xs
xsm
sm
md
lg

"ไนกี้" ปฎิวัติการวิ่ง “เนเจอร์ แอมพลิฟลายด์” เคลื่อนไหวดุจธรรมชาติ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ไนกี้ ผู้นำนวัตกรรมผลิตภัณฑ์กีฬาระดับโลก เปิดตัว 4 สุดยอดนวัตกรรมแห่งการวิ่ง ที่ถูกออกแบบด้วยปรัชญา “เนเจอร์ แอมพลิฟลายด์” เพื่อมอบประสบการณ์การเคลื่อนไหวดุจดั่งธรรมชาติ

ที่เมืองบีเวอร์ตันรัฐโอเรกอน ประเทศสหรัฐอเมริกา ไนกี้แบรนด์กีฬาที่มีจุดกำเนิดจากกีฬาวิ่ง เผยโฉม 4 นวัตกรรมใหม่ล่าสุดที่ปฏิวัติวงการวิ่ง ที่ได้รับการออกแบบขึ้นเพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพการเคลื่อนไหวตามธรรมชาติ ภายใต้ปรัชญาการออกแบบ “เนเจอร์ แอมพลิฟลายด์” (Nature Amplified) ที่ให้ความสำคัญกับการเคลื่อนไหวของร่างกายด้วยการอาศัยข้อมูลจากทางวิทยาศาสตร์และข้อมูลจากประสบการณ์จริงของนักกีฬาโดยการเปิดตัวในในครั้งนี้ ไนกี้ได้เปิดตัวรองเท้าวิ่งรุ่นใหม่ล่าสุด 2 รุ่น คือ ไนกี้ ฟรี ฟลายนิต (Nike Free Flyknit) และ ไนกี้ ฟรี ไฮเปอร์ฟีล (Nike Free Hyperfeel) พร้อมด้วยเทคโนโลยีชุดกีฬาอีก 2 เทคโนโลยีคือ แอโรลอฟท์ (Aeroloft) และ ไดร-ฟิต นิต (Dri-FIT Knit)

มาร์ค ปาร์เกอร์ ประธานบริหารและประธานบริษัทของ ไนกี้ อิงค์ กล่าวว่า “นวัตกรรมไม่ใช่เรื่องของการสร้างสรรค์ขึ้นเพียงเพื่อให้เป็นนวัตกรรม แต่เป็นการสร้างสรรค์สิ่งที่ดีกว่าเดิมโดยมีจุดมุ่งหมายเพราะฉะนั้นการวิ่งคือหัวใจและจิตวิญญาณของไนกี้ที่เป็นจุดกำเนิดของนวัตกรรมใหม่ๆ ที่จะหลั่งไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง และขับเคลื่อนให้ไนกี้ก้าวต่อไปข้างหน้า”

นวัตกรรมแห่งรองเท้าวิ่ง

ไนกี้ ฟรี ฟลายนิต เป็นการผสานเทคโนโลยีแห่งรองเท้าวิ่ง ด้วย 2 เทคโนโลยีที่นับได้ว่า เป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นที่สุดของไนกี้เข้าด้วยกัน คือ การออกแบบหน้ารองเท้าที่ถูกออกแบบด้วยเทคโนโลยีไนกี้ ฟลายนิต ที่ช่วยยึดกระชับเท้า และการออกแบบพื้นรองเท้าด้านนอกด้วยเทคโนโลยี ไนกี้ ฟรี ที่มอบความยืดหยุ่นให้แก่เท้าโดยหน้าผ้าของรองเท้าของ ไนกี้ ฟรี ฟลายนิต โดดเด่นด้วยการวางโครงสร้างวัสดุเป็นพิเศษเฉพาะจุดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในด้านความกระชับเท้าเสมือนกับเป็นผิวหนังชั้นที่สอง ดังนั้นไนกี้ ฟรี ฟลายนิต จึงมอบคุณสมบัติที่ดีเยี่ยมควบคู่กันในคู่เดียวไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหวที่เป็นธรรมชาติและการรองรับเท้ากระชับเท้าที่แนบสนิท

