อาร์เยน ร็อบเบน ปีกจอมพลิ้วชาวดัตช์ สวมบทฮีโร่ หลังซัดประตูชัยช่วงท้ายเกม นำ บาเยิร์น มิวนิก ปราบ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ อย่างหวุดหวิด 2-1 ในศึกฟุตบอล ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก รอบชิงชนะเลิศ ที่สนามเวมบลีย์ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 25 พ.ค. ที่ผ่านมา
ฟุตบอล ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก รอบชิงชนะเลิศ
ดอร์ทมุนด์ 1-2 บาเยิร์น มิวนิก
เสียงนกหวีดดังขึ้น บาเยิร์น มิวนิก อาศัยการผ่านบอลเท้าสู่เท้าค่อยๆ ลำเลียงเกมบุก ขณะที่ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ พยายามไล่บี้แดนกลาง แล้วใช้จังหวะฉาบฉวยเล่นงานคู่แข่ง แต่ยังไม่มีช็อตหวาดเสียวเกิดขึ้นช่วงต้นเกม
ผ่านไป 10 นาที รูปเกมดูตื้อๆ เนื่องจากการผ่านบอลทั้งคู่ขาดๆ เกินๆ จนถึงนาที 14 ดอร์ทมุนด์ ได้ทักทายแบบจะแจ้ง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี ปั่นไซด์โป้งจากหัวกะโหลกโค้ง มานูเอล นอยเออร์ เทกตัวปัดข้ามคาน ต่อมาไม่กี่อึดใจ มาร์โก รอยส์ เปิดเรียดจากขวามาเสาแรก ยาคุบ บลาสซิคอฟสกี ยิงตามน้ำติดขา นอยเออร์
บาเยิร์นฯ เริ่มกดดันหนัก แต่หวิดเสียประตูนาที 19 รอยส์ รับบอลทะลุช่องบริเวณกลางสนาม ก่อนกระชากมาทางซ้าย แล้วยิงยัดเสาแรกติดเซฟ มานูเอล นอยเออร์ ต่อมา 7 นาที “เสือใต้” ฟรองค์ ริเบรี เปิดโด่งจากซ้ายมากลางประตู มาริโอ มันด์ซูคิช ทะยานโขก โรมัน ไวเดนเฟลเลอร์ ปัดข้ามคาน
เข้าสู่นาที 29 แชมป์บุนเดสลีกา 2012-13 น่าขึ้นนำแบบสุดๆ โธมัส มุลเลอร์ จ่ายแทยงมุมจากซ้ายมาให้ อาร์เยน ร็อบเบน หลุดเดี่ยวเข้ามาในกรอบโทษ ก่อนชิปติดบล็อก ไวเดนเฟลเลอร์ แม้ถูกขึงอยู่นาน ดอร์ทมุนด์ ชวดโอกาสทองนาที 34 รอยส์ แทงทะลุช่องให้ เลวานดอฟสกี พลิกหนีตัวประกบ ก่อนยิงติดบล็อก นอยเออร์
ในเกมที่ผลัดกันรุกและรับ ยักษ์ใหญ่แคว้นบาวาเรียน หวิดเบิกร่องสำเร็จนาที 43 ฮุมเมิลส์ โหม่งสกัดลูกโด่งจากซ้ายวืดบอลตกใส่ ร็อบเบน กระดกเข้าหน้า ไวเดนเฟลเลอร์ จบครึ่งแรกยังเสมอกัน 0-0
ลุยกันต่อครึ่งหลัง “เสือเหลือง” ครองบอลมากกว่าช่วงออกสตาร์ท เมื่อผ่าน 6 นาที ทีมจากถิ่น อัลลิอันซ์ อารีนา เริ่มจูนเครื่องติด ทว่ายังหาช่องเข้าทำกันไม่ได้ จนกระทั่งนาที 60 มหาอำนาจลูกหนังเมืองมิวนิก ได้เฮ ร็อบเบน รับบอลทะลุช่องจาก ริเบรี แล้วแตะหนี ไวเดนเฟลเลอร์ มาทางสุดเส้นหลังฝั่งซ้าย ก่อนตวัดมาเสาสองให้ มันด์ซูคิช แปโล่งๆ ระยะเผาขนตุงตาข่าย
