อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซืออาร์เซนอล ปลุกสโมสรเพื่อนร่วมเวที พรีเมียร์ ลีก หลังเป็นครั้งแรกรอบ 17 ปีที่ไร้ตัวแทนเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้าย ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก อย่างไรก็ตาม โชเซ มูรินโญ นายใหญ่ รีล มาดริด มองว่าไม่ใช่เรื่องแปลกด้วยเหตุผลหลายประการส่งให้เกิดขึ้นได้
อาร์เซนอล สามารถบุกชนะ บาเยิร์น มิวนิก ถึงถิ่น อัลลิอันซ์ อารีนา ศึก ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดสอง ด้วยสกอร์ 2-0 เมื่อวันพุธที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา แต่รวม 2 นัดเสมอ 3-3 ตกรอบไปด้วยกฎอะเวย์โกล ทำให้ถือเป็นหายนะของฟุตบอลอังกฤษก็ว่าได้ เพราะถือเป็นครั้งแรกรอบ 17 ปี ที่ไม่มีสโมสรตัวแทนผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้าย
หลังเกม เวนเกอร์ นายใหญ่ อาร์เซนอล ที่ไร้แชมป์ติดมือ 8 ปีติดต่อกันแน่นอนแล้ว กล่าวว่า “ถือเป็นเรื่องน่าผิดหวังของวงการฟุตบอลอังกฤษ สิ่งนี้จะปลุกให้เราตื่นขึ้น เนื่องจากแสดงให้เห็นว่าบรรดาสโมสรยุโรปอื่นๆ กำลังไล่ล่าพวกเราอยู่”
ก่อนหน้านี้ แมนเชสเตอร์ ซิตี และ เชลซี ไม่สามารถผ่านรอบแบ่งกลุ่ม โดยรายแรกอยู่ “กรุ๊ป ออฟ เดธ” ขณะที่รายหลังมีดีกรีเป็นถึงแชมป์เก่าและคือทีมแรกที่กระเด็นร่วงรอบแรกปีถัดมา ส่วน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แพ้ รีล มาดริด คาถิ่น 1-2 เมื่อวันอังคารที่ 5 มีนาคม เกมรอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดสอง รวมร่วงไปด้วยสกอร์ 2-3
ถึงกระนั้นก็ตาม มูรินโญ กุนซือ รีล มาดริด มองว่า “ฟุตบอลอังกฤษก็คือฟุตบอลอังกฤษ คล้ายกับสเปนถ้าหากว่าตกรอบ แชมเปียนส์ ลีก ก็ไม่ได้ความว่าหายนะ แมนฯซิตี ปิ๋วเพราะอยู่สายโหด เช่นเดียวกับเชลซี โลกลูกหนังก็แบบนี้บางครั้งผลการแข่งขันที่ออกมาก็ไม่ได้บ่งชี้ถึงสถานการณ์”
ถ้าไม่นับรวมฤดูกาลล่าสุดนี้ 8 ปีหลังที่ผ่านมามีสโมสรจากอังกฤษผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้ถึง 7 ครั้ง มีชิงกันเองฤดูกาล 2007-08 คือ แมนฯยู เอาชนะจุดโทษ เชลซี นอกจากนี้ปี 2007, 2008 และ 2009 ยังมีตัวแทนจากเมืองผู้ดีผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศถึง 3 ทีมเลยทีเดียว