ไนกี้ ฟรี ไฮเปอร์ฟีล ได้รับการออกแบบเพื่อมอบความรู้สึกเสมือนกับรองเท้าเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายโดยการลดชั้นวัสดุที่คั่นระหว่างเท้ากับพื้นวิ่งลงให้เหลือน้อยที่สุด ผู้วิ่งจึงรับรู้ได้ถึงการเคลื่อนไหวตามธรรมชาติของการวิ่ง ซึ่งพื้นรองเท้าชั้นในทำจากโฟมลูนาร์ลอน เพื่อช่วยให้เท้าสัมผัสกับชั้นรองรับแรงกระแทกลูนาร์ลอนได้โดยตรง ขณะที่พื้นรองเท้าชั้นนอกเป็นลายวอฟเฟิลแบบบางพิเศษ โดยมีปุ่มที่จัดเรียงอยู่ภายในเพื่อมอบการยึดเกาะพื้นผิวและสร้างความรู้สึกให้เท้าแนบชิดกับพื้นมากยิ่งขึ้น

เทคโนโลยีเครื่องแต่งกาย

เทคโนโลยี ไนกี้ แอโรลอฟท์ เปิดตัวด้วยเสื้อวิ่งแบบแขนกุดที่มีน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ ซึ่งได้รับการออกแบบขึ้นเพื่อช่วยให้นักวิ่งรู้สึกอุ่นสบายในสภาพอากาศที่เย็นโดยมีการบุซับผ้าที่ผสานกับการระบายอากาศแบบเฉพาะเพื่อให้ความร้อนถ่ายเทออกจากร่างกายได้ดี ซึ่งทำให้นักกีฬารู้สึกแห้งสบายตัวอยู่ตลอดเวลา

ไดร-ฟิต นิตคือเทคโนโลยีที่ทำให้ผ้านุ่มสบายและเบาเป็นพิเศษ โดยออกแบบโครงสร้างเนื้อผ้าเพื่อช่วยรักษาอุณหภูมิร่างกายให้อยู่ในระดับที่คงที่มากที่สุดในสภาพอากาศที่หลากหลาย เทคโนโลยีนี้ได้ใช้เทคนิคการทอเนื้อผ้าหลายรูปแบบร่วมกันเพื่อช่วยเพิ่มการระบายอากาศ โดยที่การทอขึ้นรูปแบบไร้รอยต่อ ยังช่วยมอบความกระชับให้แก่ร่างกายในแบบที่เรียบสนิทไร้การติดขัด

เทรเวอร์ เอ็ดเวิร์ดส์ ประธานแบรนด์ผลิตภัณฑ์ไนกี้ กล่าวว่า“เทคโนโลยี เนเจอร์ แอมพลิฟลายด์ คือ การออกแบบโดยคำนึงถึงร่างกายในขณะที่มีการเคลื่อนไหว และการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับร่างกายของมนุษย์เป็นไปอย่างเป็นธรรมชาติ”

“รองเท้าและเครื่องแต่งกายที่เราเปิดตัวเป็นครั้งแรกในวันนี้ ได้ผ่านการคิดค้นโดยการอิงประสบการณ์จริงของนักกีฬาและนักวิ่งทุกระดับ ผสมผสานกับงานวิจัยอย่างลึกซึ้งในห้องปฏิบัติการวิจัยกีฬา (Sport Research Lab) ของเรา ซึ่งสิ่งเหล่านี้คือนวัตกรรมที่มีข้อมูลเป็นตัวขับเคลื่อน แต่มีร่างกายเป็นเครื่องกำหนดแนวทาง”ประธานแบรนด์ผลิตภัณฑ์ไนกี้ กล่าวเพิ่มเติม

ข้อมูลเพิ่มเติมผลิตภัณฑ์ไนกี้ ฟรี ฟลายนิต

ไนกี้ ฟรี ฟลายนิต คือการผสมผสานความรัดกระชับเท้าเข้ากับความยืดหยุ่นของ ไนกี้ ฟรี ที่มาพร้อมด้วยพื้นรองเท้าที่ยืดหยุ่นเพื่อมอบประสบการณ์การวิ่งที่ราบรื่นและรองรับเท้าได้อย่างดีเยี่ยม

