“ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือทีมชาติไทย ชุดซีเกมส์ ครั้งที่ 27 ที่ประเทศพม่า ไม่หวั่นผลการจับสลากแบ่งสายที่จะมีขึ้นในวันที่ 6 พฤศจิกายน นี้ ลั่นจะเป็นเบอร์ 1 อาเซียนก็ต้องไม่กลัวใคร พร้อมวางคิวอุ่นเครื่อง 3 นัด กับ ยูกันดา (ยู-23), กินี และ บรูไน (ซีเกมส์) แย้มไม่ปิดโอกาส “เจ้าตอง” กวิน ธรรมสัจจานันท์ นายด่านมือ 1
เมื่อช่วงเช้าวันที่ 5 ตุลาคม ที่ผ่านมา “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือทีมชาติไทย ชุดซีเกมส์ ได้เรียกนักเตะเข้ามารายงานตัว ที่โรงแรม เอสซี ปาร์ค พร้อมทำการฉีดวัคซีนป้องกันโรค และวัดตัวตัดสูท นำโดยตัวหลักอย่าง ชนานันท์ ป้อมบุบผา, ปกเกล้า อนันต์ และ ศราวุฒิ มาสุข
ทั้งนี้ยังขาดนักเตะที่ยังมาร่วมทีมไม่ได้ 5 คน คือ ชนาธิป สรงกระสินธ์ (ติดทดสอบฝีเท้ากับ ชิมิสึ เอสพัลส์) และ 4 นักเตะจาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คือ ธีราทร บุญมาทัน, ชาริล ชัปปุยส์, อดิศักดิ์ ไกรษร และ ชิติพัทธ์ แทนกลาง ที่ต้องอยู่ช่วยต้นสังกัดในฟุตบอลถ้วยรอบชิงชนะเลิศ 2 รายการ แต่ได้เรียก เสกสิทธิ์ ศรีใส กองกลางจาก นครนายก และ สุรเชษฐ์ งามทิพย์ แบ็กซ้ายจาก ชัยนาท เอฟซี มาเพิ่มเติม
โดย “ซิโก้” ได้เผยถึงกำหนดการเตรียมทีมจากนี้ว่า จะเดินทางไปเก็บตัวที่สนามกอล์ฟอัลไพน์ จ.เชียงใหม่ ตั้งแต่วันที่ 7 พฤศจิกายน เป็นต้นไป และจะมีเกมอุ่นเครื่อง 3 แมตช์คือ วันที่ 16 พฤศจิกายน พบ ทีมชาติยูกันดา ชุดยู-23 ต่อด้วยวันที่ 19 พฤศจิกายน พบ ทีมชาติกินี และวันที่ 22 พฤศจิกายน พบ ทีมชาติบรูไน ชุดซีเกมส์ ก่อนที่จะออกเดินทางไปประเทศพม่า วันที่ 28 พฤศจิกายน
พร้อมกันนี้กุนซือวัย 40 ปี ได้กล่าวถึงความมั่นใจก่อนจะมีการจับสลากแบ่งสายในวันที่ 6 พฤศจิกายน นี้ว่า “ตอนนี้มั่นใจเกิน 90 เปอร์เซ็นต์แล้วที่จะคว้าเหรียญทองได้ เนื่องจากเรามีเวลาเตรียมทีมที่มาก ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับนักเตะที่จะต้องรับผิดชอบตัวเอง ซึ่งแม้บางรายจะยังไม่สามารถมาเก็บตัวร่วมกับทีมได้ เนื่องจากติดภารกิจกับต้นสังกัด แต่ถึงเกมอุ่นเครื่องจะต้องมาร่วมด้วย ซึ่งระยะเวลาที่เหลือก็ยังไม่ปิดโอกาสผู้เล่นคนอื่น รวมถึง กวิน ธรรมสัจจานันท์ ด้วยเช่นกัน หากเขาไหวเราก็พร้อมรับติดทีม เพราะสุดท้ายจะมีการตัดเหลือ 20 คนในช่วงวันที่ 23 พฤศจิกายน”
“ส่วนการจับสลากนั้นจะอยู่สายไหนก็ได้ เพราะเราต้องเจอเจ้าภาพหรือไม่ก็แชมป์เก่ามาเลเซีย ที่เป็นทีมวางในแต่ละสายอยู่แล้ว ดังนั้นจึงพอๆ กัน ผมเลยไม่หนักใจอยากจะวัดกันไปเลย ซึ่งผมก็ให้นักเตะทุกคนเตรียมพร้อมไว้อยู่แล้วไม่ว่าจะเจอใครก็ตาม เพราะหากเป้าหมายเราคือเบอร์ 1 อาเซียนเราก็ต้องไม่กลัว”
จากนั้นช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้ “ซิโก้” พร้อมลูกทีมได้เดินทางไปสักการะพระแก้วมรกต ที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) ต่อด้วยสักการะศาลหลักเมือง กรุงเทพมหานคร ก่อนจะเดินทางกลับโรงแรม และเล่นเวทเทรนนิงกับลงสระ โดยไม่มีโปรแกรมฝึกซ้อมแต่อย่างใด