแรกลูกทีมของ อาร์แซน เวนเกอร์ โดนเจาะตาข่ายไปถึง 4 ลูก เกมนี้กลับมาเปิด เอมิเรตส์ สเตเดียม มีโอกาสล้างแค้น
มาร์ติน สเคอร์เทล - โอลิวิเยร์ ชิรูด์
ปราการหลังชาวสโลวักกลายเป็นตัวละครลับโหม่ง 2 ประตูช่วง 10 นาทีแรกในเกมที่แอนฟิลด์ ทำเอา อาร์แซน เวนเกอร์ ช็อกไปพักใหญ่ ซึ่งเกมนี้นายใหญ่ชาวเมืองน้ำหอมต้องสั่งให้เกมรุกโดยเฉพาะ ชิรูด์ ค้ำเซ็นเตอร์รายนี้ไว้ให้ได้ และหาก “ปืนใหญ่” เปิดเกมรุกกดดัน สเคอร์เทล แสดงให้เห็นว่าเขาไม่ได้แข็งแกร่งเนื่องจากเพิ่งถูก ฟูแลม เจาะไปถึง 2 ประตู
สตีเวน เจอร์ราร์ด - เมซุต โอซิล
กัปตันทีมชาติอังกฤษยังเป็นกำลังสำคัญในยุคของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส และมีส่วนสำคัญกับชัยชนะในเกมกับ “เจ้าสัวน้อย” ทว่าก็มีหลายนัดที่ถูกจับยืนเป็นมิดฟิลด์ตัวรับและเล่นไม่ออกทำ “หงส์แดง” รวนไปทั้งระบบ ต้องเผชิญหน้ากับ โอซิล ที่ช่วงหลังถูกมองว่าฟอร์มดร็อปลงไป แถมมีส่วนกับการเสียถึง 2 ประตูในเกมล่าสุด แมตช์นี้เกมโอกาสที่เพลย์เมกเกอร์เมืองเบียร์จะเรียกความมั่นใจกลับมาอีกครั้ง
หลุยส์ ซัวเรซ - แพร์ แมร์เตซัคเกอร์
ดาวซัลโวสูงสุดของ พรีเมียร์ลีกที่ 23 ประตู คลำเป้าไม่เจอไปพักใหญ่ และไม่มีชื่อบนสกอร์บอร์ดในเกมที่ไล่ถล่ม 5-1 แต่การดวลกับปราการหลังร่างยักษ์ชาวเยอรมันที่ค่อนข้างช้าหากต้องเจอกับความเร็วของเขา และ แดเนียล สเตอร์ริดจ์ ทำให้เขามีลุ้นกลับมาทำประตูได้อีกครั้งในเกมนี้ แต่ “กันเนอร์ส” ยังอุ่นใจได้หากพวกเขามี แมร์เตซัคเกอร์ จับคู่กับ โลรองต์ กอสเซียลนี แพ้ ลิเวอร์พูลไปเกมเดียวเท่านั้นนับตั้งแต่เดือน พ.ย.ปีก่อน
แมนเชสเตอร์ ซิตี - เชลซี
เกมนี้ มานูเอล เปเยกรินี ที่ทำสงครามกับน้ำลายกับ โชเซ มูรินโญ ไปหลายระลอกคงไม่ต้องการผูกปีแพ้ “เดอะ สเปเชียล วัน” และเป็นโอกาสดีที่จะได้ล้างแค้น หลังเสียสถิติถูก “สิงห์บลูส์” บุกมาลูบคมยัดเยียดความปราชัยในเกมลีก และแพ้เป็นนัดแรกในบ้านในฤดูกาลนี้ ส่วน เชลซี หากชนะจะยังอยู่ในวงโคจรการลุ้นทริปเบิลแชมป์ต่อไป
ยายา ตูเร - เนมันยา มาร์ติช
คู่ต่อกรที่สมน้ำสมเนื้อที่สุดในแดนกลาง การย้ายเข้ามาของ มาร์ติช เมื่อช่วงต้นปีทำให้แดนกลางไอวอรี โคสต์ ต้องเล่นลำบากอย่างที่ไม่เคยเจอมาก่อนตลอดซีซัน ไม่สามารถบัญชาเกมตรงกลางให้ไหลลื่นดั่งใจ นอกจากบล็อกไม่ให้ ตูเร สอดขึ้นมาลุ้นประตู ห้องเครื่องเซอร์เบียยังมีทีเด็ดจากทั้งลูกโหม่งและการยิงไกลที่แสดงให้ เปเยกรินี เห็นมาแล้ว
