คอลัมน์ “The Golf Touch” โดย “วันปีย์ สัจจมาร์ค”
หลายครั้งที่ผมมีโอกาสเล่นกอล์ฟกับนักกอล์ฟเยาวชน ลูกศิษย์ชายทั่วๆ ไปที่ไม่ได้ตีไกลเป็นพิเศษ และโดยเฉพาะเวลาออกรอบกับลูกศิษย์ผู้หญิงแล้วพบว่าตัวเองแอบคิดอยู่ในใจว่าเขาเล่นกอล์ฟยากกว่าเราในหลายๆ ครั้ง ยกตัวอย่าง พาร์ 4 - 330 หลาของผู้หญิง หาเจอได้ทั่วไป แต่จะมีผู้หญิงสักกี่คนที่ไดร์ฟได้ 200 หลา ทั้งๆ ที่บางคนเป็นนักกีฬาแต่สามารถไดร์ฟได้แค่ 175 หลา หรือ 180 หลาเท่านั้นเอง หมายความว่าถ้าผู้หญิงคนที่ไดร์ฟได้ 180 หลาเล่นหลุมนี้ เขาจะขึ้นอีก 150 หลาถึงกรีน น้องๆ ไดร์ฟเวอร์เลยทีเดียว ไม้สามจะถึงหรือเปล่ายังไม่รู้ โอกาสคือไม่ถึง ถ้าเป็นคนที่ไดร์ฟได้ระยะแค่ 170 หลาหรือน้อยกว่า จะเหลือระยะขึ้นกรีนอย่างน้อย 160 หลาขึ้นไป เอาไม้อะไรตีดีละคราวนี้ เวลาเป็นเด็กยิ่งแล้วใหญ่ จะให้ไปเริ่มต้นปักทีในแฟร์เวร์ตามระยะที่เหมาะสมกว่า เจ้าตัวก็ไม่ยอมเพราะอายชาวบ้านเขา ถ้ายังนึกในมุมมองของพวกเขาไม่ออกว่ายากอย่างไร เอาเป็นว่าถ้าผู้ชายอกสามศอกอย่างเราๆ ต้องเล่นขึ้นกรีนแทบทุกพาร์ 4 ด้วยหัวไม้ทุกหลุม เราจะว่าอย่างไร ดังนั้นมันกลายเป็นหลุมพาร์ 4 ที่แทบจะไม่มีทางตีสองออนได้สำหรับเขา ผิดหลักการความเป็นพาร์ 4 อย่างมาก เพราะตีสองช็อตไม่ถึง หลุมนั้นควรจะเป็นพาร์ 5 ถ้าลองนึกดูดีๆ เอาหลุมจริงของสนามที่เราเล่นประจำมาวิเคราะห์ก็จะเจอว่าสถานการณ์นี้เกิดขึ้นกับนักกอล์ฟหลายๆ ท่าน ไม่ใช่แต่กับนักกอล์ฟสตรีหรือเด็กอย่างเดียว
หลังจากพยายามหาข้อมูลมาเยียวยาความข้องใจตัวเองก็ได้พบว่าเมื่อปีที่แล้วทาง USGA และ PGA Golf of America ได้พยายามผลักดันไอเดียใหม่ที่เรียกกันว่า "TEE IT FORWARD" ไอเดียนี้เป็นไอเดียของ Barney Adams ผู้ก่อตั้ง Adams Golf หลังจากที่เขาได้พบว่าเขาไปตีกอล์ฟในวันที่อากาศดีมาก สนามดีมาก แต่กลับมาแล้วไม่มีความสุขเลยกับการเล่นกอล์ฟ เมื่อเขาได้วิเคราะห์ว่าทำไมถึงได้กลายเป็นวันที่ไร้ประโยช์เช่นนั้น เขาจึงได้บทสรุปว่า จุดเริ่มต้นของการตีของเขาและของนักกอล์ฟส่วนมากนั้นไกลเกินไป เมื่อวิเคราะห์เพิ่มเติมกับผู้รู้อีกพอสมควร ก็เป็นบ่อเกิดของไอเดียว่าโดยรวมแล้วนักกอล์ฟน่าจะต้องขยับขึ้นมาตีในแท่นทีออฟที่ใกล้หลุมมากกว่านี้ ถึงขั้นที่ทาง PGA of America และ USGA นั้นได้มีตารางแนะนำออกมาด้วยซ้ำ เพื่อให้ใช้เป็นแนวทางให้นักกอล์ฟพอที่นึกออกว่าตัวเองควรจะตีจากสนามระยะเท่าใด โดยใช้ระยะไดร์ฟของคนๆ นั้นเป็นดัชนีชี้วัด ตารางที่แนบมานี้ เป็นตารางแนะนำจากระยะไดร์ฟของแต่ละคนว่าน่าจะเล่นระยะรวมของสนามอยู่ประมาณเท่าไหร่
แน่นอนสำหรับนักกอล์ฟที่ต้องการวัดฝีมือตัวเอง ต้องการซ้อมเพื่อการแข่งขันระดับสูง ความยากของระยะสนามเป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่สามารถเลือกถอยไปเล่นแท่นหลังได้ แต่สำหรับนักกอล์ฟที่ต้องการเล่นกอล์ฟอย่างสนุกสนานนั้น ระยะที่เล่นน่าจะเป็นระยะที่ท้าทาย แต่ไม่ยากจนเกินไป สรุปคือนักกอล์ฟน่าจะเล่นกอล์ฟสนุกขึ้นถ้าเลือกแท่นทีออฟที่เหมาะสมกับฝีมือตัวเอง แต่ในหลายๆ กรณีที่แท่นหน้าสุดยังใกล้ไม่พอ คงต้องขอความร่วมมือและความเห็นใจจากผู้บริหารสนามกอล์ฟให้ช่วยเพิ่มแท่นให้ลูกค้าประจำกลุ่มนี้ด้วย
สมาชิกวงการเรามีหลากหลายเหลือเกิน ทั้งผู้สูงอายุ สตรี เยาวชน ผู้ชายทั่วไป หรือนักกีฬาอาชีพ สนามกอล์ฟเราก็ควรมีแท่นทีหลายแท่นเพื่อให้ครบและเหมาะสมกับระดับฝีมือของทุกคน ส่วนเรื่องที่น่าจะแก้ยากก็คือความเชื่อว่าเล่นแท่นหลังเท่กว่า ซึ่งจริงๆแล้ว ผมกล้าท้าเลยว่าคนส่วนมาก ต่อให้ไปเล่นหน้าสุด หมุดแดงก็ยังไม่สามารถตีอันเดอร์สนามได้ ดังนั้นถ้าสิ่งที่คุณต้องการคือความท้าทาย ความกดดัน การกลับมาแล้วได้บ่นว่าวันนี้มีออกดับเบิ้ล มีโบกี้ พัตต์เบอร์ดี้ไม่ลง ต้องตีไฮบริท การเล่นจากแท่นหลังอาจจะเหมาะสำหรับคุณ แต่ถ้าต้องการตีเร็วตีสนุก มีโอกาสทำแต้ม กลับบ้านมีความสุข ลองเล่นแท่นหน้ากันดูไหมครับ