คอลัมน์ “ริงไซด์ ไฟต์คลับ” โดย “ลักษมณ์ นันทิวัชรินทร์”
เรื่องการทำน้ำหนักนี่เป็นเรื่องใหญ่ของการชกมวยเลยทีเดียว “พยัคฆ์มาด” สามารถ พยัคฆ์อรุณ ของเรา ก็เคยลดน้ำหนักจนหน้าเขียวหน้าเหลือง สุดท้ายหมดแรงแพ้น็อก เจฟฟ์ เฟเน็ช ไปชนิดแฟนมวยกังขากันทั้งประเทศ หรือแม้แต่ยอดแชมป์โลกในตำนานบ้านเราอย่าง เขาทราย แกแล็คซี่ ช่วงแรกๆ ที่กำลังสร้างบารมี ก็มีข้อครหาประเภทน้องชกพี่ชั่ง อะไรทำนองนี้ ในวงการมวยระดับโลก เรามักเห็นว่าเขาเตรียมตัวกันมาดีด้วยวิทยาศาสตร์การกีฬา สร้างนักมวยด้วยน้ำหนักที่เหมาะสมจริงๆ ไม่ไหวก็ขยับรุ่นไปเรื่อยๆ
อย่างเมื่อต้นเดือน ยอดมวยไร้พ่าย ฟลอยด์ เมย์เวเธอร์ จูเนียร์ ทำน้ำหนัก 151 ปอนด์ สบายๆ แถมตอนขึ้นชกยังเบากว่าตอนชั่งอีก ½ ปอนด์ อีกต่างหาก แสดงว่าฟิตมาดีจริง และน้ำหนักนี้ก็เป็นน้ำหนักธรรมชาติจริงๆ ขณะที่คู่ชกอย่าง ซาอูล “กาเนโล” อัลวาเรซ ปล่อยน้ำหนักก่อนขึ้นชกพรวดไปที่ 166 ปอนด์ ใหญ่กว่าแทบบังกันมิด แต่สุดท้ายกลายเป็นกระสอบทรายเคลื่อนที่ให้เมย์เวเธอร์ จูเนียร์ เลือกต่อยตามสบาย ชัดเจนว่าน้ำหนักมากไม่ได้ได้เปรียบเสมอไป
แต่เมื่อสายๆ วันอาทิตย์ที่ผ่านมาตามเวลาบ้านเรา ตรงกับค่ำๆ วันเสาร์ในอเมริกา มีมวยอุ่นเครื่องไฟต์หนึ่งที่เป็นที่สนใจของแฟนมวยทั่วโลก โดยบ้านเราไม่มีถ่ายทอดสดแต่มีการนำเทปมาออกอากาศภายหลัง เป็นการชกระหว่าง ฮูลิโอ ซีซาร์ ชาเวซ จูเนียร์ ทายาทของอดีตยอดมวยโลกชาวเม็กซิกันอย่าง “เจ.ซี. ซูเปอร์สตาร์” ฮูลิโอ ซีซ่าร์ ชาเวซ ขึ้นชกกำหนด 10 ยก กับไบรอัน เวรา นักมวยชาวสหรัฐฯดีกรีแชมป์รุ่นมิดเดิ้ลเวตของอเมริกาเหนือของสถาบันองค์กรมวยโลก (WBO) โดยที่ไฟต์นี้ชาเวซ จูเนียร์ ก็ได้คุณพ่อมาเป็นเทรนเนอร์ให้เป็นไฟต์แรกซะด้วย
ไฟต์นี้เดิมทีกำหนดขึ้นชกกันตั้งแต่วันที่ 7 กันยายนที่ผ่านมา ที่น้ำหนัก 163 ปอนด์ แต่ชาเวซ จูเนียร์ เกิดแผลแตกขึ้นในระหว่างการฝึกซ้อม ทำให้ต้องเลื่อนการชกมา และทายาทมวยดังก็บอกว่า ทำ 163 ไม่ไหว ขอปรับพิกัดเป็น 168 ปอนด์ มาเมื่อต้นสัปดาห์ก่อนการชก ทางชาเวซ จูเนียร์ ก็แจ้งผู้จัดอีกว่า ทำ 168 ไม่ไหวแน่ ขอปรับเป็น 173 ปอนด์ ซึ่งทางผู้จัด และคู่ชก ก็ต้องยอมตาม เพราะไม่อยากให้ไฟต์นี้ล้ม ซึ่งสุดท้ายชาเวซ คนลูก ก็มาที่ 172.4 ปอนด์ ส่วน ไบรอัน เวรา มาสบายๆ ที่ 171.2 ปอนด์ แถมมีข่าวว่า ก่อนขึ้นเวทีชาเวซ จูเนียร์ น่าจะน้ำหนักพรวดไปถึง 190 ปอนด์ แทบจะเป็นรุ่นเฮฟวีเวตอยู่แล้ว แต่ก็ต้องจ่ายค่าปรับในการทำน้ำหนักไม่ได้นี้จำนวนมหาศาล เรียกว่าต้องยอมทิ้งเงินเพื่อไม่ต้องทรมานลดน้ำหนักมาก ซึ่งทาง “เจ.ซี.ซูเปอร์สตาร์” ชาเวซผู้พ่อ ก็ยอมรับว่าคงต้องขยับรุ่นแล้ว ลูกชายทำน้ำหนัก 168 ไม่ได้แล้ว
