เจิ้ง หยานี่ นักกอล์ฟหญิงมือ 1 โลก จากไต้หวัน ออกมาชี้แจงสาเหตุว่า ด้วยศักดิ์ศรีตำแหน่งมือ 1 ของโลกที่ค้ำคออยู่ทำให้ตนเองมีความกดดันมหาศาลในยามลงแข่ง และทำให้ฟอร์มไม่เหมือนในอดีต แยทว่าหลังจากนี้เจ้าตัวยืนยันไม่มีความกังวลที่จะเสียตำแหน่งนี้
เจ้าของแชมป์เมเจอร์ฝ่ายหญิง 5 สมัยครองตำแหน่งมือ 1 ของโลกยาวนาน 2 ปี แต่ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา สเตซี ลูอิส มือ 3 ของโลกจากสหรัฐฯ คว้าแชมป์ "เอชเอสบีซี วีเมนส์ แชมเปียนชิป" ที่ประเทศสิงคโปร์ มาครอง ขณะที่ ชอย นายอน โปรมือ 2 ของโลก ซิวอันดับที่ 2 ในรายการเดียวกัน ทำให้การคิดคะแนนอันดับโลกล่าสุด เจิ้ง หยานี่ ไม่ได้มีคะแนนทิ้งคู่แข่งมากเหมือนก่อนอีกต่อไป
ช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ก้านเหล็กหญิงจากไต้หวันมีคะแนนนำอยู่ที่ 16.69 ส่วน ชอย นายอน อยู่ที่ 9.09 และ สเตซี ลูอิส รั้งอันดับ 8 ของโลกมีเพียง 6.23 คะแนนเท่านั้น แต่ในปัจจุบัน เจิ้ง หยานี่ คะแนนเฉลี่ยลงมาอยู่ที่ 9.53 นำ โปรแดนกิมจิและนักกอล์ฟแดนลุงแซมที่ตามมา 8.85 และ 8.84 ตามลำดับ
โดย เจิ้ง ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า การเป็นมือ 1 ของโลกให้ความรู้สึกที่โดดเดี่ยว และมีความคาดหวังจากแฟนๆ สูงทำให้ต้องลงเล่นด้วยความกดดันจนเป็นเหตุให้ฟอร์มการตีต่างๆ ผิดเพี้ยนไปหมด และเป็นที่มาของฟอร์มการเล่นทีตกลงไปในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากนี้เจ้าตัวขอไม่กังวลกับการรักษาตำแหน่งมือ 1 โลกโดยต้องการเล่นในฟอร์มเก่าๆ ของตัวเองให้ได้เท่านั้น
"ไม่มีใครรู้ความรู้สึกของคุณเลย มีแต่คนที่ต้องการมายืนในจุดนี้ ปีแรกที่ฉันเป็นมือ 1 ของโลกมันมีความสุขมาก แต่ทุกๆ เดือนผ่านไปทุกคนต่างเริ่มคาดหวังสูงขึ้นและเท่ากับมีความกดดันมากขึ้น ตำแหน่งมือ 1 โลกมันก็ดีและใครๆ ก็ชอบทั้งนั้น แต่ตอนนี้ฉันขอสนใจฟอร์มของตัวเองก่อน ถึงเสียมันไปเดี๋ยวอนาคตก็คงแย่งกลับมาได้" นักกอล์ฟหญิงมือ 1 ของโลก กล่าว