ดาวรุ่ง “ช้างศึก” ออกโรง ตัดสิน “วินนี” อยู่หรือไป

ASTV ผู้จัดการรายวัน – เหล่าขุนพลทีมชาติไทย ที่ขาดขุมกำลังหลักหลายรายมีคิวกรีธาทัพไปเยือน เลบานอน ทำศึก เอเชียน คัพ 2015 รอบคัดเลือก นัดสอง โดยเกมนี้นอกจากจะเป็นบทพิสูจน์ปรัชญาการทำทีมของ วินฟรีด เชเฟอร์ ที่ย้ำมาตลอดว่าเดินมาถูกทางหรือไม่กับการให้โอกาสดาวรุ่งลงสนามเพื่อเป็นการปูรากฐานสู่อนาคต เหนืออื่นใดยังเป็นการพิพากษาตำแหน่งเก้าอี้นายใหญ่ “ช้างศึก” ที่กำลังสั่นคลอนด้วย

ทีมชาติไทย มีคิวลงสนามฟาดแข้งศึกเอเชียนคัพ 2015 รอบคัดเลือก กลุ่มบี ด้วยการออกไปเยือน เลบานอน ณ สนามสปอร์ต ซิตี กรุงเบรุต วันศุกร์ที่ 22 มีนาคม นี้ เวลา 22.30 น. ตามเวลาประเทศไทย ด้วยสถิติที่ข่มกว่าไม่เคยแพ้มาก่อน พบกัน 5 ครั้ง ชนะ 3 เสมอ 2

โดย “ช้างศึก” เตรียมความพร้อมก่อนถึงนัดสอง หลังจากพ่ายคาบ้านต่อ คูเวต 1-3 ในนัดเปิดหัว ด้วยการเดินทางไปเก็บตัวที่ประเทศกาตาร์ เป็นเวลา 4 วัน พร้อมลับแข้งพ่ายต่อเจ้าถิ่นไป 0-1 เมื่อวันที่ 17 มีนาคม ที่ผ่านมา ซึ่งขุมกำลังของ “ช้างศึก” ต้องปรับทัพพอสมควรหลังตัวหลักพาเหรดขอถอนตัวเนื่องจากปัญหาอาการบาดเจ็บ ไล่ตั้งแต่ผู้รักษาประตู ขาด กวิน ธรรมสัจจานันท์ นายด่านมือ 1 รวมถึงคู่เซ็นเตอร์อย่าง ภานุพงศ์ วงศ์ษา กับ ชลทิตย์ จันทคาม ในแดนกลางไร้ อดุล หละโส ส่วน ชาริล ชัปปุยส์ ที่หวังเรียกมาทดแทนก็ไม่สามารถใช้งานได้

ซึ่งจะได้ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ลงเฝ้าเสา พร้อมด้วย สุรัตน์ สุขะ ที่กำลังท็อปฟอร์มกับต้นสังกัดมาช่วยทำลายเกมแดนกลาง ผนึกกำลังกับเพื่อนร่วมทีมอย่าง แอนโธนี อำไพพิทักษ์วงศ์ แข้งลูกครึ่งไทย-มะกัน ที่รับใช้ชาติอย่างเป็นทางการครั้งแรก ด้านหลังบ้านจะวาง ประหยัด บุญญา กับ อภิวัฒน์ งั่วลำหิน คอยคุม ส่วนแบ็กขวาที่เป็นปัญหาหลังตัดขาด ปิยพล บรรเทา จะใช้บริการ นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม ขณะที่ผู้เล่นที่เหลือยังคงประจำการตามตำแหน่งเดิม ในระบบ 4-5-1 ธีราทร บุญมาทัน แบ็กซ้าย, อนุชากิจ พงษ์ศรี กับ จักรพันธ์ พรใส เลื้อยริมเส้น ดัสกร ทองเหลา คอยบงการเกม โดยมี “เจ้ามุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา เป็นความหวังในการจบสกอร์

ฟากเจ้าถิ่นที่เกมแรกออกไปพ่ายต่อ อิหร่าน ยับเยิน 0-5 สภาพทีมถือว่าอยู่ในช่วงวิกฤตไม่ต่างกันกันหลัง 3 แข้งหลักอย่าง คู่กองหน้า มาห์มุด เอล อาลี กับ อัคราม โมกรา และ ราเมซ ดายูบ กองหลัง เข้าไปพัวพันกรณีล้มบอลจนโดนสมาคมฟุตบอลเลบานอนสั่งแบน แต่ เธโอ บุคเกอร์ เฮดโคช ยังมี อับบาส อาห์เหม็ด อัทวี กองกลางตัวเก๋าวัย 33 ปี เป็นทีเด็ดร่วมกับ โมฮาหมัด ไฮดาร์ หัวหอกประจำทีม

สำหรับเกมเยือน เลบานอน นอกจากจะเป็นแมตช์สำคัญของ “ช้างศึก” ในการลุ้นกรุยทางสู่รอบสุดท้ายที่ประเทศออสเตรเลียแล้ว ยังพูดได้ว่าเป็นเกมชี้ชะตาอนาคตของ วินฟรีด เชเฟอร์ อีกด้วย หลังระหองระแหงกับสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยมานาน จนสื่อหลายสำนักฟันธงว่า ไม่ว่าผลการแข่งขันนัดนี้จะออกมารูปแบบใด ชนะ เสมอ หรือแพ้ “วินนี” จะโดนเด้งพ้นตำแหน่งกุนซือแน่นอน ถึงแม้จะมีการปูดค่าฉีกสัญญาออกมาว่ามูลค่าถึง 18 ล้านบาทก็ตาม

เนื่องจากยังมีหลายวิธีในการลดรายจ่าย เช่น ปล่อยให้สัญญา 2 ปี ของเฮดโค้ชเมืองเบียร์ หมดลงไปเองในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ เท่ากับว่าจะจ่ายเพียงเงินเดือนๆละ 1.3 ล้านบาท เท่านั้น หรือหากนัดนี้ไม่สามารถเอาชนะได้มีสิทธิ์แยกทางกันเร็วกว่ากำหนดด้วยเหตุผลว่าไม่พอใจทั้งสองฝ่ายจนต้องยุติสัญญา ซึ่งจะเป็นชอยส์ไหนนั้นทางสภากรรมการสมาคมฟุตบอลฯคงจะมีการพิพากษาออกมาในการประชุมใหญ่สามัญประจำปี วันที่ 31 มีนาคมนี้

โดยเกมนี้ถือเป็นโอกาสดีที่เทรนเนอร์วัย 63 ปีจะพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าแนวทางการทำทีมของตนนั้นมาถูกทาง หากแข้งวัยคะนอง อาทิ อภิวัฒน์, นฤบดินทร์, ชนาธิป สรงกระสินธ์, วีระวุฒิ กาเหย็ม และ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ สามารถโชว์ผลงานได้ยอดเยี่ยมด้วยการที่พาทีมมีแต้มติดมือกลับบ้านเป็นอย่างน้อย หลังจากที่เรียกติดธงแบบขัดใจฝ่ายบริหารเมื่อครั้งศึกชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์คัพ ที่เชียงใหม่ ตอนต้นปี จนถูกเสียงวิจารณ์กันระงม