คอลัมน์ “ริงไซด์ ไฟต์คลับ” โดย “ลักษมณ์ นันทิวัชรินทร์”
ไม่ใช่ละครน้ำเน่าที่ไหนนะครับ แต่เป็นละครชีวิต 3 สุดยอดนักชกอย่าง “จังโก้อันตราย” ฮวน มานูเอล มาร์เกซ กับ แมนนี ปาเกียว และ ทิโมธี แบรดลีย์ ที่จะต้องมาพัวพันกันอย่างช่วยไม่ได้
เพราะหลังจากที่ มาร์เกซ ต่อย ปาเกียว หลับคาหมัดไปเมื่อปีที่แล้ว ก็ยังไม่ได้แสดงท่าทีว่าจะเสี่ยงพวงมาลัยเลือกใครมาเป็นคู่ชกรายต่อไป ทางด้านยอดกำปั้นจากฟิลิปปินส์ย่อมอยากแก้มือแน่นอน แต่หลังจาก 3 ภาคแรกที่ “เดอะ แพ็คแมน” ดูเหนือกว่านิดๆ แม้จะมีข้อกังขามาโดยตลอด ก็เคยเล่นตัวให้อีกฝ่ายลุ้นว่าจะได้แก้มือหรือไม่คราวนี้ มาร์เกซ เอาชนะแบบสวยๆ ก็เลยอยู่ในสภาพ “หล่อเลือกได้” สามารถทำใจเย็นๆ ได้อีกสักพักก่อนจะตกลงใจ ทางฝั่ง ปาเกียว เองก็มีเสียงท้วงให้พักฟื้นให้แข็งแรงดีก่อนและต้องฟิตร่างกายให้ถึงก่อนจะขึ้นชกไฟต์ต่อไปได้ (มีแม้กระทั่งเสียงให้แขวนนวมไปเลย เพราะโดนน็อกหมัดนั้นน่ากลัวจริงๆ)
ทาง มาร์เกซ นั้นช่วงนี้เลือกคู่ได้ แต่ด้วยอายุอานามที่ปาเข้าไป 40 ปีแล้ว ก็คงมีโอกาสเลือกอีกไม่มากนัก เพราะน่าจะอยู่ในสภาพสมบูรณ์สุดขีดแบบนี้ได้อีกไม่เกิน 2 ไฟต์ ดังนั้นต้องเลือกคู่ชกที่เรียกคนดูได้สุดๆ จริงๆ ซึ่งก็มี ปาเกียว นี่แหละที่แฟนมวยทั่วโลกอยากดูให้เจอกันอีก ครั้นจะไปท้า ฟลอยด์ เมย์เวเธอร์ จูเนียร์ ก็เคยแพ้คะแนนแบบขาดลอยมาแล้ว ดังนั้นคงจะต่อรองผลประโยชน์ได้ไม่มากเท่า
ด้าน แบรดลีย์ ผู้พิชิต ปาเกียว อีกรายหนึ่งนั้น ก็ร้องท้าทายยอดมวยตากาล็อกให้กลับมาล้างตากับแกอยู่เหย็งๆ เพราะไฟต์ที่ชนะมานั้นค้านสายตาแฟนมวยทั่วโลก
แต่ทางฝั่ง ปาเกียว ก็ไม่ค่อยสนใจที่จะกลับไปคลายสงสัย เพราะถือว่าคนส่วนใหญ่ไม่ค่อยกังขากันอยู่แล้ว แบรดลีย์ เลยค่อนข้างอาภัพ เพราะอุตส่าห์เอาชนะยอดมวยที่แฟนมวยติดตามกันทั่วโลกได้ แต่ชื่อชั้นกลับขายไม่ได้ซะงั้น เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมาตามเวลาประเทศสหรัฐอเมริกา (ตรงกับเมืองไทยสายๆ วันอาทิตย์) เลยขึ้นชกป้องกันตำแหน่งรุ่นเวลเตอร์เวทขององค์กรมวยโลก (WBO) ก็เส้นที่เอามาจาก “แพ็คแมน” ได้นั่นแหละครับ พบกับ รุสลาน โพรโวดินอฟ นักชกแดนหมีขาว
ปรากฏว่า แบรดลีย์ โดนต่อยร่วงตั้งแต่ยกแรกและยกสุดท้ายก็โดนต่อยนับชนิดเกือบไม่ลุก แต่ระฆังช่วยไว้ได้ ช่วงยกกลางๆ นั้นแม้ทำได้เหนือกว่าแต่ก็ไม่ชัดก่อนเอาชนะไปอย่างเอกฉันท์ป้องกันตำแหน่งเอาไว้ได้ชนิดตอนกรรมการชูมือแกยังขาสั่นและตาลอยอยู่เลย
ก็เลยทำให้ชื่อของ แบรดลีย์ กลับมา (พอจะ) ขายได้อีกครั้งและเป็นตัวเลือกว่าจะมีโอกาสขึ้นพบกับ มาร์เกซ สักที แต่นักชกแดนจังโก้ก็คงลังเลไม่น้อย ซึ่งถ้าไม่เลือกใคร ทั้งสองคนนี้อาจกลับมาเจอกันเองก็ได้ เพราะทาง ปาเกียว ก็คงสบายใจว่าหมัดของ แบรดลีย์ นั้นหนักขนาดปุยนุ่นเท่านั้น ปลอดภัยกับคางมากกว่าเป็นไหนๆ ไว้ล้างข้อสงสัยได้แล้ว มาร์เกซ ก็หนีไม่ออกเองก็ต้องมีภาค 5 กันจนได้ มันก็เลยเป็นที่มาของรักสามเส้าแบบนี้แหละ
