“เซราะกราว” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้ประตูชัยจาก มานูเอล เรดอนโด การ์เซีย แข้งป้ายแดงชาวสแปนิช เฉือนชนะ “กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่ต้องเหลือ 10 ตัวท้ายเกม 1-0 ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศศึกมูลนิธิไทยคม เอฟเอ คัพ ได้สำเร็จ เมื่อค่ำวันนี้
มูลนิธิไทยคม เอฟเอ คัพ 2013
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 1-0 เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด
ศึกฟุตบอลมูลนิธิไทยคม เอฟเอ คัพ 2013 รอบรองชนะเลิศ เมื่อวันที่ 25 กันยายน ที่ผ่านมา ณ สนาม ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต เวลา 19.00 น. เป็นการตัดเชือกกันระหว่าง 2 มหาอำนาจลูกหนังไทยลีก “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แชมป์เก่ารายการนี้ซีซันที่แล้ว พบกับ “กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด
เกมนี้ อเลฮานโดร การ์เซีย กุนซือเซราะกราว ส่งชุดใหญ่ นำทัพโดย สุเชาว์ นุชนุ่ม, จักรพันธ์ แก้วพรม และ จิรวัฒน์ มัครมย์ โดยมี มานูเอล เรดอนโด การ์เซีย ประจำแบ็กซ้าย และดัน ธีราทร บุญมาทัน ขึ้นเกมสูง ด้าน เรเน เดอซาเยียร์ เฮดโค้ชกิเลน วาง “มุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา ลงล่าต่าข่าย พร้อมมี ดานโญ เซียกา, ดัสกร ทองเหลา, มาริโอ ยูรอฟสกี และ เอดิวัลโด เฮอร์โมซา คอยสนับสนุน
เปิดฉากมาเพียง 2 นาทีแรก เอสซีจี เมืองทองฯ ก็ได้ลุ้นก่อน จากจังหวะหลุดเข้าไปยิงของ “เจ้ามุ้ย” ธีรศิลป์ แต่ ศิวรักษ์ ยังปัดได้ทัน ถัดมาเพียง 5 นาที บุรีรัมย์ ก็ได้โต้บ้าง สุเชาว์ พักบอลในเขตโทษแล้ววอลเลย์ด้วยขวา แต่เหินข้ามคานไป จากนั้นทั้งคู่ยังเปิดเกมรุกเข้าใส่กันอย่างสนุก
โดยรูปเกมเป็น “"กิเลนผยอง” ที่หาโอกาสจบสกอร์ได้มากกว่า และได้ลุ้นจาก ฐิติพันธ์ ที่แปบอลยัดเสาสอง แต่ ศิวรักษ์ ย้งกระโดดปัดได้หวุดหวิด ถัดมา น.28 ปิยพล เปิดบอลจากด้านขวาไปถึง เอดิวัลโด ที่ยืนโล่งๆ เสาสอง แต่แข้งโบลิเวียตำแหน่งไม่ดีกระดกยิงกลับหลังข้ามคานออกไป ช่วงเวลาที่เหลือทำอะไรกันไม่ได้จบครึ่งแรกด้วยสกอร์ 0-0
สู้กันต่อครึ่งหลัง บุรีรัมย์ ถอด ชิติพัทธ์ ออกแล้วส่ง อนาวิน จูจีน ลงแทน และเพียงแค่ 2 นาที “เจ้าแจ๊ค” จิรวัฒน์ ก็หยอดลูกฟรีคิกไปให้ ไค ฮิราโนะ ล้มตัวยิงหน้าปากประตู แม้ วิศนุศักดิ์ จะปัดออกมาได้ แต่ก็มาเข้าทางปืนของ มานูเอล เรดอนโด การ์เซีย ซ้ำดาบสองไม่เหลือ ขึ้นนำก่อน 1-0 จากนั้นยังคงเป็น “"ปราสาทสายฟ้า” ที่ทำเกมบุกเข้าใส่อย่างต่อเนื่องแต่ยังไม่คมพอ ก่อนถอด จักรพันธ์ ออกแล้วส่ง ชาริล ชัปปุยส์ ลงแทน
ด้านแชมป์ลีกสูงสุด 3 สมัย เกมไม่ดีขึ้น น.70 ตัดสินใจส่ง จักรพันธ์ พรใส ลงเลื้อยริมเส้นแทน ปิยพล และเกือบได้ประตูตีเสมอใน น.75 จากการหลุดเข้าไปเดี่ยวของ ธีรศิลป์ แต่เป็นอีกครั้งที่ยังไม่ผ่านมือนายด่านบุรีรัมย์ จนกระทั่ง น.84 “กิเลนผยอง” ต้องมาเหลือผู้เล่นเพียง 10 คน จากจังหวะที่ วิศณุศักดิ์ ออกไปตัดฟาล์ว เอกชัย สำเร ตัวสำรองที่กำลังจะหลุดเดี่ยวเข้าไปยิง ทำให้ ลี มิน โฮ ผู้ตัดสินเกาหลีไม่ลังเลควักใบแดงไล่ “เจ้าตาล” ทันที จึงต้องถอด ภานุพงศ์ แล้วส่ง อิทธิกร การสร้าง ลงมาเฝ้าเสาแทน
ช่วงทดเจ็บ 5 นาที แม้ เอสซีจี เมืองทองฯ จะโหมเกมบุกเข้าใส่และได้ลุ้นจาก มาริโอ ยูนอฟสกี แต่ก็ไม่เป็นผล จบเกมเป็น บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่เฉือนชนะไปได้ 1-0 ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศกับ บางกอกกล๊าส เอฟซี ที่ถล่ม อินทรีเพื่อนตำรวจ 5-2 ในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2556 ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน เวลา 18.00 น.
รายชื่อ 11 คนแรก
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด : ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน(ผู้รักษาประตู), ธีราทร บุญมาทัน, ประทุม ชูทอง, ออสมาร์ อิบาเนซ, สุรี สุขะ, ชิติพัทธ์ แทนกลาง, สุเชาว์ นุชนุ่ม(กัปตันทีม), จักรพันธ์ แก้วพรม, จิรวัฒน์ มัครมย์, มานูเอล เรดอนโด การ์เซีย, ไค ฮิราโนะ
เอสซีจี เมืองทองฯ ยูไนเต็ด : วิศณุศักดิ์ แก้วเรือง(ผู้รักษาประตู), ภานุพงศ์ วงศ์ษา, คิม ยู จิน, วีระวุฒิ กาเหย็ม, ปิยพล บรรเทา, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, ดานโญ เซียกา, ดัสกร ทองเหลา(กัปตันทีม), มาริโอ ยูรอฟสกี, เอดิวัลโด เฮอร์โมซา, ธีรศิลป์ แดงดา
ผลการแข่งขันรอบ 4 ทีม(25 ก.ย. 56)
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 1-0 เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด
อินทรีเพื่อนตำรวจ 2-5 บางกอกกล๊าส เอฟซี