พาโบล ซาบาเลตา - เอเดน ฮาซาร์ด
กำลังอยู่ในช่วงที่ฮอตสุดๆ สำหรับ เอเดน ฮาซาร์ด โดย มูรินโญ ถึงกับออกมาว่าเพลย์เมกเกอร์รายนี้เหมาะสมที่จะได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือน ซึ่งในเกมล่าสุดเขาปั่นป่วนแนวรับของ “เรือใบสีฟ้า” ตลอดช่วงที่อยู่ในสนาม จึงเป็นหนักที่ของ พาโบล ซาบาเลตา ที่ถนัดเกมรุกต้องตามติดไม่ให้ขยับได้หากหวังปิดเกมรุก เชลซี
อัลบาโร เนเกรโด - ดาวิด ลุยซ์
การที่ ซิตี ต้องขาด เซร์จิโอ อกูเอโร ในแนวรุกทำให้ต้องใช้งาน เนเกรโด ต่อไป ซึ่งเกมล่าสุดที่พบกันหัวหอกสเปนถูกปล่อยให้โดดเดี่ยวอยู่กลางวงล้อมแนวรับ เชลซี ซึ่ง มูรินโญ รู้ดีว่าหากเขาไม่ต้องการแพ้การตัดดาวยิงอย่าง เนเกรโด และ เอดิน เชโก ออกจากเกมคืองานง่ายที่สุด และด่านแรกที่อดีตดาวเตะ บาเลนเซีย ต้องเอาชนะให้ได้ก่อนไปเจอกับ จอห์น เทอร์รี และ แกรี เคฮิลล์ เขาต้องสลัดหนี ลุยซ์ ที่คอยตามเป็นเงาให้ได้ก่อน
อาร์เซนอล - ลิเวอร์พูล
“ปืนโต” เพิ่งบุกไปโดน ลิเวอร์พูล เผาเครื่องเละคารังแอนฟิลด์เมื่อสุดสัปดาห์ก่อนในเกมลีก และทำให้พวกเขาต้องเสียตำแหน่งจ่าฝูงด้วยการแพ้ไปถึง 1-5 โดย 20 นาทีแรกลูกทีมของ อาร์แซน เวนเกอร์ โดนเจาะตาข่ายไปถึง 4 ลูก เกมนี้กลับมาเปิด เอมิเรตส์ สเตเดียม มีโอกาสล้างแค้น
มาร์ติน สเคอร์เทล - โอลิวิเยร์ ชิรูด์
ปราการหลังชาวสโลวักกลายเป็นตัวละครลับโหม่ง 2 ประตูช่วง 10 นาทีแรกในเกมที่แอนฟิลด์ ทำเอา อาร์แซน เวนเกอร์ ช็อกไปพักใหญ่ ซึ่งเกมนี้นายใหญ่ชาวเมืองน้ำหอมต้องสั่งให้เกมรุกโดยเฉพาะ ชิรูด์ ค้ำเซ็นเตอร์รายนี้ไว้ให้ได้ และหาก “ปืนใหญ่” เปิดเกมรุกกดดัน สเคอร์เทล แสดงให้เห็นว่าเขาไม่ได้แข็งแกร่งเนื่องจากเพิ่งถูก ฟูแลม เจาะไปถึง 2 ประตู
สตีเวน เจอร์ราร์ด - เมซุต โอซิล
กัปตันทีมชาติอังกฤษยังเป็นกำลังสำคัญในยุคของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส และมีส่วนสำคัญกับชัยชนะในเกมกับ “เจ้าสัวน้อย” ทว่าก็มีหลายนัดที่ถูกจับยืนเป็นมิดฟิลด์ตัวรับและเล่นไม่ออกทำ “หงส์แดง” รวนไปทั้งระบบ ต้องเผชิญหน้ากับ โอซิล ที่ช่วงหลังถูกมองว่าฟอร์มดร็อปลงไป แถมมีส่วนกับการเสียถึง 2 ประตูในเกมล่าสุด แมตช์นี้เกมโอกาสที่เพลย์เมกเกอร์เมืองเบียร์จะเรียกความมั่นใจกลับมาอีกครั้ง