วันนี้ นักวิ่งทั่วโลกสามารถใช้ประโยชน์ควบคู่ในการเคลื่อนไหวที่เป็นธรรมชาติจาก ไนกี้ ฟรี และการรองรับที่กระชับเท้าเสมือนเป็นผิวหนังชั้นที่สองจาก ไนกี้ ฟลายนิต ได้ในรองเท้าคู่เดียวกัน เพราะ ไนกี้ ฟรี ฟลายนิต (Nike Free Flyknit) ได้ผสมผสานที่สุดแห่งนวัตกรรมจากไนกี้เพื่อมอบความยืดหยุ่นเสมือนวิ่งด้วยเท้าเปล่าพร้อมความแนบกระชับที่ช่วยยืดเท้าไว้ได้อย่างมั่นคง

ไนกี้ฟรีฟลายนิต ได้รับการออกแบบให้ยืดหยุ่นไปพร้อมกับเท้าที่กำลังเคลื่อนไหว โดยอาศัยข้อมูลในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ตามปรัชญาการออกแบบ “เนเจอร์ แอมปลิฟลายด์” (Nature Amplified) ซึ่งเป็นแนวทางที่นำข้อมูลทางวิทยาศาสตร์และประสบการณ์จริงจากนักกีฬามาประยุกต์ใช้

“ไนกี้ ฟรี ฟลายนิต คือขีดสุดในการสื่อถึงหลักการแห่งประสิทธิภาพของการเคลื่อนไหวตามธรรมชาติโดยเป็นการผสานหน้ารองเท้าที่ให้การรองรับที่ดีและแนบสนิทคล้ายถุงเท้าเข้ากับระบบพื้นรองเท้าชั้นกลางและชั้นนอกที่ยืดหยุ่นและขยับตัวไปพร้อมกับสรีระ ซึ่งความกระชับจากแรงกดทำให้เท้าแนบชิดกับพื้นรองเท้ามากยิ่งขึ้นเพื่อการยืดกระชับเท้าและการสร้างแรงผลักตัวที่ดียิ่งขึ้น”ฌอน แม็คโดเวลล์ ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์กีฬาวิ่งของไนกี้ กล่าว

หน้ารองเท้า ไนกี้ ฟลายนิต

โครงสร้างใหม่ของ ไนกี้ ฟลายนิต ได้ช่วยเพิ่มแรงกดมากขึ้นในส่วนหน้ารองเท้า พร้อมทั้งช่วยยืดเท้าของนักวิ่งไว้กับพื้นรองเท้าได้อย่างมั่งคงโดยที่รูปแบบเฉพาะตัวของหน้ารองเท้า ไนกี้ ฟลายนิต เป็นการวางโครงสร้างวัสดุแบบพิเศษเฉพาะจุดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่รองเท้าด้วยการอาศัยข้อมูลจากประสบการณ์จริงที่ว่าแรงกดด้านบนของเท้าเกิดขึ้นได้อย่างไรซึ่งนักวิจัยผลิตภัณฑ์กีฬาของไนกี้ได้นำเทคโนโลยีมาวิเคราะห์แรงกดเพื่อระบุจุดจากแรงกดก่อนที่นักออกแบบจะนำข้อมูลที่ได้ มาออกแบบหน้ารองเท้าต่อไปขณะที่พื้นที่หลายจุดในบริเวณด้านบนของหน้ารองเท้ายังได้รับการออกแบบโครงสร้างให้ยืดหยุ่นไปพร้อมกับการเคลื่อนไหวของเท้าที่เป็นไปอย่างธรรมชาติ ส่วนบริเวณขอบรองเท้าจะมีการถักทอโครงสร้างให้ตึง เพื่อช่วยยึดปลายเท้าและส้นเท้าให้มั่นคงมากยิ่งขึ้น ตลอดจนเพิ่มความสบายและความมั่นคงให้แก่เท้า

พื้นรองเท้า ไนกี้ ฟรี

หน้ารองเท้า ไนกี้ ฟลายนิต อันทันสมัย ได้ถูกนำมาใช้ในรองเท้า ไนกี้ ฟรี พลัส 5.0 (Nike Free+ 5.0)ซึ่งเป็นรองเท้าที่สามารถรองรับแรงกระแทกได้ในระดับปานกลาง (ลำดับต่างๆ มีตั้งแต่1-10 โดยลำดับ 1 ใกล้เคียงการวิ่งด้วยเท้าเปล่ามากที่สุด และลำดับ 10เทียบได้กับรองเท้าวิ่งโดยทั่วไป) ซึ่งพื้นรองเท้าที่มีลักษณะเป็นร่องลายรังผึ้งของ ไนกี้ ฟรีมีความยืดหยุ่นและสามารถโค้งงอตามเท้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ โดยร่องบากลึกแนวเฉียงที่พาดผ่านส่วนเว้าของฝ่าเท้าช่วยให้การเคลื่อนไหวของส่วนกลางเท้าเป็นไปอย่างเป็นธรรมชาติในขณะที่ผู้วิ่งกำลังก้าวสลับเท้า

