เอเยนซี - จากผลการแข่งขันในนัดแรก ประจวบเหมาะที่ 2 เสือเมืองเบียร์ทั้ง “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิก กับ “เสือเหลือง” โบรุสเซีย ดอร์ตมุนด์ มีโอกาสทะลุเข้าตัดเชือก แต่เส้นทางข้างหน้าสำหรับการไปให้ถึงโทรฟีหูใหญ่ ถูกขวางลำไว้โดยยอดทีมแห่งแดนกระทิงดุอย่าง “ราชันชุดขาว” รีล มาดริด และ บาร์เซโลนา ซึ่งบรรทัดต่อจากนี้เป็นการพรีวิวศึกฟุตบอล ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดที่สอง ช่วงกลางสัปดาห์นี้ (9-10 เม.ย.)
“เสือเหลือง” รอขย้ำ “มาลากา”
หาก มาริโอ เกิตเซ ไม่พลาดโอกาสทอง 3 หน ดอร์ตมุนด์ คงฝัง มาลากา ถึงลา โรซาเลดา ไปแล้ว โดยเกมนี้ เจอร์เกน คล็อปป์ เตรียมกลับมาใช้ชุดใหญ่ หลังดร็อปตัวหลักในศึกบุนเดสลีกาอย่าง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี, เกิตเซ หรือว่า มาร์โก รอยส์ นัดเปิดบ้านอัด เอาสบวร์ก 4-2 ทั้งยังมีข่าวดีเมื่อ แมตต์ ฮุมเมลส์ และ ยาคุบ บลาซีคอฟสกี ฟิตที่จะลงสนามคืน ในส่วนทีมเยือน มานูเอล เปเยกรินี ต้องปรับหมาก เมื่อ เวลิงตัน เซ็นเตอร์ฮาล์ฟติดโทษแบน เช่นเดียวกับ มานูเอล อิตูร์รา กลางตัวตัดเกม ซึ่ง มาลากา หวังว่า ชูลิโอ บัปติสตา, ฮาเวียร์ ซาวิโอลา หรือ โรเก ซานตา ครูซ จะสวมบทซูเปอร์ซับ แผลงฤทธิ์เหมือนครั้งพลิกอัด เอฟซี ปอร์โต รอบ 16 ทีมสุดท้าย ทว่าด้วยฟอร์มที่ มาลากา ชนะหนเดียวจาก 6 นัดหลังสุด กอปรกับ ดอร์ตมุนด์ ไร้พ่ายที่ ซิกนัล อิดูนา ปาร์ค เกมยุโรป โอกาสที่ “เสือเหลือง” จะฝังคู่แข่งให้จมเขี้ยวจึงมีสูงทีเดียว
“ชุดขาว” บุกย้ำแค้น “ยักษ์เติร์ก”
ชัยชนะที่เบร์นาบิว 3-0 ทำให้ คริสเตียโน โรนัลโด มองไกลไปถึงการลุ้นนำ รีล มาดริด ประกาศศักดาแชมป์ยุโรปถ้วยใบใหญ่สมัยที่ 10 เกมเยือนถิ่นเติร์ก โชเซ มูรินโญ จะไม่มี เซร์จิโอ รามอส กับ ชาบี อลอนโซ ที่ติดโทษแบน ทว่า เปเป้ กับ ลูกา โมดริช ทดแทนได้อย่างไร้ปัญหา ขณะที่ ฟาห์ติ เตริม เจอปัญหาหนักอกกว่า เมื่อ กาลาตาซาราย ซึ่งต้องยิงให้ได้อย่างน้อย 3 ประตู ดันมาขาด บูรัค ยิลมาซ ดาวซัลโวประจำทีม เช่นเดียวกับที่ไร้ ดานี โนอุนกู รับมือกับแนวรุกขั้นเทพของ “ราชันชุดขาว” อีกทั้งเจ้าถิ่นสถิติไม่สู้ดีในเติร์ก เทเลคอม อารีนา ชนะหนเดียวถ้วยนี้ โอกาสที่ ดิดิเยร์ ดร็อกบา หรือ เวสลีย์ สไนจ์เดอร์ จะพลิกสถานการณ์ให้ต้นสังกัดจากแดนไก่งวงจึงยากยิ่ง ในเมื่อ รีล มาดริด เหนือชั้นกว่าชัดเจน ที่สำคัญยามเล่นเป็นทีมเยือนสามารถคว้าชัยได้ถึง 10 เสมอ 2 ไม่แพ้ใครในแชมเปียนส์ลีก ซีซันนี้