การชกครั้งนี้เป็นไฟต์แรกในรอบปีของชาเวซ จูเนียร์ ซึ่งถูกแบนไป 9 เดือนจากการตรวจพบสารกัญชาในกระแสเลือดเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งทายาทมวยดังก็เดินไล่บดแต่ทำอะไรมวยเจ้าถิ่นไม่ถนัด แถมโดนสวนจังๆ ตลอด และจากสถิติไบรอัน เวรา ก็ต่อยเข้าเป้าเยอะกว่ามาก แต่กรรมการทั้ง 3 ท่าน พร้อมใจกันเทคะแนนให้กับมวยหน้าเสื่อแข็งอย่างทายาทชาเวซชนะไปอย่างขาดลอย แต่ต้องถือว่าค้านสายตาเยอะ ทำคะแนนติดลบให้กับการตัดสินมวยในวงการมวยโลกซ้ำเข้าไปอีก
ถึงตรงนี้ก็ต้องบอกว่า นักมวยบ้านเราทำน้ำหนักกันแบบโหดร้าย ยากเย็น ก็ต้องระวังเรื่องสภาพร่างกายดีๆ ส่วนทำได้แล้วชอบกินเต็มที่ ปล่อยน้ำหนักพุ่งพรวดไปเท่านั้นเท่านี้ แล้วชอบคิดว่าได้เปรียบ ก็ให้ดูเจ้า “กาเนโล” เป็นตัวอย่าง ควรจะดูกันว่าน้ำหนักไหนที่เหมาะสมดีที่สุดกับสภาพร่างกายนักมวยเรา น่าจะดีกว่า ดูอย่าง “เดอะ แพ็กแมน” แมนนี ปาเกียว ปล่อยน้ำหนักตามการเติบโตของร่างกาย แล้วก็เสริมสร้างร่างกายแบบถูกต้อง ทำเงินกลายเป็นซูเปอร์สตาร์วงการมวยโลกเป็นแชมป์โลกใน 8 พิกัดน้ำหนักไปแล้ว
เรื่องการทำน้ำหนักนี่เป็นเรื่องใหญ่ของการชกมวยเลยทีเดียว “พยัคฆ์มาด” สามารถ พยัคฆ์อรุณ ของเรา ก็เคยลดน้ำหนักจนหน้าเขียวหน้าเหลือง สุดท้ายหมดแรงแพ้น็อก เจฟฟ์ เฟเน็ช ไปชนิดแฟนมวยกังขากันทั้งประเทศ หรือแม้แต่ยอดแชมป์โลกในตำนานบ้านเราอย่าง เขาทราย แกแล็คซี่ ช่วงแรกๆ ที่กำลังสร้างบารมี ก็มีข้อครหาประเภทน้องชกพี่ชั่ง อะไรทำนองนี้ ในวงการมวยระดับโลก เรามักเห็นว่าเขาเตรียมตัวกันมาดีด้วยวิทยาศาสตร์การกีฬา สร้างนักมวยด้วยน้ำหนักที่เหมาะสมจริงๆ ไม่ไหวก็ขยับรุ่นไปเรื่อยๆ
อย่างเมื่อต้นเดือน ยอดมวยไร้พ่าย ฟลอยด์ เมย์เวเธอร์ จูเนียร์ ทำน้ำหนัก 151 ปอนด์ สบายๆ แถมตอนขึ้นชกยังเบากว่าตอนชั่งอีก ½ ปอนด์ อีกต่างหาก แสดงว่าฟิตมาดีจริง และน้ำหนักนี้ก็เป็นน้ำหนักธรรมชาติจริงๆ ขณะที่คู่ชกอย่าง ซาอูล “กาเนโล” อัลวาเรซ ปล่อยน้ำหนักก่อนขึ้นชกพรวดไปที่ 166 ปอนด์ ใหญ่กว่าแทบบังกันมิด แต่สุดท้ายกลายเป็นกระสอบทรายเคลื่อนที่ให้เมย์เวเธอร์ จูเนียร์ เลือกต่อยตามสบาย ชัดเจนว่าน้ำหนักมากไม่ได้ได้เปรียบเสมอไป