ดังนั้นพื้นรองเท้าของ ไนกี้ ฟรี ฟลายนิต จึงเป็นผลมาจากการค้นคว้าวิจัยและการออกแบบทางหลักชีวกลศาสตร์ ที่ไนกี้ได้ค้นคว้ามาอย่างยาวนานนับทศวรรษเพื่อมอบประสบการณ์ในการวิ่งที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ การผสานหน้ารองเท้าด้วยเทคโนโลยี ไนกี้ ฟลายนิต ที่ช่วยยึดกระชับเท้าเข้ากับพื้นรองเท้าชั้นกลางและชั้นนอก ไนกี้ ฟลายนิต จึงมีความยืดหยุ่นสูง และถือเป็นการพัฒนาครั้งสำคัญที่ส่งผลให้มีรองเท้าวิ่ง ที่ช่วยให้การวิ่งเป็นไปอย่างธรรมชาติมากยิ่งขึ้นและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่นักกีฬาในการวิ่งระยะทางไกลๆ

ข้อมูลเพิ่มเติมผลิตภัณฑ์ ไนกี้ ฟรี ไฮเปอร์ฟีล

ไนกี้ ฟรี ไฮเปอร์ฟีล (Nike Free Hyperfeel)ออกแบบด้วยหลักการเคลื่อนไหวที่เป็นธรรมชาติ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเคลื่อนไหวเท้าให้เป็นไปอย่างธรรมชาติ โดยได้แรงบันดาลใจในการออกแบบจากแนวคิด “เนเจอร์ แอมปลิฟลายด์” (Nature Amplified) ของไนกี้ซึ่งเป็นแนวทางที่คำนึงถึงการเคลื่อนไหวทางร่างกาย ด้วยการอาศัยข้อมูลทางหลักวิทยาศาสตร์และประสบการณ์จริงของนักกีฬา

ข้อมูลเชิงลึกจากการวิจัยได้ช่วยให้ทีมออกแบบผลิตภัณฑ์กีฬาของไนกี้ได้จัดวางตำแหน่งการรองรับแรงกระแทกและการยึดเกาะของพื้นรองเท้าชั้นนอกได้อย่างแม่นยำ เพื่อให้ได้รองเท้าที่มีพื้นบาง ที่มาพร้อมกับการบุซับและการปกป้องเฉพาะในจุดที่จำเป็นเท่านั้น โดยพื้นรองเท้าลูนาร์ลอนชั้นใน มีร่องเซาะเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่น ด้วยการเปิดช่องให้เท้าสัมผัสกับชั้นรองรับแรงกระแทกของลูนาร์ลอนได้โดยตรงขณะที่พื้นรองเท้าชั้นนอกเป็นลายวอฟเฟิลแบบบางเฉียบช่วยทำให้เท้าอยู่แนบชิดกับพื้นวิ่งมากยิ่งขึ้น

นักวิจัยผลิตภัณฑ์กีฬาของไนกี้ ได้ศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดว่าส่วนใดของเท้าที่ต้องสัมผัสกับพื้นและรองรับแรงกด และมีส่วนใดบ้างที่ต้องการการยึดเกาะ พวกเขาจึงได้ใช้เทคโนโลยีตรวจจับแรงกดและฟิล์มความไวสูงเพื่อวิเคราะห์เท้าที่กำลังเคลื่อนไหว ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้คือ ไนกี้ฟรีไฮเปอร์ฟีล รองเท้าที่เลียนแบบการทำงานอย่างสอดประสานกันของเท้ามนุษย์ โฟมลูนาร์ลอนได้ทำหน้าที่บุซับแรงกระแทกเสมือนกล้ามเนื้อใต้ฝ่าเท้า พื้นรองเท้าชั้นนอกทำหน้าที่ปกป้องเสมือนกับผิวหนังหนาๆ ขณะที่โครงสร้าง ไดนามิค ฟลายไวร์ (Dynamic Flywire)คอยยืดและโอบอุ้มฝ่าเท้าให้แน่นกระชับ

