พาเดร็ก แฮร์ริงตัน เจ้าของแชมป์เมเจอร์ 3 รายการจากไอร์แลนด์ สนับสนุนการร่วมมือครั้งสำคัญระหว่างวันเอเชียและเจแปนกอล์ฟทัวร์ออร์กาไนเซซัน ในการจัดการแข่งขัน “ไทยแลนด์ โอเพน 2013” ชิงเงินรางวัลรวม 1 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 30 ล้านบาท ซึ่งจะทำการแข่งขัน ณ สนามธนาซิตี กอล์ฟ แอนด์ สปอร์ต คลับ ระหว่างวันที่ 14-17 มีนาคมนี้
แฮร์ริงตัน เป็นอีกหนึ่งนักกอล์ฟระดับโลกที่จะร่วมดวลวงสวิงในรายการที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานที่สุดของประเทศไทย โดยมีสองนักกอล์ฟอดีตมือหนึ่งเจแปนกอล์ฟทัวร์อย่าง ชินโกะ คาตายามา และคิม คุง แต จากเกาหลีใต้ นำทัพยอดฝีมือจากญี่ปุ่นลงแข่งขัน ร่วมด้วยผู้เล่นชั้นนำของเอเชีย อาทิ ถาวร วิรัตน์จันทร์ สวิงหมายเลขหนึ่งเอเชีย, สองโปรออสซีและอดีตแชมป์ทำเงินรางวัลสูงสุดของวันเอเชีย อย่าง อังเดร สโตลซ์ และสกอตต์ สเตรนจ์ พอล แมคกินเลย์ กัปตันทีมไรเดอร์คัพยุโรปปี 2014 และ คริส วูด แชมป์ยูโรเปี้ยนทัวร์ 4 รายการชาวอังกฤษ มาในฐานะแชมป์เก่า
แฮร์ริงตัน ซึ่งปัจจุบันรับหน้าที่เป็นฑูตสำหรับกีฬากอล์ฟให้กับอาร์แอนด์เอ เผยว่า “การร่วมมือของทั้งสองทัวร์เป็นการพัฒนาที่ยอดเยี่ยม นี่คือทิศทางที่วงการกอล์ฟทั่วโลก (นอกจากยูเอสพีจีเอทัวร์) ควรจะมุ่งไป ไม่ว่าที่ไหนก็ตาม ถ้ามีความเป็นไปได้ ทัวร์เหล่านั้นควรจะร่วมมือกันเพื่อพัฒนาการแข่งขันทุกสัปดาห์”
“ผมรอคอยที่จะลงแข่งขัน ไทยแลนด์ โอเพน ซึ่งผมเคยมาแข่งที่ประเทศไทยเมื่อหลายปีก่อน ผมสนุกมากกับการแข่งขันในรายการระดับประเทศ มาครั้งนี้ผมได้เห็นสนามธนาซิตี้ผ่านทางเว็บไซต์ ผมประทับใจมาก แต่ถึงอย่างไรผมก็อยากจะเดินทางมาสัมผัสสนามแห่งนี้ด้วยตัวเอง” แฮร์ริงตัน กล่าว
ทั้งนี้ แฮร์ริงตัน เป็นนักกอล์ฟชาวยุโรปคนแรกที่สามารถคว้าแชมป์เมเจอร์ 2 รายการติดต่อกัน โดยคว้าแชมป์ ดิ โอเพน 2008 ตามด้วย พีจีเอ แชมเปียนชิพ ในปีเดียวกัน ซึ่งขณะนี้เขาพอใจกับฟอร์มการเล่นทั้งในพีจีเอทัวร์ และยูโรเปี้ยนทัวร์ ฤดูกาลนี้เป็นอย่างมาก
“ฟอร์มการเล่นของผมกำลังเข้าที่เข้าทาง ผมพอใจมากกับผลงาน รวมไปถึงอุปกรณ์ทุกชิ้นในถุงกอล์ฟ ผมเพียงแค่ต้องจัดการทุกอย่างให้เข้าที่เข้าทาง เพื่อให้ทุกแง่มุมในเกมกอล์ฟของผมออกมาสมบูรณ์แบบ และถูกจังหวะในเวลาเดียวกัน” แฮร์ริงตัน กล่าวเพิ่มเติม
สำหรับกอล์ฟรายการ “ไทยแลนด์ โอเพน” เป็นการแข่งขันกอล์ฟระดับตำนานของประเทศ จัดการแข่งขันครั้งแรกในปี พ.ศ.2508 และจัดเป็นรายการแข่งขันประจำปี โดยมีนักกอล์ฟชื่อดังหลายคนสามารถคว้าชัยชนะมาครอง อาทิ สองโปรชาวออสเตรเลียน เดวิด เกรแฮม (พ.ศ. 2513) และ เกรแฮม มาร์ช (พ.ศ. 2516) รวมถึงสองนักกอล์ฟชาวไต้หวันอย่าง เชียะ มิน หนาน (พ.ศ.2515) และ เฉิน เช หมิง (พ.ศ. 2526 และ พ.ศ. 2529)
และที่สร้างชื่อที่สุดคือ บุญชู เรืองกิจ สามารถครองชัยชนะได้สองครั้งในปี พ.ศ. 2535 และ พ.ศ. 2547 ทว่า บุญชู มิได้เป็นนักกอล์ฟไทยคนแรกที่สัมผัสแชมป์ ไทยแลนด์ โอเพ่น โดยก่อนหน้านี้ สุเทพ มีสวัสดิ์ สร้างประวัติศาสตร์ด้วยเป็นโปรไทยคนแรกที่สามารถคว้าชัยชนะรายการนี้ได้ในปี พ.ศ. 2534