“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ฟอร์มฝืด หลังถูก เรดดิง เปิดรัง มาเดจ์สกี สเตเดียม ยันเสมอแบบไร้สกอร์ ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 13 เม.ย. ที่ผ่านมา ทำให้โอกาสคว้าสิทธิลงเตะสโมสรยุโรปริบหรี่
ฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
เรดดิง 0-0 ลิเวอร์พูล
เสียงนกหวีดดังขึ้น ลิเวอร์พูล ครองบอลรุกมากกว่า แต่จังหวะสุดท้ายยังขาดๆ เกินๆ จึงไม่มีโอกาสเงื้อเท้ายิงแบบจะแจ้ง ก่อนได้เสียวนาที 15 เมื่อ แดเนียล สเตอร์ริดจ์ ปล่อยลูกจ่ายของ ฟิลิปเป คูตินโญ หลุดมาถึง หลุยส์ ซัวเรซ ทางกรอบโทษด้านขวา ก่อนบรรจงชิปข้าม อเล็กซ์ แม็คคาร์ธี ทว่า แนวรับ เรดดิง เคลียร์หน้าเส้นประตู
ต่อมา นาที 21 “หงส์แดง” มีลุ้นอีกครั้ง เมื่อ ฟิลิปเป คูตินโญ เก็บบอลทางกรอบโทษด้านซ้าย แล้ววนหนีตัวประกบ ก่อนยิงเรียดติดไซด์โป้ง อเล็กซ์ แม็คคาร์ธี พุ่งปัดออกหลัง ช่วง 15 นาทีสุดท้าย เจ้าถิ่น เริ่มมีหมัดสวน แต่เกือบเสียประตูนาที 34 เมื่อ คริส กุนเทอร์ จ่ายคืนหลังเข้าเท้า แดเนียล สเตอร์ริดจ์ ก่อนไหลมาให้ หลุยส์ ซัวเรซ ซัดจากกรอบโทษด้านขวา ติดเซฟ แม็คคาร์ธี ก่อน สตีเวน เจอร์ราร์ด วอลเลย์ซ้ำติดบล็อกออกหลัง ช่วงเวลาที่เหลือ ทีมเยือน บุกได้น้ำได้เนื้อกว่า แต่บวกสกอร์เพิ่มไม่ได้ ครบ 45 นาที จึงเสมอกัน 0-0
ครึ่งหลังเปิดฉากเพียง 3 นาที สาวก “เดอะ ค็อป” เฮเก้อ เมื่อ สตีเวน เจอร์ราร์ด เปิดเรียดจากกรอบโทษด้านขวา ฟิลิปเป คูตินโญ ไขว้ผ่านมือ อเล็กซ์ แม็คคาร์ธี ตุงตาข่ายอย่างเหนือชั้น ทว่าไลน์แมนยกธงล้ำหน้า จากนั้นรูปเกมทั้งคู่เปิดแลกกัน แต่ไม่มีช็อตหวาดเสียวเพิ่ม
เข้าสู่นาที 65 อาคันตุกะจากย่านเมอร์ซีย์ไซด์ หวิดขึ้นนำ เมื่อ แดเนียล สเตอร์ริดจ์ เปิดย้อนจากสุดเส้นหลังฝั่งซ้ายมาให้ ฟิลิปเป คูตินโญ แปเล่นทางหลุดเสาไกล ต่อมา 1 นาที กองเชียร์ “เดอะ รอยัลส์” เกือบได้เฮ หลัง พาเวล โพรเกรบเนียค ผ่านเรียดมาให้ โนเอล ฮันท์ ชาร์จจ่อๆ กลางประตูติดเซฟ โฆเซ เรนา
จากนั้น “เครื่องจักรสีแดง” ทำงานหนัก แต่เกือบถูกเจาะตาข่ายนาที 76 เมื่อ โจบี แม็คอานัฟ รับบอลจากที่เพื่อนเปิดมาให้ระยะจุดโทษ ก่อนกลับตัวยิง ทว่า โฆเซ เรนา ปัดข้ามคาน ต่อมา 2 นาที ทีมอันดับ 7 ของตาราง ได้เสียวจากการปั่นฟรีคิกหน้ากรอบโทษด้านซ้ายของ หลุยส์ ซัวเรซ บอลชนเสาไกลออกหลัง
หลังบดอยู่นาน ทีมของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ชวดโอกาสทองนาที 85 เมื่อ เกล็น จอห์นสัน หักเรียดจากกราบขวามาให้ สตีเวน เจอร์ราร์ด แปเน้นๆ แม็คคาร์ธี ปัดออกหลัง ถัดมาไม่กี่อึดใจ แดเนียล สเตอร์ริดจ์ รับบอลยาวจากกราบซ้ายทางเสาสองมาเข้าทาง หลุยส์ ซัวเรซ อัดระยะเผาขนเข้ามือนายทวารคู่แข่ง
ช่วงทดเจ็บนาทีที่ 2 แฟนบอล “เดอะ เรดส์” หวิดเฮ เมื่อ หลุยส์ ซัวเรซ พลิกหนีตัวประกบ ก่อนหลุดเดี่ยวมาทางกรอบโทษด้านขวาแล้วดีดไซด์ก้อยเต็มแรง อเล็กซ์ แม็คคาร์ธี ยังเซฟได้ จบเกมทั้งคู่เสมอกัน 0-0 ทำให้ เรดดิง หยุดสถิติพ่าย 8 เกมรวด ส่วน ลิเวอร์พูล ตามหลัง เอฟเวอร์ตัน 5 แต้ม
รายชื่อ 11 ตัวจริง
เรดดิง : อเล็กซ์ แม็คคาร์ธี, คริส กุนเทอร์, เอเดรียน มาริอัปปา, ชอน มอร์ริสัน, สตีเฟน เคลลี, เจม คาราชาน, โจบี แม็คอานัฟฟ์, การัธ แม็คเคลียรี, แดนนี กัทธรี, พาเวล โพรเกรบเนียค, โนเอล ฮันท์
ลิเวอร์พูล : โฆเซ เรนา, เกล็น จอห์นสัน, โฆเซ เอ็นริเก, แดเนียล แอ็กเกอร์, เจมี คาร์ราเกอร์, สตีเวน เจอร์ราร์ด, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ลูคัส, หลุยส์ ซัวเรซ, ฟิลิปเป คูตินโญ, แดเนียล สเตอร์ริดจ์
ผลฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก ประจำวันเสาร์ที่ 13 เมษายน
อาร์เซนอล 3-1 นอริช
[0-1 ไมเคิล เทอร์เนอร์ น.56, 1-1 มิเคล อาร์เตตา (จุดโทษ) น.85, 2-1 เซบาสเตียน บาสซง (ทำเข้าประตูตัวเอง) น.88, 3-1 ลูคัส โพดอลสกี น.90]
เเอสตัน วิลลา 1-1 ฟูแลม
[1-0 ชาร์ลส เอ็น ซ็อกเบีย น.55, 1-1 ฟาเบียน เดลฟ์ (ทำเข้าประตูตัวเอง) น.66]
เอฟเวอร์ตัน 2-0 ควีนสปาร์กฯ
[1-0 ดาร์เรน กิ๊บสัน น.40, 2-0 วิคเตอร์ อนิเชบี น.56]
เซาแธมป์ตัน 1-1 เวสต์แฮม
[1-0 แกสตัน รามิเรซ น.59, 1-1 แอนดี คาร์โรลล์ น.66]