“ไนกี้ฟรีไฮเปอร์ฟีล มีส่วนประกอบโดยรวมน้อยกว่าและจัดให้เท้าวางทาบอยู่บนโฟมลูนาร์ลอนที่ให้การตอบสนองที่ดี ซึ่งรองเท้าจึงทำหน้าที่เสมือนเป็นส่วนหนึ่งของเท้าและทำให้ผู้วิ่งรับรู้ได้ถึงความรู้สึกถึงการเคลื่อนไหวตามธรรมชาติ” โทนี่ บิ๊กเนลล์ รองประธานฝ่ายนวัตกรรมรองเท้าวิ่งของไนกี้ กล่าว

พื้นรองเท้าชั้นนอก

ไนกี้ฟรีไฮเปอร์ฟีลได้หวนรำลึกถึงยุคของ บิล เบาเวอร์แมน ผู้ร่วมก่อตั้งไนกี้และอดีตโค้ชกีฬาประเภทลู่และลานของมหาวิทยาลัยโอเรกอน โดยใช้พื้นรองเท้าชั้นนอกเป็นลายวอฟเฟิลผ่านการออกแบบให้มีปุ่มที่จัดวางอย่างเฉพาะเจาะจงในจุดหลักๆ ที่มีแรงกดเกิดขึ้น นอกจากนี้ยังเสริมยาง XDF ซึ่งมีความทนทานสูงในส่วนส้นเท้า เพื่อป้องกันการสึกหรอ

การรองรับแรงกระแทก

รองเท้าไนกี้ฟรีไฮเปอร์ฟีลได้ใช้วัสดุเพียงชั้นเดียวคั่นระหว่างเท้ากับพื้นรองเท้าชั้นนอก โดยเป็นการออกแบบให้มีชั้นวัสดุน้อยที่สุดเพื่อให้รู้สึกถึงการเคลื่อนไหวตามธรรมชาติได้มากที่สุด (ภายในมีพื้นรองเท้าชั้นในเป็นอุปกรณ์เสริมเพื่อความกระชับพอดีเฉพาะบุคคล)

ความกระชับและการรองรับเท้า

เทคโนโลยี ไนกี้ ฟลายนิต ในส่วนหน้ารองเท้า ช่วยสร้างแรงกดกระชับพร้อมทั้งการรองรับในจุดที่จำเป็นโดยที่ไม่ต้องมีโครงและน้ำหนักส่วนเกิน สายโยงของ ไนกี้ ฟลายไวร์ ได้ช่วยให้การรองรับเท้ามั่นคงและยืดเท้าไว้กับพื้นรองเท้า โดยที่มีโครงสร้างไร้รอยต่อของหน้ารองเท้าคอยช่วยลดส่วนประกอบของรองเท้าและเมื่อเปรียบเทียบกับรองเท้าวิ่งรุ่นแอร์ พีกาซัส (Air Pegasus)จะเห็นว่า แอร์ พีกาซัส (Air Pegasus)ซึ่งเป็นรองเท้าวิ่งรุ่นพื้นฐาน มีส่วนประกอบถึง 57 ชิ้นในขณะที่ ไนกี้ ฟรี ไฮเปอร์ฟีล มีส่วนประกอบเพียง 7 ชิ้นเท่านั้น

ข้อมูลเพิ่มเติมผลิตภัณฑ์ไนกี้ แอโรลอฟท์และ ไดร-ฟิต

ผลิตภัณฑ์ชุดกีฬานวัตกรรมใหม่ล่าสุดจากไนกี้จะช่วยให้ร่างกายสามารถควบคุมอุณหภูมิในขณะวิ่งให้เหมาะสมได้ในสภาพอากาศที่หลากหลาย โดยนวัตกรรมเหล่านี้อาศัยข้อมูลตามปรัชญาการออกแบบ“เนเจอร์แอมปลิฟลายด์” (Nature Amplified) ของไนกี้ซึ่งเป็นแนวทางที่คำนึงถึงร่างกายในขณะที่มีการเคลื่อนไหวเป็นสำคัญและอาศัยข้อมูลในการพัฒนาจากทางวิทยาศาสตร์และประสบการณ์จริงของนักกีฬา เพื่อช่วยให้นักวิ่งรู้สึกสบาย ได้รับการปกป้อง และมีสมาธิกับการสร้างผลงานของตนเองได้อย่างเต็มที่

