“แก้ว-แต้ว” คว้าสุดยอด “สยามกีฬาอวอร์ดส์”

แก้ว พงษ์ประยูร ยอดชกขวัญใจชาวไทยควงจอมพลังสาว “แต้ว” พิมศิริ ศิริแก้ว คว้าสุดยอดนักกีฬาสมัครเล่นยอดเยี่ยมแห่งปีในงานประกาศรางวัลคนกีฬา “สยามกีฬา อวอร์ดส์” ครั้งที่ 7 ขณะที่ นุศรา ต้อมคำ ที่ได้รับการโหวตให้เป็นมือเซตยอดเยี่ยมของโลกรับนักกีฬาอาชีพยอดเยี่ยมแห่งปี พร้อมรับเงินรางวัลคนละ 3 แสนบาท ด้านป๊อปปูล่าโหวต บัวขาว ป.ประมุข ครองใจมหาชนหยิบรางวัลและเงิน 1 แสนไปครองเช่นกัน ส่วน แสงมณี ส.เทียนโพธิ์ ยอดมวยดาวรุ่งพุ่งแรงแจ้งเกิดได้สำเร็จ ยึดตำแหน่งดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปี (รุกกี้)

งานประกาศผลและมอบรางวัล “สยามกีฬา อวอร์ดส์ ครั้งที่ 7” เพื่อเชิดชูผลงานนักกีฬาและบุคคลในวงการกีฬา ที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติ ทั้งในอดีตและปัจจุบัน และถือเป็นรางวัลแห่งเกียรติยศของคนในวงการกีฬาของไทย จัดโดย บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) ที่โรงละคร อักษรา คิงเพาเวอร์ ชั้น 3 คิง เพาเวอร์ ดาวน์ทาวน์ คอมเพล็กซ์ ซ.รางน้ำ กทม.เมื่อวันที่ 6 มี.ค.ที่ผ่านมา ท่ามกลางคนวงการกีฬาคับคั่ง โดยมี ระวิ โหลทอง ประธานกรรมการที่ปรึกษา บมจ.สยามสปอร์ต ซินดิเคท, วิลักษณ์ โหลทอง ประธานกรรมการบริหาร อินสไพร์ เอนเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด, พงษ์ศักดิ์ ผลอนันต์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ. สยามสปอร์ต ซินดิเคท และ อดิศัย วารินทร์ศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บมจ. สยามสปอร์ต ซินดิเคท, โอฬาร เชื้อบาง ผู้อำนวยการฝ่ายกองบรรณาธิการ, ทวยเทพ ไวทยานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายการผลิต, ยอดชาย ขันธะชวนะ ที่ปรึกษาฝ่ายกองบรรณาธิการ และ ไพฑูร ชุติมากรกุล ที่ปรึกษาฝ่ายกองบรรณาธิการ

สำหรับผลการประกาศรางวัล นักกีฬาสมัครเล่นยอดเยี่ยมในปีนี้ไปครอง ได้แก่ แก้ว พงษ์ประยูร ยอดนักมวยคนเก่งเจ้าของเหรียญเงินโอลิมปิก 2012 "ลอนดอนเกมส์" คนล่าสุด คว้าสุดยอดรางวัลแห่งปี พร้อมเงินรางวัล 3 แสนบาท ส่วน เป็นเอก การะเกด และสุดเขต ประภากมล รับตำแหน่งรองชนะเลิศ รับเงินรางวัลคนละ 5 หมื่นบาท ด้าน แก้ว พงษ์ประยูร เปิดเผยว่า การได้รับรางวัลในครั้งนี้ว่ารู้สึกเป็นเกียรติ และภาคภูมิใจอย่างที่สุด เพราะ รางวัลสยามกีฬาอวอร์ส์ ถือเป็นรางวัลที่ยิ่งใหญ่ ที่นักกีฬาทุกคนอยากได้ และจากผลงานที่สร้างมาทั้งปีโดยเฉพาะในโอลิมปิเกมส์ถึงตอนนี้ก็รู้สึกหายเหนื่อย และนับเป็นกำลังใจให้ผมได้จดจำไปตลอด

ขณะที่รางวัลนักกีฬาสมัครเล่นยอดเยี่ยมหญิง พิมศิริ ศิริแก้ว จอมพลังสาวเหรียญเงินโอลิมปิกเกมส์ 2012 คว้ารางวัลยอดเยี่ยมแห่งปีไปครองพร้อมเงินรางวัล 3 แสนบาท รองชนะเลิศ ชนาธิป ซ้อนขำ นักเทควันโด และ รัชนก อินทนนท์ นักแบดมินตัน รับเงินรางวัลคนละ 5 หมื่นบาท นักกีฬาอาชีพยอดเยี่ยม นุศรา ต้อมคำ มือเซตที่ได้รับการโหวตมือเซตยอดเยี่ยมของโลก คว้าเงินรางวัล 3 แสนบาท ส่วน ถาวร วิรัตน์จันทร์ (กอล์ฟ) กับ ธีรศิลป์ แดงดา (ฟุตบอล) ได้รับรางวัลรองชนะเลิศ และเงินรางวัล 5 หมื่นบาท

สำหรับรางวัลนักกีฬาดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปี แสงมณี ส.เทียนโพธิ์ ยอดมวยดาวรุ่งพุ่งแรงคว้าเงินรางวัล 1 แสนบาท ส่วนรองชนะเลิศ บุศนันท์ อึ้งบำรุงพันธ์ (แบดมินตัน), ชนาธิป สรงกระสินธ์ (ฟุตบอล) รับเงินรางวัล 1 หมื่นบาท รางวัลผู้ฝึกสอนยอดเยี่ยม ได้แก่ วีรภัทร ภู่อุ่นฑโร (ผู้ฝึกสอนบอคเซีย คนพิการทีมชาติไทย) รับเงินรางวัล 1 แสนบาท รองชนะเลิศ เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร (ผู้ฝึกสอนวอลเลย์บอล), อุดม เหลืองเพชราภรณ์ (ผู้ฝึกสอนแบดมินตัน) รับเงินรางวัล 1 หมื่นบาท รางวัลสมาคมกีฬายอดเยี่ยม ได้แก่ สมาคมเทควันโดแห่งประเทศไทย รับเงินรางวัล 1 แสนบาท รางวัลนักมวยไทยอาชีพยอดเยี่ยม ได้แก่ ยอดวิชา ภ.บุญสิทธิ์ รับเงินรางวัล 1 แสนบาท รองชนะเลิศ พระจันทร์ฉาย ป.เพชรน้ำทอง, แสงมณี ส.เทียนโพธิ์ รับเงินรางวัล 1 หมื่นบาท รางวัลนักกีฬาคนพิการยอดเยี่ยม ได้แก่ พัทธยา เทศทอง นักกีฬาบอคเซีย รับเงินรางวัล 1 แสนบาท รองชนะเลิศ สายสุนีย์ จ๊ะนะ (วีลแชร์ฟันดาบ), รุ่งโรจน์ ไทยนิยม (เทเบิลเทนนิส) รับเงินรางวัล 1 หมื่นบาท รางวัลบุคคลทรงคุณค่าและอุทิศตนแก่วงการกีฬายอดเยี่ยมแห่งปี (เมอร์ริต อวอดส์) ได้แก่ กานต์ ตระกูลฮุน รับเงินรางวัล 1 แสนบาท รางวัลสุดยอดนักกีฬาขวัญใจมหาชน บัวขาว ป. ประมุข คว้ารางวัลป็อปปูล่าโหวตปีนี้ไปครองพร้อมเงินรางวัล 1 แสนบาท

ส่วนรางวัลกูรูกีฬา ผู้ที่ได้รับรางวัลปีนี้ได้แก่ ร.ท.ชาญฤทธิ์ วงษ์ประเสิรฐ (กูรูวอลเลย์บอล) รับเงินรางวัล 5 หมื่นบาท รางวัลสุดยอดประทับใจแห่งปี เป็นช็อตเด็ด และเหตุการณ์สำคัญของ พัทธยา เทศทอง ซึ่งคว้าเหรียญทองบอคเซียในพาราลิมปิกเกมส์ รับเงินรางวัล 5 หมื่นบาท รางวัลเกียรติยศนักกีฬาอาวุโส เป็นของ เสรี จินตนเสรี และ ชัยศักดิ์ ทองเดชศรี สองนักแบดมินตันสูงอายุรุ่น 60 ปีขึ้นไปเจ้าของแชมป์โลก 3 สมัยปี ปี 2550, 2552, 2554 และ รางวัลหอเกียรติยศ “ฮอลล์ ออฟ เฟม” ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้กับอดีตนักกีฬาที่เลิกเล่นกีฬาไปแล้ว 10 ปีขึ้นไป มีผลงานโดดเด่น และมีชื่อเสียง ปีนี้เพิ่มเป็น 10 รางวัล ๆ ละ 5 หมื่นบาท ดังนี้ ประเวศ พลเชียงขวาง (นักมวย) , พล.ต.ต.ศุภวณัฎฐ อาริยะมงคล (กรีฑา), พล.ต.ต.สุรพงษ์ อาริยะมงคล (กรีฑา), นิตย์ ศรียาภัย (ฟุตบอล), น.อ.บรรเทา ศรีสุข (นักมวย) บำเพ็ญ ลัทธิมนต์ (ฟุตบอล), วิชิต เชี่ยวเวช (ยิงปืน), เกษม ประไพศรี (นักมวย) , สืบ จุนฑะเกาศลย์ (นักมวย) และอนุรัฐ ณ นคร (ฟุตบอล)

สำหรับรางวัลนักกีฬาดีเด่น ปีนี้มี 4 รางวัลแบ่งเป็น ชาย 2 คน หญิง 2 คน ผู้รับรางวัลได้แก่ บุญศักดิ์ พลสนะ (แบดมินตัน), จีระพันธ์ โป่งคำ (เพาะกาย), สราลีย์ ทุ่งทองคำ (แบดมินตัน), อรอุมา สิทธิรักษ์ (วอลเลย์บอล) รับคนละ 2 หมื่นบาท