ไม่ใช่ละครน้ำเน่าที่ไหนนะครับ แต่เป็นละครชีวิต 3 สุดยอดนักชกอย่าง “จังโก้อันตราย” ฮวน มานูเอล มาร์เกซ กับ แมนนี ปาเกียว และ ทิโมธี แบรดลีย์ ที่จะต้องมาพัวพันกันอย่างช่วยไม่ได้
เพราะหลังจากที่ มาร์เกซ ต่อย ปาเกียว หลับคาหมัดไปเมื่อปีที่แล้ว ก็ยังไม่ได้แสดงท่าทีว่าจะเสี่ยงพวงมาลัยเลือกใครมาเป็นคู่ชกรายต่อไป ทางด้านยอดกำปั้นจากฟิลิปปินส์ย่อมอยากแก้มือแน่นอน แต่หลังจาก 3 ภาคแรกที่ “เดอะ แพ็คแมน” ดูเหนือกว่านิดๆ แม้จะมีข้อกังขามาโดยตลอด ก็เคยเล่นตัวให้อีกฝ่ายลุ้นว่าจะได้แก้มือหรือไม่คราวนี้ มาร์เกซ เอาชนะแบบสวยๆ ก็เลยอยู่ในสภาพ “หล่อเลือกได้” สามารถทำใจเย็นๆ ได้อีกสักพักก่อนจะตกลงใจ ทางฝั่ง ปาเกียว เองก็มีเสียงท้วงให้พักฟื้นให้แข็งแรงดีก่อนและต้องฟิตร่างกายให้ถึงก่อนจะขึ้นชกไฟต์ต่อไปได้ (มีแม้กระทั่งเสียงให้แขวนนวมไปเลย เพราะโดนน็อกหมัดนั้นน่ากลัวจริงๆ)
ทาง มาร์เกซ นั้นช่วงนี้เลือกคู่ได้ แต่ด้วยอายุอานามที่ปาเข้าไป 40 ปีแล้ว ก็คงมีโอกาสเลือกอีกไม่มากนัก เพราะน่าจะอยู่ในสภาพสมบูรณ์สุดขีดแบบนี้ได้อีกไม่เกิน 2 ไฟต์ ดังนั้นต้องเลือกคู่ชกที่เรียกคนดูได้สุดๆ จริงๆ ซึ่งก็มี ปาเกียว นี่แหละที่แฟนมวยทั่วโลกอยากดูให้เจอกันอีก ครั้นจะไปท้า ฟลอยด์ เมย์เวเธอร์ จูเนียร์ ก็เคยแพ้คะแนนแบบขาดลอยมาแล้ว ดังนั้นคงจะต่อรองผลประโยชน์ได้ไม่มากเท่า
ด้าน แบรดลีย์ ผู้พิชิต ปาเกียว อีกรายหนึ่งนั้น ก็ร้องท้าทายยอดมวยตากาล็อกให้กลับมาล้างตากับแกอยู่เหย็งๆ เพราะไฟต์ที่ชนะมานั้นค้านสายตาแฟนมวยทั่วโลก
แต่ทางฝั่ง ปาเกียว ก็ไม่ค่อยสนใจที่จะกลับไปคลายสงสัย เพราะถือว่าคนส่วนใหญ่ไม่ค่อยกังขากันอยู่แล้ว แบรดลีย์ เลยค่อนข้างอาภัพ เพราะอุตส่าห์เอาชนะยอดมวยที่แฟนมวยติดตามกันทั่วโลกได้ แต่ชื่อชั้นกลับขายไม่ได้ซะงั้น เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมาตามเวลาประเทศสหรัฐอเมริกา (ตรงกับเมืองไทยสายๆ วันอาทิตย์) เลยขึ้นชกป้องกันตำแหน่งรุ่นเวลเตอร์เวทขององค์กรมวยโลก (WBO) ก็เส้นที่เอามาจาก “แพ็คแมน” ได้นั่นแหละครับ พบกับ รุสลาน โพรโวดินอฟ นักชกแดนหมีขาว
ปรากฏว่า แบรดลีย์ โดนต่อยร่วงตั้งแต่ยกแรกและยกสุดท้ายก็โดนต่อยนับชนิดเกือบไม่ลุก แต่ระฆังช่วยไว้ได้ ช่วงยกกลางๆ นั้นแม้ทำได้เหนือกว่าแต่ก็ไม่ชัดก่อนเอาชนะไปอย่างเอกฉันท์ป้องกันตำแหน่งเอาไว้ได้ชนิดตอนกรรมการชูมือแกยังขาสั่นและตาลอยอยู่เลย
ก็เลยทำให้ชื่อของ แบรดลีย์ กลับมา (พอจะ) ขายได้อีกครั้งและเป็นตัวเลือกว่าจะมีโอกาสขึ้นพบกับ มาร์เกซ สักที แต่นักชกแดนจังโก้ก็คงลังเลไม่น้อย ซึ่งถ้าไม่เลือกใคร ทั้งสองคนนี้อาจกลับมาเจอกันเองก็ได้ เพราะทาง ปาเกียว ก็คงสบายใจว่าหมัดของ แบรดลีย์ นั้นหนักขนาดปุยนุ่นเท่านั้น ปลอดภัยกับคางมากกว่าเป็นไหนๆ ไว้ล้างข้อสงสัยได้แล้ว มาร์เกซ ก็หนีไม่ออกเองก็ต้องมีภาค 5 กันจนได้ มันก็เลยเป็นที่มาของรักสามเส้าแบบนี้แหละ
