หงส์แยกทาง “ซัวเรซ”? แข้งอัจฉริยะจอมเสื่อม

เอเยนซี - หลุยส์ ซัวเรซ ฮีโร่โหม่งประตูตีเสมอ 2-2 ช่วงทดเวลาบาดเจ็บเลยมา 6 นาทีเศษช่วย ลิเวอร์พูล รอดพ้นความปราชัยคา แอนฟิลด์ ต่อ เชลซี ศึก พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 เมษายนที่ผ่านมา แต่จังหวะระหว่างเกมที่ไปงับท่อนแขน บรานิสลาฟ อิวาโนวิช กองหลังทีมเยือน ถูกยกขึ้นมาพูดถึงเป็นประเด็นร้อน เพราะไม่ใช่แค่ทำให้ภาพลักษณ์ของกองหน้าทีมชาติอุรุกวัยที่ติดลบอยู่แล้วดำดิ่งไปอีก แต่ยังหมายถึงอนาคตกับ “หงส์แดง” ที่ต้องนำมาทบทวนอีกครั้งนับจากนี้ รวมถึงบทลงโทษย้อนหลังที่อาจตามมาอีก

จังหวะธรรมดายื้อยุดกับ อิวาโนวิช ที่ตามประกบติด แต่ไม่รู้ ซัวเรซ คิดอะไรอยู่ก้มไปงับท่อนแขนขวาดื้อๆ ซึ่ง เควิน เฟรนด์ กรรมการไม่ได้แจกใบเหลือง อาจเพราะไม่เคยเจอกรณีนี้มาก่อน ทั้งที่หอก ลิเวอร์พูล เคยมีประวัติงามหน้าสมัยค้าแข้งให้ อาแจ๊กซ์ อัมสเตอร์ดัม จนถูกแบน 7 เกม เนื่องจากกัดไหล่ อ็อตมาน บัคคัล กองกลาง พีเอสวี ไอนด์โฮเฟน จนได้ฉายา “แคนนิบัล ออฟ อาแจ๊กซ์” มาแล้ว

ทันทีที่จบเกมจึงมีควันหลังตามมาเพียบ โดยเฉพาะกระแสกดดันทำเอา ซัวเรซ ต้องออกมาแจ้งว่าขอโทษ อิวาโนวิช ที่หมั่นเขี้ยวมากไปหน่อย ผ่าน “ทวิตเตอร์” เครือข่ายสังคมออนไลน์ ว่า “ผมเศร้ากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่าย โดยได้ขอโทษ อิวาโนวิช แล้ว โลกฟุตบอลเรื่องแบบนี้อาจจะยกโทษให้ไม่ได้ แต่ผมเสียใจจริงๆ เราได้คุยกันทางโทรศัพท์ และผมก็กล่าวคำนี้โดยตรงกับเขา ซึ่งก็ต้องขอบคุณที่ยอมรับสิ่งนี้” แต่คงไม่รอดพ้นการตรวจสอบของ สมาคมฟุตบอลอังกฤษ หรือ เอฟเอ ที่น่าจะมีการลงโทษย้อนหลังอย่างแน่นอน

ถือว่าฤดูกาลนี้ผลงานส่วนตัวของ ซัวเรซ ยอดเยี่ยมที่สุดนับตั้งแต่ย้ายมาเล่นให้ ลิเวอร์พูล เป็นปีที่ 3 โดยซัดไปแล้วทุกรายการรวม 30 ประตู ถ้านับเฉพาะ พรีเมียร์ ลีก ก็นำเป็นดาวซัลโวถลุงไปแล้ว 23 ประตู จนทำให้ติดโผเป็น 1 ใน 6 แข้งลุ้นรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีจากการโหวตของสมาคมนักฟุตบอลอาชีพ หรือ พีเอฟเอ แม้ว่า “หงส์แดง” จะเกาะอันดับ 7 ไม่มีลุ้นไป ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก แล้วก็ตาม โดยโปรแกรมตนเองเหลือ 4 นัดตาม เชลซี 11 แต้มแถมยังแข่งมากกว่าอีก 1 นัด

