“แจ๊ค สระบุรี” เดชาวัต พุ่มแจ้ง ท้อแท้ไร้สปอนเซอร์สนับสนุน หลังต้องควักเงินส่วนตัวไปแล้วกว่า 2.5 แสนบาท หวั่นหากยังต่อสู้คนเดียวเช่นนี้อาจต้องเลิกเล่นอาชีพก่อนกำหนด
ความเคลื่อนไหวการแข่งขันสนุกเกอร์เก็บคะแนนสะสมอาชีพโลก หรือ ยูโรเปียนทัวร์ รายการ “รัวห์ โอเพน” ระหว่างวันที่ 4-6 ต.ค.นี้ ที่สปอร์เทลลี มิวเฮม แอน เดอร์ รัวห์ ประเทศเยอรมัน โดย “แจ๊ค สระบุรี” เดชาวัต พุ่มแจ้ง อดีตแชมป์สมัครเล่นโลกปี 53 ต้องเป็นนักแทงไทยคนแรก ที่พลาดท่าตกรอบแรกด้วยการพ่ายแพ้ให้กับ อัลฟี เบอร์เดน นักแทงมือ 45 ของโลก ชาวอังกฤษ ไปอย่างหวุดหวิด 3-4 เฟรม
ล่าสุด เดชาวัต เปิดเผยว่า ตั้งแต่เดินทางกลับมาจากเมืองไทยเมื่อปลายเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา ผลงานการออกคิวไม่ค่อยเป็นที่ประทับใจเท่าไหร่นัก สาเหตุเกิดจากหัวคิวเดิมที่ใช้มานานนั้นมีปัญหา เวลาแทงมีเสียงดังจนทำให้ทองเหลืองที่เคยใช้มีสภาพเสื่อมยุบลงไป ทำให้ตัวเองต้องตัดทองเหลืองลงมาหนึ่งข้อ เพื่อไม่ให้เกิดเสียงดังเวลาแทง ส่งผลให้การออกคิวผิดพลาดเพี้ยนไปหมด เพราะมันสั้นกว่าเดิมลงมาเล็กน้อย ทั้งที่จริงก่อนหน้านี้ในศึกสอยคิวแสงโสม 6 แดงชิงแชมป์โลก ที่เมืองไทย ตัวเองยังออกคิวเข้าเบรกร้อนแรงอยู่เลย แต่เมื่อตัดแต่งหัวคิวใหม่ทำให้ฟอร์มหลุดไปจากเดิม ส่งผลให้หลายรายการไม่ประสบความสำเร็จตามที่คาดหวังเอาไว้
อย่างไรก็ตามตนมีโปรแกรมที่จะเดินทางไปแข่งขันสนุกเกอร์อาชีพโลก รอบ 32 คนสุดท้าย ที่ประเทศอินเดียรับเป็นเจ้าภาพ จากนั้นจะหาเวลาว่างเดินทางกลับมาเมืองไทยโดยด่วน เพื่อไปตัดแต่งหัวคิวเสียใหม่จากผู้เชี่ยวชาญ เพราะหากขืนปล่อยให้สถานการณ์เป็นแบบนี้อยู่คงไม่ดีแน่ เนื่องจากสภาพจิตใจและความวิตกกังวลต่างๆในการออกคิวแต่ละช็อตมันไม่เหมือนเดิมแล้ว จึงทำให้ต้องรีบกลับมาเมืองไทยเร็วกว่าปรกติ จากเดิมตั้งเป้าเอาไว้ว่า จะมาอยู่อังกฤษยาวถึง 3 เดือน แต่เมื่อไม่คิวมีปัญหาเลยต้องรีบมาแก้ไขให้ทุกอย่างดีขึ้น
ที่สำคัญเวลานี้สภาพจิตใจของตัวเองไม่สู้ดีเท่าไหร่นัก เนื่องจากสปอนเซอร์ที่ให้การสนับสนุนมีจำนวนน้อย มีเพียงแค่นายทุนทำธุรกิจน้ำมันพืชจากจังหวัดชลบุรีแค่คนเดียวเท่านั้น ส่วนที่เหลือที่เคยรับปากว่า จะให้การสนับสนุนเวลานี้ก็ยังนิ่งเฉย ส่งผลให้ตัวเองต้องหมดเงินไปกับค่าใช้จ่ายต่างๆไปกว่า 2.5 แสนบาทแล้ว
อดีตแชมป์สอยคิวสมัครเล่นโลก ยังกล่าวอีกว่า ทั้งนี้หากสถานการณ์เกี่ยวกับงบประมาณการสนับสนุนจากสปอนเซอร์ในแต่ละปีต้องใช้ประมาณเกือบ 2 ล้านบาท ยังไม่มีความคืบหน้า อนาคตไม่แน่ ตัวเองอาจจะต้องเลิกเล่นกีฬาชนิดนี้ก่อนวัยอันควร เพราะคงไม่มีนักสอยคิวคนไหนจะมีกำลังใจสู้ต่อ ยิ่งการใช้ชีวิตห่างไกลจากครอบครัวภรรยาและลูกเป็นเวลานานๆ มันเกิดความรู้สึกท้อแท้และทดถอย
เนื่องจากสิ่งที่ตัวเองเสียสละก็คือต้องการสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติ แต่เมื่อไม่มีผู้ให้การสนับสนุนก็ไม่รู้จะต่อสู้ไปทำไม ทั้งที่จริงก่อนหน้านี้ที่ตัดสินใจไม่ขึ้นตรงเป็นนักกีฬ่าให้กับสมาคม เพราะมั่นใจพรรคพวกเพื่อนฝูงว่า จะช่วยหาเงินมาดูแลตรงจุดนี้ได้ แต่นี่ผ่านไปแล้วหลายรายการตนต้องควักเงินส่วนตัว กับเงินบางส่วนที่ได้จากนายทุนแค่คนเดียว ซึ่งเรื่องนี้มันยังไม่พอกับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น ดังนั้นจึงอยากขอวิงวอนเห็นใจไปยังหน่วยงานต่างๆทั้งภาครัฐบาล, รัฐวิสาหกิจ และ บริษัทห้างร้านต่างๆ ช่วยเห็นใจตัวเองด้วย
