ASTV ผู้จัดการรายวัน – กลายเป็นข่าวฮือฮาวงการลูกหนังไทยอีกครั้ง หลังจากที่ “กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด แชมป์ลีกสูงสุด 3 สมัย ยืนยันว่า “เจ้ามุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา หอกเบอร์ 1 จะเหินฟ้าไป “ตราหมี” แอตเลติโก มาดริด มหาอำนาจแห่งศึก ลา ลีกา ลีก สเปน ช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ด้วยสัญญายืมตัว ซึ่งอนาคตก็อยู่ที่ตัวนักเตะเองว่าจะรีดศักยภาพขนาดไหนเพื่อโอกาสลงสนามถิ่น บิเซนเต กัลเดรอน แต่สิ่งที่เห็นได้ชัดก็คือเวที ไทย พรีเมียร์ ลีก เติบโตขึ้นอีกขั้นในการเป็นตลาดส่งออกนักเตะสู่ระดับโลก
ก่อนหน้านี้ ธีรศิลป์ เคยบินไปทดสอบฝีเท้าและได้สัมผัสประสบการณ์ร่วมฝึกซ้อมกับทีมชุดใหญ่ของแอต.มาดริด ซึ่งเป็นพันธมิตรของ เมืองทองฯ ราว 2 สัปดาห์เมื่อช่วงเดือนมกราคมก่อนเปิดฤดูกาลศึก โตโยต้า ไทย พรีเมียร์ ลีก 2013 และถึงแม้จะได้รับคำชมจาก ดิเอโก ซิเมโอเน กุนซือใหญ่ “ตราหมี” พอสมควร แต่สุดท้ายก็ต้องเก็บกระเป๋ากลับมาช่วยต้นสังกัดที่เพิ่งรูดม่านตำแหน่งรองแชมป์ลีกด้วยการซัดไป 15 ประตู
หลังจากจบแมตช์สุดท้ายของปี 2013 ที่เปิดบ้านเสมอ ชัยนาท เอฟซี 2-2 เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2556 โฆษกสนาม เมืองทองฯ ได้ประกาศว่า ธีรศิลป์ จะย้ายไปร่วมทัพ แอต.มาดริด อีกครั้ง และเจ้าตัวเองก็ได้ขอบคุณกล่าวอำลาแฟนบอล โดยเดินไปรอบสนาม เอสซีจี สเตเดียม ก่อนที่วันรุ่งขึ้นทางสโมสรจะยืนยันอย่างเป็นทางการผ่านเว็บไซต์ว่าเตรียมส่ง “เจ้ามุ้ย” ไปค้าแข้งยังแดนกระทิงดุด้วยสัญญายืมตัว
โดย รณฤทธิ์ ซื่อวาจา ผู้อำนวยการสโมสร เอสซีจี เมืองทองฯ เปิดเผยว่า ธีรศิลป์ จะย้ายไปร่วมทัพ แอต.มาดริด 100 เปอร์เซ็นต์ด้วยสัญญายืมตัว “ความจริง แอต.มาดริด จะดึงตัว มุ้ย ไปร่วมทีมตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้ว แต่เรายังไม่มีใครทดแทนในแดนหน้าจึงต้องดึงตัวกลับมาก่อน แต่ครึ่งฤดูกาลหลังของยุโรปที่ตลาดเปิดเดือนมกราคมนี้จะไปร่วมทัพแน่นอน ด้วยอายุที่เหมาะสมเราได้เจรจากันระหว่างสองสโมสรแล้ว โดยจะเดินทางภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ เพื่อฝังตัวและฝึกซ้อมกับสังกัดใหม่เลย ซึ่งทักษะและพื้นฐานของเจ้าตัวสามารถเล่นใน ลา ลีกา สเปน ได้ เพียงแต่ว่าต้องปรับตัวให้เข้ากับสปีดของบอล ระบบการเล่นในแบบของทีม”
“เราได้ให้สิทธิ์ แอต.มาดริด ในตัว มุ้ยว่ าจะเก็บไว้ใช้งานเองหรือปล่อยให้สโมสรอื่นในลีกสเปนยืมตัว หลังจากมีหลายทีมที่ให้ความสนใจเช่นกัน ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ทั้งสองทีมต้องเจรจากันต่อไป ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับตัวนักเตะว่าจะไปได้ไกลระดับไหน แต่เชื่อว่าการย้ายทีมครั้งนี้จะเป็นอีกก้าวสำคัญของวงการฟุตบอลไทยอย่างแท้จริง”