ซึ่งก่อนเกม ซัวเรซ ออกมาสยบกระแสย้ายทีมด้วยการบอกว่าจะอยู่นำทัพ ลิเวอร์พูล ต่อไปในฤดูกาลหน้า แม้จะวืดตั๋ว แชมเปียนส์ลีก แต่ถึงตอนนี้อาจจะต้องนำอนาคตมาทบทวนใหม่อีกครั้ง เพราะพฤติกรรมเช่นนี้กับการค้าแข้งบนเกาะอังกฤษไม่ใช่เรื่องง่าย ก็รู้ๆ กันอยู่ว่าสื่อเมืองผู้ดีแสบขนาดไหน โดยเมื่อต้นฤดูกาลแข้งวัย 26 ปีก็ถูกกดดันอย่างหนักกับพฤติกรรมตบตาพุ่งล้มมาแล้ว

มิหนำซ้ำยังถูก แกรม ซูเนสส์ ตำนานกองกลางทีมชาติสกอตแลนด์ ของ ลิเวอร์พูล ตำหนิว่าได้ทำเรื่องที่น่าอับอายจนไม่น่ามีโลโก้นกลิเวอร์เบิร์ดบนหน้าอก “น่าอดสูอย่างยิ่ง สำหรับทั้งสโมสร และบอร์ดบริหารที่จะต้องรั้งแข้งที่ดีที่สุด แต่ หลุยส์ ทำตัวเองให้ยากกับการอยู่ ลิเวอร์พูล ต่อไป สิ่งที่เป็นไปได้ตอนนี้ก็คือ การแก้ตัว แต่ผมเชื่อว่าน่าจะเป็นโอกาสสุดท้ายแล้วที่จะต้องพิจารณาตัวเอง”

“ลิเวอร์พูล อาจจะยังไม่มีแข้งระดับเวิลด์คลาส ตอนนี้ หลุยส์ ก็คือหนึ่งในคนที่ใกล้เคียง แต่ทุกอย่างเริ่มลำบากเพราะทำตัวเอง สิ่งที่เกิดขึ้นคืออะไรที่เด็กๆ มักจะทำกันเมื่อไม่พอใจ ดังนั้น เขาจะต้องมีขอบเขตของความบ้าคลั่งนี้ หากสามารถควบคุมได้นะ” แข้งที่เคยสวมยูนิฟอร์ม “หงส์แดง” ช่วงปี 1978-1984 กล่าวในท้ายที่สุด

ด้าน เอียน อายร์ ผู้อำนวยการด้านจัดการของ ลิเวอร์พูล ก็ออกมาผสมโรงว่า “พฤติกรรมของ หลุยส์ ไม่เหมาะสมสวมเสื้อ ลิเวอร์พูล ซึ่งเขาก็ทราบดีถึงการปล่อยให้ทุกคนที่สโมสรรวมถึงแฟนบอลรู้สึกแย่ขนาดไหน เราจะคุยเรื่องนี้กันภายในและรอดูท่าทีจากนี้ของ เอฟเอ” ส่วน เบรนแดน ร็อดเจอร์ส นายใหญ่ถิ่น แอนฟิลด์ กล่าวถึงลูกทีมว่า “คงจะต้องมีการดูเทปย้อนหลังอีกครั้งและคุยกับนักเตะเป็นส่วนตัว เพราะการทำตัวแบบนี้ยากที่จะยอมรับและผมก็จะทำให้เขาทราบเรื่องนี้”

เรื่องฝีเท้าไม่มีใครกังขาในความยอดเยี่ยมของ ซัวเรซ อยู่แล้ว แต่เมื่อท่าทีของ ลิเวอร์พูล และกระแสที่เป็นไปในเชิงลบเช่นนี้ เจ้าตัวต้องปรับเปลี่ยนทัศนคติและเลิกนิสัยไม่ยอมโตเป็นการด่วน เนื่องจากสร้างเรื่องต่อเนื่องตั้งแต่เล่นให้ทีมชาติอุรุกวัยด้วยการทำ “แฮนด์ ออฟ ก็อด” ฟุตบอลโลก 2010 รอบ 8 ทีมที่เจอกับ กานา ล่าสุดศอก กอนซาโล จารา แข้ง ชิลี เกมคัดไป เวิลด์ คัพ 2014 ตามด้วยสดๆ ร้อนๆ ใช้มือเล่นจนเสียจุดโทษให้ เชลซี ยิงขึ้นนำ 2-1 ส่วนการเล่นที่อังกฤษนอกจากพุ่งล้มก็มีปัญหาเหยียดผิว ปาทริซ เอฟรา แบ็กซ้าย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จนถูกแบน 8 เกมแถมกลับมายังไม่ยอมจับมืออีก ไม่เช่นนั้นเวลาแยกทางอาจจะต้องมาถึงแล้วก็เป็นไปได้