“ม้าลาย” เอาคืน “เสือใต้” ไม่ไหว
บาเยิร์น มิวนิก ทำศึกยุโรปโดยไร้ความกังวล เมื่อคว้าแชมป์บุนเดสลีกา สมัยที่ 23 ไปแล้ว นัดเยือนตูริน จุปป์ ไฮย์เกส จัดชุดใหญ่ลงสนามได้ ฆาบี มาร์ติเนซ พ้นแบนกลับมาตัดเกม รอแค่เช็กฟิต ฟรองค์ ริเบรี ที่เจ็บจากนัดแรก ทว่าคงไม่ใช่ปัญหาเมื่อ อาร์เยน ร็อบเบน แสดงให้เห็นจากนัดแรกที่ “เสือใต้” เฉือนนิ่ม 2-0 ว่าป่วนเกมรับ ยูเวนตุส ได้มากขนาดไหน ส่วน “ม้าลาย” อันโตนิโอ คอนเต ไม่สามารถใช้งาน อาร์ตูโร วิดาล กับ สเตฟาน ลิชท์สไตเนอร์ ที่ติดโทษแบน แถมทาง เซบาสเตียน โจวินโก ตัวรุกเล็กพริกขี้หนูก็มาเจ็บจากเกมลีกที่เฉือน เปสคารา 2-1 จึงเตรียมส่ง พอล ป็อกบา มิดฟิลด์ดาวรุ่งไปช่วย อันเดรีย ปิร์โล แดนหน้า มาร์โก วูซินิช กลับมาประจำการ ถึงแม้ มาร์เซลโล ลิปปี อดีตกุนซือเชื่อ ยูเว คัมแบ็กได้ถ้าประตูแรกมาเร็ว อย่างไรก็ดี “เสือใต้” กำลังร้อนแรงชนะ 15 จาก 16 นัดหลังสุด ตอนนี้ใช่แค่มองเข้าตัดเชือก บาเยิร์น คิดการณ์ไกลถึงชิงแชมป์หนที่ 3 รอบ 4 ปีด้วยซ้ำ
“บาร์ซา” แกร่งเกิน “เปแอสเช” ต้าน
ย้อนไปเมื่อฤดูกาล 1994-95 ปารีส แซงต์แชร์กแมง ฝ่าด่าน บาร์เซโลนา เข้ารอบรอง ยูโรเปียน คัพ ด้วยสกอร์รวม 3-2 มาคราวนี้สาวก ปารีเซียง หวังประวัติศาสตร์ซ้ำรอย ซึ่งโอกาสของลูกทีม คาร์โล อันเชล็อตติ ไม่หมดไปเสียทีเดียว ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ดาวซัลโวลีกเอิง (26 ประตู) พร้อมพิสูจน์ตัวเองเจอต้นสังกัดเก่า ทว่าน่าเสียดายที่ แบลส มาตุยดี กลางตัวสำคัญดันมาติดโทษแบน ขณะที่ ติอาโก ซิลวา เซ็นเตอร์บราซิเลียนไม่ฟิตเต็มร้อย ในส่วน “เจ้าบุญทุ่ม” ต้องลุ้นเช็กฟิต ลิโอเนล เมสซี ที่เจ็บกล้ามเนื้อต้นขาจากนัดแรกที่เสมอกัน 2-2 ทั้งนี้ บาร์ซา ต้องปรับแนวรับ ฮาเวียร์ มาสเชราโน เจ็บเข่าพัก 6 สัปดาห์ มาร์ค บาร์ตรา ดาวรุ่งมีโอกาสจับคู่ เคราร์ด ปิเก เหมือนเกมถล่ม รีล มายอร์กา 5-0 ส่วนแนวรุกยังครบครัน เชส ฟาเบรกาส พิสูจน์ให้เห็นว่าสามารถยืนเป็นหน้าเป้าได้อย่างไร้ปัญหา แถมทีมลุ้นได้ ชาบี เอร์นานเดซ กลับมาปั้นเกมเคียงข้าง อันเดรส อิเนียสตา งานนี้ บาร์เซโลนา จะครองบอลได้ตามถนัด (เฉลี่ย 69 เปอร์เซ็นต์ในแต่ละนัด) และก็น่าจะฝ่าด่าน “เปแอสเช” ไปได้ตามคาด