ทีมนักออกแบบและวิศวกรของไนกี้ได้ร่วมงานกับนักวิทยาศาสตร์ในห้องปฏิบัติการระดับโลก คือ ห้องปฏิบัติการวิจัยกีฬาของไนกี้ (Nike Sport Research Lab - NSRL)พร้อมด้วยสมาชิกจากทีมนวัตกรรมชั้นสูง (Advanced Innovation Team) ของไนกี้เพื่อเก็บข้อมูลสำคัญว่า นักกีฬามีพฤติกรรมอย่างไรในขณะที่กำลังเคลื่อนไหวและตอบสนองต่อวัสดุต่างๆ อย่างไรทั้งในเรื่องน้ำหนัก องค์ประกอบ และคุณสมบัติเรื่องอุณหภูมิ

เทคโนโลยี ไนกี้ แอโรลอฟท์ ได้มุ่งเอาชนะความท้าทายที่จะช่วยรักษาอุณหภูมิร่างกายให้นักวิ่งรู้สึกอบอุ่นแต่ไม่ร้อนจนเกินไปท่ามกลางสภาพอากาศที่เย็น นวัตกรรมนี้เปิดตัวด้วยไนกี้ แอโรลอฟท์ 800 เวสต์ (Nike Aeroloft 800 Vest)เสื้อแบบแขนกุดพร้อมชั้นวัสดุบุซับที่มีน้ำหนักเบาเป็นพิเศษซึ่งใช้เทคโนโลยีการเจาะปรุเนื้อผ้าโดยการเคลื่อนไหวร่างกายจะช่วยเสริมการระบายอากาศภายในเสื้อทำให้ความร้อนถ่ายเทออกจากร่างกายผ่านรูปรุที่เจาะด้วยเลเซอร์ไว้ที่ตำแหน่งระหว่างช่องชั้นในโดยรูพรุนทั้ง 800 รู ที่ได้รับการวางตำแหน่งไว้ตามส่วนต่างๆ ของร่างกายจะช่วยให้นักกีฬาเคลื่อนไหวและรักษาความอบอุ่นให้กับร่างกายได้อย่างเต็มที่วัสดุด้านข้างและหัวไหล่ซึ่งเป็นผ้า ไดร-ฟิต (Dri-FIT)ที่ดูดซับความชื้นได้ดีคอยทำหน้าที่ช่วยเพิ่มการระบายอากาศ ในขณะที่ผ้าด้านนอกที่เป็นริพสต็อปไนล่อนช่วยให้ความทนทานและป้องกันลมได้ดี เสื้อวิ่ง ไนกี้ แอโรลอฟท์ รันนิ่ง เวสต์ เป็นเสื้อที่ทั้งเบาและบาง สามารถพับเก็บไว้ในกระเป๋าเพื่อนำมาใช้สวมทับหรือพกติดตัวได้อย่างสะดวก

“ไนกี้ แอโรลอฟท์ เป็นตัวอย่างของความก้าวหน้าครั้งสำคัญในการออกแบบเสื้อผ้าเพื่อสนองความต้องการที่หลากหลายของนักกีฬาและสภาพอากาศที่แตกต่างกันออกไป เราบรรลุผลสำเร็จครั้งนี้ได้ด้วยการศึกษานักกีฬาที่กำลังเคลื่อนไหว พร้อมการรับฟังข้อคิดเห็นของพวกเขา และผลักดันพัฒนาการนี้ด้วยการทดสอบอย่างเข้มข้นทั้งในห้องปฏิบัติการและในสภาพการใช้งานจริง” ลี โฮลแมน รองประธานฝ่ายออกแบบเสื้อผ้ากีฬาของไนกี้ กล่าว

