“จีเอ็มเอ็มแกรมมี่” ผนึกกำลัง ช่อง 3, โมเดิร์นไนน์ทีวี, สทท.11 และ MCOT1 เอาใจแฟนบอลชาวไทย ยิงสดศึกลูกหนังชิงแชมป์ยุโรป รอบสุดท้ายประจำปี 2013 รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี ทุกนัดจากอิสราเอลสู่หน้าจอโทรทัศน์ พร้อมเปิดตัว คอมเมนเตเตอร์ กิตติมศักดิ์
เมื่อช่วงบ่ายวันอังคารที่ 4 มิถุนายน 2556 ที่โรงแรมโกลเด้นทิวลิป ซอฟเฟอรีน พระราม 9 นายไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ประธานกรรมการ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วย นายระฟ้า ดำรงชัยธรรม ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มงาน Content Management บริษัท จีเอ็มเอ็ม แซท จำกัด ร่วมกับ สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสี ช่อง 3, บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) และสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ แถลงข่าว การถ่ายทอดสดฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี “Uefa European Under-21 Football Championship“ ที่ประเทศอิสราเอล” ระหว่างวันที่ 5-18 มิถุนายน พ.ศ.2556 พร้อมกับเปิดตัว commentator กิตติมศักดิ์ ประจำทัวร์นาเมนต์ นำโดย ถิรชัย วุฒิธรรม ประธานพัฒนาฟุตซอลแห่งชาติ ที่จะมาบอกเล่าเกร็ดความรู้ของศาสตร์ฟุตบอลให้แฟนบอลและเยาวชนได้ซึมซับกับลูกหนัง พร้อมกับเกมการแข่งขันที่สนุกกับนักพากย์ชื่อดังของไทยที่มารวมตัวกัน อาทิเช่น “บิ๊กจ๊ะ” สาธิต กรีกุล, “คุณฉุย” สมศักดิ์ สงวนทรัพย์, “แป๊ะ” ไพโรจน์ กิ่งแก้ว, “เฮียนอส” อภิสิทธิ์ อภิสุขสิริ, “หมอเมา” ทพ.พิชัย ปิตุวงศ์, “มาร์ค” สุรเดช สันติเลิศประภพ, “อ้วน เพลย์เมกเกอร์” พรศักดิ์ เขมทัศน์
โดย นายระฟ้า ดำรงชัยธรรม กล่าวว่า “จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ได้รับความไว้วางใจให้เป็นผู้ได้รับสิทธิ์การถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2013 รุ่นอายุ 21 ปี ทุกแมตช์แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย โดยปีนี้ประเทศอิสราเอลเป็นเจ้าภาพ เริ่มการแข่งขันตั้งแต่วันที่ 5-18 มิถุนายน 2556 นับว่าจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ เป็นรายแรกและรายเดียวในประเทศไทยที่ได้รับสิทธิ์การถ่ายทอดสดต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2011 และปี 2013 เป็นปีที่ 2 จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ในฐานะเป็นผู้นำด้านบันเทิงครบวงจรในประเทศไทยที่มีจุดแข็งในการเป็น Total Entertainment Platform และรุกเข้าสู่ธุรกิจคอนเทนต์กีฬาในปี 2555 ที่ผ่านมา โดยได้รับสิทธิ์การถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2012 รุ่นอายุ 21 ปี หรือ UEFA European Under-21 Football Championship 2011 เป็นปีแรก และยังเป็นรายแรกที่จุดประกายให้คนไทยสนใจรับชมการแข่งขันข้างต้นมากขึ้น เนื่องจากนักฟุตบอลซูเปอร์สตาร์ในฟุตบอลลีกดังของยุโรปหลายคนก็เคยผ่านการแข่งขันดังกล่าวนี้มาแล้วทั้งสิ้น”
