xs
xsm
sm
md
lg

“มุ้ย-เจ” ไม่เชียร์ไทยจะเชียร์ใคร! / ชมณัฐ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คอลัมน์ “TIMEOUT” โดย “ชมณัฐ”

เรียกเสียงฮือฮาให้กับวงการลูกหนังไทยอีกครั้ง หลังจากที่สโมสรเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ออกมาคอนเฟิร์มว่าเตรียมส่ง “เจ้ามุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา ดาวยิงตัวเก่ง เหินฟ้าไปร่วมทัพ “ตราหมี” แอตเลติโก มาดริด ยักษ์ใหญ่ในศึก ลาลีกา ลีก สเปน ด้วยสัญญายืมตัว และมีโอกาสได้ลงฟาดแข้งในแดนกระทิงดุ ช่วงตลาดซื้อขายนักเตะยุโรปเดือนมกราคมศกหน้า ซึ่งหลังจากข่าวถูกกระพือออกมาก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากแฟนบอลอย่างอื้ออึง

ย้อนกลับไปเมื่อช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมาก่อนเปิดฤดูกาลศึกโตโยต้า ไทยพรีเมียร์ลีก 2013 ธีรศิลป์ ได้เดินทางไปร่วมฝึกซ้อมกับ แอต.มาดริด ในฐานะทีมพันธมิตรของเอสซีจี เมืองทองฯ ยังถิ่นบิเซนเต กัลเดรอน เป็นเวลา 2 สัปดาห์ ท่ามกลางความสงสัยของแฟนบอลว่าเป็นการไปทดสอบฝีเท้าเพื่อลุ้นย้ายทีมอย่างที่แชมป์เก่า 3 สมัยประโคมข่าว หรือเป็นเพียงแค่ร่วมฝึกซ้อมเป็นประสบการณ์ชีวิตเท่านั้น จึงมีคำถากถางมากมายประดังเข้ามา อาทิ เก่งขนาดนั้นเลยหรือ? ไปแล้วจะเล่นตำแหน่งไหน จะได้เป็นตัวสำรองหรือเปล่าก็ไม่รู้ เป็นแค่การสร้างกระแสเท่านั้น ฯลฯ และสุดท้ายหวยก็ออกมาอย่างหลัง “มุ้ย” จึงจำต้องระเห็จกลับเมืองไทยมาช่วยต้นสังกัดสู้ศึกฤดูกาลใหม่ ทำให้หลายฝ่ายเริ่มสบประมาทและตั้งแง่มากขึ้นกว่าเดิม

ส่งผลให้เห็นได้ชัดว่ายามที่มีข่าวเกี่ยวกับดาวยิงทีมชาติไทยรายนี้คราใด จะต้องถูกเหน็บแนมเรื่องที่ไม่ประสบความสำเร็จกับ แอต.มาดริด เสมอ รวมถึงพาลไปสมัยที่เจ้าตัวเดินทางไปฝึกปรือกับ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี ทีมดังในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่ไม่ได้แม้แต่จะลงสนามด้วยเช่นกัน และพอหลังจากที่ต้องกลับมาช่วยต้นสังกัดในฤดูกาล 2013 ทำให้เห็นได้ชัดว่าเจ้าตัวฟอร์มดร็อปลงไปจากซีซันก่อนที่ยิงกระจายคว้าดาวซัลโว 24 ประตู โดยผู้เกี่ยวข้องต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเจ้าตัวนั้นหมดสมาธิไปแล้ว

แต่ถึงอย่างไร “มุ้ย” ก็ยังเค้นฟอร์มเก่งรักษามาตรฐานให้ทัดเทียมของเดิมได้ในช่วงท้ายฤดูกาล ก่อนยิงไป 15 ประตู พาทีมจบด้วยตำแหน่งรองจ่าฝูง ขณะที่ผลงานในทีมชาติก็ยังคงเส้นคงวา จึงปฏิเสธไม่ได้ว่าหอกวัย 25 ปีรายนี้เป็นแข้งหมายเลข 1 ของเมืองไทยใน พ.ศ.นี้อย่างแท้จริง ดังนั้นหากไม่ใช่ “มุ้ย” ที่จะเป็นใบเบิกทางสู่ลีกยุโรปแแล้วจะมีคนไทยคนไหนที่มีโอกาสเทียบเคียงได้อีก