ไนกี้ แอโรลอฟท์ ผ่านการทดสอบอย่างหนักหน่วงที่ NSRL โดยใช้หุ่นที่ออกแบบเป็นพิเศษที่สามารถออกเหงื่อได้ และมีการทดสอบโดยนักวิ่งชั้นนำในสภาพอากาศที่รุนแรงในประเทศนิวซีแลนด์และญี่ปุ่น นักวิทยาศาสตร์ได้วิเคราะห์ประสิทธิภาพของทุกองค์ประกอบ ตั้งแต่การจัดวางรูปรุไปจนถึงขนาดของแผ่นกั้นชั้นในและชนิดของวัสดุบุซับที่ใช้ เทคโนโลยีใหม่นี้จะถูกนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของไนกี้ในอนาคตอย่างทั่วถึงในทุกประเภทกีฬา

ในส่วนเทคโนโลยี ไดร-ฟิต ของไนกี้ได้รับความนิยมอย่างสูงและได้ผ่านบทพิสูจน์แล้วว่าสามารถช่วยให้นักกีฬารู้สึกแห้งสบายตัวโดยการดูดซับเหงื่อและถ่ายเทอากาศออกสู่วัสดุชั้นนอกของเสื้อผ้า ขณะนี้ ไดร-ฟิต ได้ขยายตัวสู่รูปแบบการตัดเย็บและการออกแบบใหม่ๆ เพื่อสนองต่อความต้องการทั้งในด้านประสิทธิภาพ รูปทรง และความสบายในหลากหลายสภาพอากาศ

“นักออกแบบของไนกี้มุ่งเน้นการแก้ปัญหาเพื่อที่จะเพิ่มประสิทธิภาพให้กับนักกีฬา เราตระหนักดีว่านักกีฬาต้องการรักษาอุณหภูมิร่างกายไว้ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมที่สุด พวกเขาต้องการเสื้อผ้าที่แห้งเร็วและต้องการให้เสื้อผ้ายืดหยุ่นไปตามการเคลื่อนไหวของพวกเขา ผ้า ไดร-ฟิต นิต, ไดร-ฟิต ทัช และ ไดร-ฟิต วูล สามารถตอบสนองความต้องการเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี” จอห์น โฮค รองประธานฝ่ายออกแบบผลิตภัณฑ์ของไนกี้ กล่าว

ไดร-ฟิตนิต(Nike Dri-FIT Knit) คือผ้าที่นุ่มสบายและเบาเป็นพิเศษ โดยใช้เทคนิคการทอหลายรูปแบบร่วมกันซึ่งเห็นได้อย่างชัดเจนจากเนื้อผ้าทั้งนี้เพื่อสร้างคุณสมบัติการยืดและการระบายอากาศที่เป็นเลิศ ผิวสัมผัสเป็นแบบเปิดโล่งที่ด้านข้างของเสื้อผ้า เพื่อช่วยเสริมการระบายอากาศในบริเวณที่มีเหงื่อออกมาก และการทอขึ้นรูปแบบไร้รอยต่อช่วยให้ความกระชับในแบบที่เรียบสนิทไร้การรบกวน

ไดร-ฟิตทัช (Nike Dri-FIT Touch) เป็นผ้าที่มีน้ำหนักเบาและให้สัมผัสที่นุ่ม เป็นธรรมชาติ พร้อมทั้งความเย็นสบายในสภาพอากาศร้อน เสื้อผ้าเหล่านี้จะมีช่องตัดเจาะเพื่อเสริมการระบายอากาศและช่วยให้ผู้สวมเคลื่อนไหวร่างกายได้เต็มเหยียด

ไดร-ฟิตวูล (Nike Dri-FIT Wool) เป็นผ้าขนแกะผสมโพลีเอสเตอร์ที่มอบความอบอุ่น การระบายอากาศ และการเคลื่อนไหวร่างกายได้เป็นอย่างดี ซึ่งแตกต่างจกาผ้าขนสัตว์แท้ๆ เนื่องจากผ้าผสมจะซับเหงื่อออกจากร่างกายและแห้งได้เร็วกว่า ตะเข็บที่แบนราบช่วยลดโอกาสที่จะเกิดการระคายเคืองจาการเสียดสี และยังช่วยให้เสื้อผ้าเข้ารูปกับร่างกายได้อย่างเรียบสนิทอีกด้วย










กำลังโหลดความคิดเห็น