แต่เมื่อสายๆ วันอาทิตย์ที่ผ่านมาตามเวลาบ้านเรา ตรงกับค่ำๆ วันเสาร์ในอเมริกา มีมวยอุ่นเครื่องไฟต์หนึ่งที่เป็นที่สนใจของแฟนมวยทั่วโลก โดยบ้านเราไม่มีถ่ายทอดสดแต่มีการนำเทปมาออกอากาศภายหลัง เป็นการชกระหว่าง ฮูลิโอ ซีซาร์ ชาเวซ จูเนียร์ ทายาทของอดีตยอดมวยโลกชาวเม็กซิกันอย่าง “เจ.ซี. ซูเปอร์สตาร์” ฮูลิโอ ซีซ่าร์ ชาเวซ ขึ้นชกกำหนด 10 ยก กับไบรอัน เวรา นักมวยชาวสหรัฐฯดีกรีแชมป์รุ่นมิดเดิ้ลเวตของอเมริกาเหนือของสถาบันองค์กรมวยโลก (WBO) โดยที่ไฟต์นี้ชาเวซ จูเนียร์ ก็ได้คุณพ่อมาเป็นเทรนเนอร์ให้เป็นไฟต์แรกซะด้วย
ไฟต์นี้เดิมทีกำหนดขึ้นชกกันตั้งแต่วันที่ 7 กันยายนที่ผ่านมา ที่น้ำหนัก 163 ปอนด์ แต่ชาเวซ จูเนียร์ เกิดแผลแตกขึ้นในระหว่างการฝึกซ้อม ทำให้ต้องเลื่อนการชกมา และทายาทมวยดังก็บอกว่า ทำ 163 ไม่ไหว ขอปรับพิกัดเป็น 168 ปอนด์ มาเมื่อต้นสัปดาห์ก่อนการชก ทางชาเวซ จูเนียร์ ก็แจ้งผู้จัดอีกว่า ทำ 168 ไม่ไหวแน่ ขอปรับเป็น 173 ปอนด์ ซึ่งทางผู้จัด และคู่ชก ก็ต้องยอมตาม เพราะไม่อยากให้ไฟต์นี้ล้ม ซึ่งสุดท้ายชาเวซ คนลูก ก็มาที่ 172.4 ปอนด์ ส่วน ไบรอัน เวรา มาสบายๆ ที่ 171.2 ปอนด์ แถมมีข่าวว่า ก่อนขึ้นเวทีชาเวซ จูเนียร์ น่าจะน้ำหนักพรวดไปถึง 190 ปอนด์ แทบจะเป็นรุ่นเฮฟวีเวตอยู่แล้ว แต่ก็ต้องจ่ายค่าปรับในการทำน้ำหนักไม่ได้นี้จำนวนมหาศาล เรียกว่าต้องยอมทิ้งเงินเพื่อไม่ต้องทรมานลดน้ำหนักมาก ซึ่งทาง “เจ.ซี.ซูเปอร์สตาร์” ชาเวซผู้พ่อ ก็ยอมรับว่าคงต้องขยับรุ่นแล้ว ลูกชายทำน้ำหนัก 168 ไม่ได้แล้ว
การชกครั้งนี้เป็นไฟต์แรกในรอบปีของชาเวซ จูเนียร์ ซึ่งถูกแบนไป 9 เดือนจากการตรวจพบสารกัญชาในกระแสเลือดเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งทายาทมวยดังก็เดินไล่บดแต่ทำอะไรมวยเจ้าถิ่นไม่ถนัด แถมโดนสวนจังๆ ตลอด และจากสถิติไบรอัน เวรา ก็ต่อยเข้าเป้าเยอะกว่ามาก แต่กรรมการทั้ง 3 ท่าน พร้อมใจกันเทคะแนนให้กับมวยหน้าเสื่อแข็งอย่างทายาทชาเวซชนะไปอย่างขาดลอย แต่ต้องถือว่าค้านสายตาเยอะ ทำคะแนนติดลบให้กับการตัดสินมวยในวงการมวยโลกซ้ำเข้าไปอีก
ถึงตรงนี้ก็ต้องบอกว่า นักมวยบ้านเราทำน้ำหนักกันแบบโหดร้าย ยากเย็น ก็ต้องระวังเรื่องสภาพร่างกายดีๆ ส่วนทำได้แล้วชอบกินเต็มที่ ปล่อยน้ำหนักพุ่งพรวดไปเท่านั้นเท่านี้ แล้วชอบคิดว่าได้เปรียบ ก็ให้ดูเจ้า “กาเนโล” เป็นตัวอย่าง ควรจะดูกันว่าน้ำหนักไหนที่เหมาะสมดีที่สุดกับสภาพร่างกายนักมวยเรา น่าจะดีกว่า ดูอย่าง “เดอะ แพ็กแมน” แมนนี ปาเกียว ปล่อยน้ำหนักตามการเติบโตของร่างกาย แล้วก็เสริมสร้างร่างกายแบบถูกต้อง ทำเงินกลายเป็นซูเปอร์สตาร์วงการมวยโลกเป็นแชมป์โลกใน 8 พิกัดน้ำหนักไปแล้ว