สำหรับฟุตบอล ชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี หรือ ยูโร ยู-21 หรือชื่อเต็ม Uefa European Under-21 Football Championship เป็นรายการลูกหนังที่จัดตั้งขึ้นโดยสมาคมฟุตบอลยุโรป หรือ ยูฟา (Uefa) ซึ่งจะมีการจัดการแข่งขันกัน 2 ปีครั้ง นับตั้งแต่ครั้งแรกเมื่อปี 1978 เป็นต้นมา รายการนี้นั้นถูกตั้งขึ้นหลังจากการล้มเลิกไปของ Under-23 Challenge Cup ซึ่งเคยจัดให้มีการแข่งขันกันช่วงระหว่างปี 1967-1970 และต่อมาก็ได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น Under-23 Championship พร้อมเริ่มทำการแข่งขันเรื่อยมาตั้งแต่ช่วงปี 1972 จนกระทั่งถึงปี 1978 ทางคณะกรรมการจัดการแข่งก็ได้ออกกฎลดอายุจาก 23 มาเป็น 21 ปี และดำรงกฎนี้ต่อเนื่องเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน
ซึ่งการแข่งขันชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปอายุไม่เกิน 21 ปี เคยมีนักเตะที่มีชื่อเสียงหลายคนที่ได้ฝากผลงานการเล่นในรายการนี้ไว้มากมายอาทิ ดาบิด เดเคอา (สเปน -แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด), โจ ฮาร์ท (อังกฤษ-แมนเชสเตอร์ ซิตี), ฆวน มาตา (สเปน - เชลซี), ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ (อังกฤษ -ลิเวอร์พูล), เซอร์ดาน ชาคิรี (สวิตเซอร์แลนด์-บาเยิร์น มิวนิก), มานูเอล นอยเออร์ (เยอรมนี-บาเยิร์น มิวนิก), เมซุต โอซิล(เยอรมนี-รีล มาดริด), มาริโอ บาโลเตลลี (อิตาลี - เอซี มิลาน), คลาส ยาน ฮุนเตลลาร์ (ฮอลแลนด์-ชาลเก), ปีเตอร์ เช็ก (สาธารณรัฐเช็ก-เชลซี) รวมทั้ง หลุยส์ ฟิโก (โปรตุเกส) อีกด้วย นอกจากนี้ดาวเตะแชมป์ฟุตบอลโลก ปี 2010 อย่าง อีเคร์ กาซิยาส (สเปน-รีล มาดริด), แชมป์ ฟุตบอลโลก ปี 2006 เช่น ฟรานเชสโก ต็อตติ (อิตาลี-โรมา) และ อันเดรีย ปีร์โล (อิตาลี-ยูเวนตุส) อีกทั้งแชมป์ ยูโร 2004 ก็คือ จอร์จอส คารากูนิส (กรีซ-อินเตอร์ มิลาน) ก็เคยได้เริ่มต้นอวดโฉมฝีเท้าของตัวเองกับรายการนี้มาแล้วทั้งสิ้น ก่อนที่จะไปประสบความสำเร็จกับทีมชุดใหญ่ในเวลาต่อมา
ทั้งนี้ “เจ้าภาพ” อิสราเอลใช้ 4 เมืองจัดการแข่งขัน ได้แก่ เยรูซาเลม, เปตาห์ ติกวา, เทล อาวีฟ และ เนตานยา สำหรับ 8 ทีมชาติที่ผ่านเข้ารอบสุดท้าย ชิงชัยครองความเป็นหนึ่งในยุโรปมีดังนี้ กลุ่มเอ ประกอบด้วย อิสราเอล, อังกฤษ, นอร์เวย์, อิตาลี ส่วนกลุ่มบี ประกอบด้วย สเปน แชมป์เก่าปี 2011, ฮอลแลนด์, รัสเซีย, เยอรมนี ซึ่งการแข่งขันครั้งนี้จะนำ 2 ทีมที่มีคะแนนดีที่สุดในแต่ละกลุ่มผ่านเข้าเล่นรอบรองชนะเลิศต่อไป โดยคู่เปิดสนามเป็นการพบกันระหว่าง อิสราเอล กับ นอร์เวย์ ในวันที่ 5 มิถุนายนนี้ ซึ่งโมเดิร์นไนน์ทีวี รับหน้าเสื่อถ่ายทอดสด พร้อมกับช่อง GMM SPORT EXTRA และช่อง GMM SPORT TWO HD โดยจะหมุนเวียนกันถ่ายทอดทางช่อง 3, โมเดิร์นไนน์ทีวี, สทท.11 และ GMM SPORT EXTRAช่อง 19 / GMM SPORT ONE ช่อง 396 ที่กล่องทีวีดาวเทียม GMM Z และชมการถ่ายทอดสดแบบ HD ได้ทางช่อง GMM SPORT TWO HD ช่อง 410 ที่กล่องทีวีดาวเทียมGMM Z HD ส่วนรอบชิงชนะเลิศวันที่ 18 มิถุนายนจะถ่ายทอดสดทางทีวีช่อง 3, GMM SPORT EXTRA และทางช่อง GMM SPORT TWO HD ติดตามรายละเอียดการถ่ายทอดสดเพิ่มเติมได้ทาง www.gmmsport.com