หลุยส์ ซัวเรซ - แพร์ แมร์เตซัคเกอร์
ดาวซัลโวสูงสุดของ พรีเมียร์ลีกที่ 23 ประตู คลำเป้าไม่เจอไปพักใหญ่ และไม่มีชื่อบนสกอร์บอร์ดในเกมที่ไล่ถล่ม 5-1 แต่การดวลกับปราการหลังร่างยักษ์ชาวเยอรมันที่ค่อนข้างช้าหากต้องเจอกับความเร็วของเขา และ แดเนียล สเตอร์ริดจ์ ทำให้เขามีลุ้นกลับมาทำประตูได้อีกครั้งในเกมนี้ แต่ “กันเนอร์ส” ยังอุ่นใจได้หากพวกเขามี แมร์เตซัคเกอร์ จับคู่กับ โลรองต์ กอสเซียลนี แพ้ ลิเวอร์พูลไปเกมเดียวเท่านั้นนับตั้งแต่เดือน พ.ย.ปีก่อน
แมนเชสเตอร์ ซิตี - เชลซี
เกมนี้ มานูเอล เปเยกรินี ที่ทำสงครามกับน้ำลายกับ โชเซ มูรินโญ ไปหลายระลอกคงไม่ต้องการผูกปีแพ้ “เดอะ สเปเชียล วัน” และเป็นโอกาสดีที่จะได้ล้างแค้น หลังเสียสถิติถูก “สิงห์บลูส์” บุกมาลูบคมยัดเยียดความปราชัยในเกมลีก และแพ้เป็นนัดแรกในบ้านในฤดูกาลนี้ ส่วน เชลซี หากชนะจะยังอยู่ในวงโคจรการลุ้นทริปเบิลแชมป์ต่อไป
ยายา ตูเร - เนมันยา มาร์ติช
คู่ต่อกรที่สมน้ำสมเนื้อที่สุดในแดนกลาง การย้ายเข้ามาของ มาร์ติช เมื่อช่วงต้นปีทำให้แดนกลางไอวอรี โคสต์ ต้องเล่นลำบากอย่างที่ไม่เคยเจอมาก่อนตลอดซีซัน ไม่สามารถบัญชาเกมตรงกลางให้ไหลลื่นดั่งใจ นอกจากบล็อกไม่ให้ ตูเร สอดขึ้นมาลุ้นประตู ห้องเครื่องเซอร์เบียยังมีทีเด็ดจากทั้งลูกโหม่งและการยิงไกลที่แสดงให้ เปเยกรินี เห็นมาแล้ว
พาโบล ซาบาเลตา - เอเดน ฮาซาร์ด
กำลังอยู่ในช่วงที่ฮอตสุดๆ สำหรับ เอเดน ฮาซาร์ด โดย มูรินโญ ถึงกับออกมาว่าเพลย์เมกเกอร์รายนี้เหมาะสมที่จะได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือน ซึ่งในเกมล่าสุดเขาปั่นป่วนแนวรับของ “เรือใบสีฟ้า” ตลอดช่วงที่อยู่ในสนาม จึงเป็นหนักที่ของ พาโบล ซาบาเลตา ที่ถนัดเกมรุกต้องตามติดไม่ให้ขยับได้หากหวังปิดเกมรุก เชลซี
อัลบาโร เนเกรโด - ดาวิด ลุยซ์
การที่ ซิตี ต้องขาด เซร์จิโอ อกูเอโร ในแนวรุกทำให้ต้องใช้งาน เนเกรโด ต่อไป ซึ่งเกมล่าสุดที่พบกันหัวหอกสเปนถูกปล่อยให้โดดเดี่ยวอยู่กลางวงล้อมแนวรับ เชลซี ซึ่ง มูรินโญ รู้ดีว่าหากเขาไม่ต้องการแพ้การตัดดาวยิงอย่าง เนเกรโด และ เอดิน เชโก ออกจากเกมคืองานง่ายที่สุด และด่านแรกที่อดีตดาวเตะ บาเลนเซีย ต้องเอาชนะให้ได้ก่อนไปเจอกับ จอห์น เทอร์รี และ แกรี เคฮิลล์ เขาต้องสลัดหนี ลุยซ์ ที่คอยตามเป็นเงาให้ได้ก่อน