สำหรับการเดินทางไป “ตราหมี” ครั้งนี้ก็ยังคงมีเสียงวิจารณ์ไล่หลังเช่นเดิม แต่ถ้าพูดถึงโอกาสของเจ้าตัวแล้ว ต้องถือว่ามากขึ้นกว่าเดิม เพราะเท่าที่ได้คุยกับผู้เกี่ยวข้องหลายราย ยืนยันว่า “มุ้ย” ไม่จำเป็นต้องทดสอบฝีเท้าแล้ว และจะมีชื่อเป็น 1 ในขุนพลตราหมีอย่างแน่นอนในสัญญายืมตัว ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับว่าเจ้าตัวจะไปได้ไกลถึงระดับไหน แต่ถ้ามองตามเนื้อผ้าโอกาสทีจะอยู่ในทีมต่อคงมีไม่ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ เพราะโควตานอก EU ของ แอต.มาดริด นั้นเกินพิกัดแล้ว หนำซ้ำยังมี ดิเอโก คอสตา, เอเดรียน, ลีโอ บับติสเตา และ ดาบิด บียา เป็นก้างชิ้นโตในแดนหน้า จึงต้องลุ้นกับการปล่อยให้ทีมอื่นยืมตัวไปอีกทอด ซึ่งมีเปอร์เซ็นต์ได้ลงสนามที่สูงกว่า เช่น เกตาเฟ ที่ตกเป็นข่าวมาต่อเนื่อง เพราะเล่นระบบหอกเดี่ยวเช่นเดียวกับที่ “มุ้ย” ถนัด และคู่แข่งก็มีเพียง อาเดรียน คอลุนกา ดาวยิงเจ้าถิ่น กับ ซิเปรียน มาริกา กองหน้าชาวโรมาเนีย เท่านั้น ส่วน ราโย บาเยกาโน ทีมอันดับบ๊วยของตารางนั้นแม้จะมีมือปืนให้ใช้สอยหลายโควตา แต่ด้วยสถิติยิงได้เพียง 10 ตุง จาก 12 นัด อาจทำให้ลองเสี่ยงมาลัยกับของราคาถูกก็เป็นได้

พร้อมกันนี้ยังมีเรื่องน่าดีใจในลัษณะเดียวกันอีกเรื่องก็คือเจ้าหนู “เมสซีเจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ ที่ลัดฟ้าไปเทสต์แข้งกับ ชิมิสึ เอสพัลส์ ยอดทีมใน เจ-ลีก ประเทศญี่ปุ่น ในฐานะทีมพันธมิตรของสโมสร บีอีซี เทโรศาสน ซึ่งพูดได้ว่ากระแสร้อนแรงอย่างมาก ได้รับการต้อนรับที่ดีเยี่ยมในแดนปลาดิบ มีทั้งการโหมโรงบรรยายสรรพคุณของเจ้าตัวให้แฟนบอลตัวเองได้รู้ตั้งแต่ยังเดินทางมาไม่ถึง ทำให้มีแฟนคลับแห่แหนมาต้อนรับและรอชมฝีเท้าจำนวนมาก และด้วยรูปร่างที่เล็กและมาดกวนๆ ของเจ้าตัวจึงทำให้เป็นที่ชื่นชอบของสาวยุ่นอีกเช่นกันจนสโมสรต้องทำคลิปวิดีโอ และรูปภาพโปรโมต ส่วนเรื่องฝีเท้านั้นการันตีได้ว่าลีลากระชากลากเลื้อยที่จี๊ดจ๊าดจะเตะตาบรรดาแมวมองซามูไรแน่นอนไม่ทีมใด้ก็ทีมหนึ่ง ซึ่งโอกาสครั้งนี้จะช่วยยกระดับฝีเท้าของแข้งวัย 20 ปีรายนี้ได้อย่างมากโข แต่ก็ไม่วายยังคงมีแฟนบอลไทยสบประมาทอยู่เช่นเดิมว่ายังไม่ถึงขั้น

แต่ไม่ว่าจะมองไปมุมไหนก็มีแต่ผลดีกับตัวนักเตะเอง รวมถึงอาจส่งผลมาถึงทีมชาติในอนาคตด้วย ถือเป็นประสบการณ์ที่ล้ำค่า ซึ่งถ้าไม่ได้จริงๆ ก็จะได้รู้ตัวไปเลยว่าฝีเท้ายังไม่ถึง ค่อยกลับมาพัฒนากันต่อ เราเองในฐานะคนไทยด้วยกันก็ควรที่จะส่งแรงเชียร์สนับสนุนให้ประสบความสำเร็จเป็นหน้าตาของประเทศ ไม่ใช่คอยเสี้ยมหรือกระแนะกระแหนอยู่เบื้องหลัง เพราะถ้าหาก “ผู้เล่นที่ดีที่สุด” กับ “ดาวรุ่งที่แรงที่สุด” ของไทยในตอนนี้ยังก้าวไม่ถึงบันได้ขั้นแรก แล้วใครเลยจะสามารถทำได้
กำลังโหลดความคิดเห็น