ต่อมา 8 นาที รองแชมป์ลีกสูงสุดเมืองเบียร์ ตีเสมอ 1-1 ดานเต เข้าสสกัดโฉ่งฉ่างแทงเข่าใส่ มาร์โก รอยส์ ล้มลงเสียจุดโทษ ก่อน อิลคาย กุลโดกาน สังหารเสียบมุมขวามือ ถัดมานาที 72 บาเยิร์นฯ หวิดนำหน 2 โธมัส มุลเลอร์ กระชากหนี ไวเดนเฟลเลอร์ ก่อนเปิดเรียดจากขวามาเสาสองซึ่งมี ร็อบเบน ยืนรอเข้าฮอส ทว่า เนเวน ซูโบติช ล้มตัวสกัดชนิดเส้นยาแดงผ่าแปด
ถัดมา 4 นาที แชมป์ยุโรป 4 สมัย ซึ่งทำเกมรุกได้น้ำได้เนื้อกว่า ได้เสียวอีกครั้ง ดาวิด อลาบา สับไกนอกกรอบโทษด้านซ้าย ไวเดนเฟลเลอร์ บินปัดไว้ได้ หลังบดอยู่นาน ความพยายามของ บาเยิร์นฯ มาสัมฤทธิผล นาที 89 ริเบรี พักบอลวางยาวจากแดนหลัง แต่พลิกไม่ได้ ร็อบเบน ซึ่งทะลุมาจากแถวสอง ฉกบอลกระชากเจาะตรงกลางเข้ามาดวลกับ ไวเดนเฟลเลอร์ ก่อนยิงหักข้อเสียบมุมขวามือ ช่วงเวลาที่เหลือ ทีมของ เจอร์เกน คล็อปป์ ลุยเต็มสูบ แต่ก็ไม่ทันการณ์ จบเกม บาเยิร์น มิวนิก ชนะ 2-1 ครองแชมป์ยุโรปสมัยที่ 5
รายชื่อ 11 ตัวจริง
ดอร์ทมุนด์ : โรมัน ไวเดนเฟลเลอร์ , เนเวน ซูโบติช , มัตส์ ฮุมเมิลส์ , ลูคัสซ์ พิสซ์เช็ก , มาร์เซล ชเมลเซอร์ , สเวน เบนเดอร์ , อิลคาย กุนโดกาน , มาร์โก รอยส์ , ยาคุบ บลาสซิคอฟสกี , เควิน โกรสส์ครอยท์ซ , โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี
บาเยิร์นฯ : มานูเอล นอยเออร์ , ดานเต , เจอโรม บัวเต็ง , ฟิลิปป์ ลาห์ม , ดาวิด อลาบา , ฟรองค์ ริเบรี , ฆาบี มาร์ติเนซ , อาร์เยน ร็อบเบน , โธมัส มุลเลอร์ , บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ , มาริโอ มันด์ซูคิช
ฟุตบอล ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก รอบชิงชนะเลิศ
ดอร์ทมุนด์ 1-2 บาเยิร์น มิวนิก
เสียงนกหวีดดังขึ้น บาเยิร์น มิวนิก อาศัยการผ่านบอลเท้าสู่เท้าค่อยๆ ลำเลียงเกมบุก ขณะที่ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ พยายามไล่บี้แดนกลาง แล้วใช้จังหวะฉาบฉวยเล่นงานคู่แข่ง แต่ยังไม่มีช็อตหวาดเสียวเกิดขึ้นช่วงต้นเกม
ผ่านไป 10 นาที รูปเกมดูตื้อๆ เนื่องจากการผ่านบอลทั้งคู่ขาดๆ เกินๆ จนถึงนาที 14 ดอร์ทมุนด์ ได้ทักทายแบบจะแจ้ง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี ปั่นไซด์โป้งจากหัวกะโหลกโค้ง มานูเอล นอยเออร์ เทกตัวปัดข้ามคาน ต่อมาไม่กี่อึดใจ มาร์โก รอยส์ เปิดเรียดจากขวามาเสาแรก ยาคุบ บลาสซิคอฟสกี ยิงตามน้ำติดขา นอยเออร์
บาเยิร์นฯ เริ่มกดดันหนัก แต่หวิดเสียประตูนาที 19 รอยส์ รับบอลทะลุช่องบริเวณกลางสนาม ก่อนกระชากมาทางซ้าย แล้วยิงยัดเสาแรกติดเซฟ มานูเอล นอยเออร์ ต่อมา 7 นาที “เสือใต้” ฟรองค์ ริเบรี เปิดโด่งจากซ้ายมากลางประตู มาริโอ มันด์ซูคิช ทะยานโขก โรมัน ไวเดนเฟลเลอร์ ปัดข้ามคาน