พร้อมกันนี้ รณฤทธิ์ เผยต่อว่าการเซ็นสัญญาของ ธีรศิลป์ ครั้งนี้ จะมีการแลกเปลี่ยนตัวผู้เล่นระหว่างกันพ่วงมาด้วยตามที่ได้ตกลงร่วมกันไว้ โดย “ตราหมี” จะส่งกองหน้าสัญชาติสเปนระดับท็อป เกรด บี หรือ บีบวก มาให้เพื่อทดแทนการขาดหายไปของดาวยิงทีมชาติไทย
ขณะที่ พ.อ.อ.ประสิทธิ์ แดงดา บิดาของ ธีรศิลป์ กล่าวว่า “อยากให้ลูกชายไปเล่นให้ แอต.มาดริด มาก เนื่องจากเป็นความใฝ่ฝันของคนเป็นพ่อ ที่สำคัญอายุของ มุ้ย อยู่ในช่วงที่เหมาะสม หากไม่ไปตอนนี้คงหมดโอกาส จึงอยากให้ได้ไปหาความท้าทายใหม่ๆ เนื่องจากเกรงว่าหากยังเล่นในไทยลีกต่อไปอาจหมดแรงจูงใจและหมดความท้าทายได้ เพราะเจ้าตัวคว้ารางวัลมาหมดแล้วทั้ง แชมป์ลีก ดาวซัลโว และ นักเตะยอดเยี่ยม
ทั้งนี้มีแหล่งข่าวในสโมสรเปิดเผยว่าโอกาสที่ “มุ้ย” จะร่วมทีมในถิ่น บิเซนเต กัลเดรอน นั้นมีประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ โดยคาดว่าจะอยู่ในฐานะตัวสำรองไปก่อน แต่หากไม่ก็มีสโมสรอื่นอย่าง เกตาเฟ กับ ราโย บาเยกาโน 2 ทีมร่วมลีกที่ให้ความสนใจอยู่เช่นกัน ซึ่งหากหอกทีมชาติไทยสามารถการันตีตำแหน่งได้ เป็นไปได้สูงที่จะอยู่โยงยังแดนกระทิงดุอย่างต่ำ 2-3 ปี เลยทีเดียว
นอกจาก “เจ้ามุ้ย” แล้ว ในเวลาเดียวกันนี้ยังมี “เมสซีเจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ แข้งตัวจี๊ดวัย 20 ปี จาก บีอีซี เทโรศาสน ที่เดินทางล่วงหน้าไปทดสอบฝีเท้ากับ ชิมิสึ เอสพัลส์ ยอดทีมในเวที เจ-ลีก ประเทศญี่ปุ่น เป็นเวลา 1 สัปดาห์เช่นกัน รวมถึงแข้งนอกอย่าง คาซูโตะ คูชิดะ มิดฟิลด์เลือดซามูไรค่าย ชลบุรี เอฟซี ที่กำลังบินไปทดสอบฝีเท้ากับ เกตาเฟ และ ออสมาร์ อิบาเนซ ปราการหลังสแปนิชของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่เตรียมเหินฟ้าไปลุยกับ เลสเตอร์ ซิตี ในศึก แชมเปียนส์ชิป ประเทศอังกฤษ ด้วย
หากนับย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ ไทย พรีเมียร์ ลีก เคยปลุกปั้นแข้งส่งออกสู่ยุโรปอย่าง ซูมาโฮโร ยายา ปีกไอวอรีโคสต์ ที่ย้ายจาก “กิเลนผยอง” ไปร่วมทีม เคเอเอ เกนท์ ยักษ์ใหญ่ใน จูปิแลร์ ลีก เบลเยียม รวมถึงเพื่อนร่วมชาติและสโมสรอย่าง คริสเตียน เคาคู ที่ไปได้ดิบได้ดีกับ ตูร์ แอฟเซ ในลีก เดอซ์ ฝรั่งเศส และ แฟรงค์ อาเชียมปง แข้งกานาจาก “ปราสาทสายฟ้า” ที่ไปสร้างผลงานกับ อันเดอร์เลชท์ ในเบลเยียม
จึงปฏิเสธไม่ได้ว่าโอกาสในครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญอย่างยิ่งในการพัฒนาบอลไทยให้กลายเป็นตลาดส่งออกนักเตะสู่ระดับโลก เฉกเช่นที่ ญี่ปุ่น หรือ เกาหลีใต้ ประสบความสำเร็จมาแล้ว และเชื่อว่าหาก ธีรศิลป์ หรือ ชนาธิป ประสบความสำเร็จตามที่หวังได้จะเป็นใบเบิกทางในอนาคตต่อไปอีกแน่นอน