เข้าสู่นาที 29 แชมป์บุนเดสลีกา 2012-13 น่าขึ้นนำแบบสุดๆ โธมัส มุลเลอร์ จ่ายแทยงมุมจากซ้ายมาให้ อาร์เยน ร็อบเบน หลุดเดี่ยวเข้ามาในกรอบโทษ ก่อนชิปติดบล็อก ไวเดนเฟลเลอร์ แม้ถูกขึงอยู่นาน ดอร์ทมุนด์ ชวดโอกาสทองนาที 34 รอยส์ แทงทะลุช่องให้ เลวานดอฟสกี พลิกหนีตัวประกบ ก่อนยิงติดบล็อก นอยเออร์
ในเกมที่ผลัดกันรุกและรับ ยักษ์ใหญ่แคว้นบาวาเรียน หวิดเบิกร่องสำเร็จนาที 43 ฮุมเมิลส์ โหม่งสกัดลูกโด่งจากซ้ายวืดบอลตกใส่ ร็อบเบน กระดกเข้าหน้า ไวเดนเฟลเลอร์ จบครึ่งแรกยังเสมอกัน 0-0
ลุยกันต่อครึ่งหลัง “เสือเหลือง” ครองบอลมากกว่าช่วงออกสตาร์ท เมื่อผ่าน 6 นาที ทีมจากถิ่น อัลลิอันซ์ อารีนา เริ่มจูนเครื่องติด ทว่ายังหาช่องเข้าทำกันไม่ได้ จนกระทั่งนาที 60 มหาอำนาจลูกหนังเมืองมิวนิก ได้เฮ ร็อบเบน รับบอลทะลุช่องจาก ริเบรี แล้วแตะหนี ไวเดนเฟลเลอร์ มาทางสุดเส้นหลังฝั่งซ้าย ก่อนตวัดมาเสาสองให้ มันด์ซูคิช แปโล่งๆ ระยะเผาขนตุงตาข่าย
ต่อมา 8 นาที รองแชมป์ลีกสูงสุดเมืองเบียร์ ตีเสมอ 1-1 ดานเต เข้าสสกัดโฉ่งฉ่างแทงเข่าใส่ มาร์โก รอยส์ ล้มลงเสียจุดโทษ ก่อน อิลคาย กุลโดกาน สังหารเสียบมุมขวามือ ถัดมานาที 72 บาเยิร์นฯ หวิดนำหน 2 โธมัส มุลเลอร์ กระชากหนี ไวเดนเฟลเลอร์ ก่อนเปิดเรียดจากขวามาเสาสองซึ่งมี ร็อบเบน ยืนรอเข้าฮอส ทว่า เนเวน ซูโบติช ล้มตัวสกัดชนิดเส้นยาแดงผ่าแปด
ถัดมา 4 นาที แชมป์ยุโรป 4 สมัย ซึ่งทำเกมรุกได้น้ำได้เนื้อกว่า ได้เสียวอีกครั้ง ดาวิด อลาบา สับไกนอกกรอบโทษด้านซ้าย ไวเดนเฟลเลอร์ บินปัดไว้ได้ หลังบดอยู่นาน ความพยายามของ บาเยิร์นฯ มาสัมฤทธิผล นาที 89 ริเบรี พักบอลวางยาวจากแดนหลัง แต่พลิกไม่ได้ ร็อบเบน ซึ่งทะลุมาจากแถวสอง ฉกบอลกระชากเจาะตรงกลางเข้ามาดวลกับ ไวเดนเฟลเลอร์ ก่อนยิงหักข้อเสียบมุมขวามือ ช่วงเวลาที่เหลือ ทีมของ เจอร์เกน คล็อปป์ ลุยเต็มสูบ แต่ก็ไม่ทันการณ์ จบเกม บาเยิร์น มิวนิก ชนะ 2-1 ครองแชมป์ยุโรปสมัยที่ 5
รายชื่อ 11 ตัวจริง
ดอร์ทมุนด์ : โรมัน ไวเดนเฟลเลอร์ , เนเวน ซูโบติช , มัตส์ ฮุมเมิลส์ , ลูคัสซ์ พิสซ์เช็ก , มาร์เซล ชเมลเซอร์ , สเวน เบนเดอร์ , อิลคาย กุนโดกาน , มาร์โก รอยส์ , ยาคุบ บลาสซิคอฟสกี , เควิน โกรสส์ครอยท์ซ , โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี
บาเยิร์นฯ : มานูเอล นอยเออร์ , ดานเต , เจอโรม บัวเต็ง , ฟิลิปป์ ลาห์ม , ดาวิด อลาบา , ฟรองค์ ริเบรี , ฆาบี มาร์ติเนซ , อาร์เยน ร็อบเบน , โธมัส มุลเลอร์ , บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ , มาริโอ มันด์ซูคิช