ดีไม่พอ! หงส์ร่วงยูโรปา-สิงห์เฮท้ายเกม

“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล สู้ตายถวายหัว ก่อนเอาชนะ เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก 3-1 ในเกมนัดสองของ ยูโรปา ลีก เมื่อคืนวันที่ 21 ก.พ.ที่ผ่านมา ทว่าตกรอบด้วยกฎประตูทีมเยือน ส่วน เชลซี ลอยลำเข้ารอบด้วยประตูชัยท้ายเกมของ เอเดน ฮาซาร์ด

ยูโรปา ลีก
ลิเวอร์พูล 3-1 เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก
(ผลประตูรวม 3-3 เซนิต เข้ารอบด้วยกฏประตูทีมเยือน)

เกมยูโรปา ลีก รอบ 32 ทีมสุดท้ายนัดสอง ลิเวอร์พูล ทีมจากพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เปิดแอนฟิลด์ต้อนรับ เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก จากรัสเซีย โดยเกมนัดแรก “หงส์แดง” บุกไปแพ้มาก่อน 0-2 เกมนี้หากหวังเข้ารอบก็ต้องเอาชนะคู่แข่งให้ได้ 3-0

ครึ่งแรก นาที 6 ลิเวอร์พูล ได้ทักทายก่อน จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ครองบอลอยู่นอกเขตโทษ ก่อนตัดสินใจยิงยัดเข้าเสาแรกแต่ ยาเชสลาฟ มาลาเฟเยฟ รับติดมือ จากนั้น “หงส์แดง” ทำเกมได้ดีกว่า แต่ยังหาจังหวะทำประตูเพิ่มเติมไม่เจอ

เกมอึดอัดสักพัก จนกระทั่งนาที 16 เซนิต กลับเป็นฝ่ายได้ประตูนำ 1-0 เจมี คาร์ราเกอร์ ออกบอลคืนหลังพลาดก่อนเป็น ฮัลค์ วิ่งมากระชากบอลขึ้นไปยิงผ่านตัว โชเซ เรนา เข้าไป ส่งให้ประตูรวมกลายเป็น 3-0 ความหวังเข้ารอบของเจ้าถิ่นเริ่มมืดมน

หงส์แดง เปิดเกมบุกแหลก นาที 25 เจ้าบ้านได้ฟรีคิกระยะหวังผลหลัง แดเนียล แอกเกอร์ โดนทำฟาล์ว และ หลุยส์ ซัวเรซ ไม่ทำให้แฟนๆผิดหวังซัดฟรีคิกทะลุกำแพงเข้าไปตีเสมอเป็น 1-1 ต่อมานาที 34 หงส์แดง เกือบเสียประตูหลังปล่อยให้ แดนนี วอลเลย์หน้าเขตโทษ แต่บอลหลุดเสาออกไป

แต่แล้วก่อนหมดเวลา นาที 43 ลิเวอร์พูล พลิกขึ้นนำ 2-1 โชเซ เอ็นริเก ลากบอลไปสุดเส้นหลังเปิดหักเข้ามาให้ โจ อัลเลน โหม่งไปตรงตัว ยาเชสลาฟ มาลาเฟเยฟ แต่สุดท้ายก็ยิงซ้ำเข้าไปได้ จบครึ่งแรก หงส์แดง นำ 2-1 ต้องยิงอีก 2 ประตู ถึงจะเข้ารอบ

ครึ่งหลังนาที 58 เจ้าบ้านได้ฟรีคิกระยะไกล แต่สุดท้าย หลุยส์ ซัวเรซ ก็จัดการปั่นเบียดเสาสองเข้าไปส่งให้ ลิเวอร์พูล ขึ้นนำ 3-1 ประตูรวมเท่ากัน 3-3 ขออีกลูกเดียวก็จะผ่านเข้ารอบ จากนั้นนาที 68 ซัวเรซ ได้โอกาสซัดฟรีคิกอีกครั้ง แต่คราวนี้ มาลาเฟเยฟ ไม่เผลอปัดทิ้งไปได้

ช่วงเวลาที่เหลือ หงส์แดง บุกแบบไม่คิดชีวิต แต่สุดท้ายไม่มีปาฏิหาริย์เกิดขึ้น จบเกม ลิเวอร์พูล ชนะ เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก 3-1 ผลประตูรวมเท่ากัน 3-3 แต่ เซนิต ได้เข้ารอบด้วยกฏประตูทีมเยือน ส่งให้ หงส์แดง ปิดฉากเส้นทางลุ้นแชมป์ ยูโรปา ลีก ไว้เพียงเท่านี้

ส่วนผลอีกคู่ที่เตะไล่เลี่ยกัน เชลซี ตีตั๋วผ่านเข้าสู่รอบต่อไปแบบต้องลุ้นกันจนถึงนาทีสุดท้าย หลังโดน สปาร์ตา ปราก ยิงนำ 1-0 ก่อนที่ เอเดน ฮาซาร์ด จะสวมบทฮีโร่ยิงพา “สิงห์บลูส์” ตีเสมอ 1-1 และเข้ารอบไปด้วยผลประตูรวมสองนัด 2-1

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล - โชเซ เรนา, กเล็น จอห์นสัน, โชเซ เอ็นริเก, แดเนียล แอกเกอร์, เจมี คาร์ราเกอร์, สตีเวน เจอร์ราร์ด, โจ อัลเลน, ลูคัส เลวา, สจวร์ต ดาวนิง, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, หลุยส์ ซัวเรซ
เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก - ยาเชสลาฟ มาลาเฟเยฟ, อเล็กซานเดอร์ อนูคอฟ, นิโคลัส ลอมเบิร์ตส, คาร์ลอส หลุยส์ เนโต, โทมัส ฮูโบคาน, มิเกล แดนนี, โรมัน ชิโรคอฟ, เซร์กี เซมัค, อิกอร์ เดนิซอฟ, อเซล วิตเซล, ฮัลค์

สรุปผลฟุตบอล ยูโรปา ลีก รอบ 32 ทีมสุดท้าย นัดสอง
(เฉพาะคู่ที่น่าสนใจ)

รูบิน คาซาน 0-1 แอตเลติโก มาดริด
(รูบิน เข้ารอบด้วยผลประตูรวม 2-1)

เมทาลิสต์ 0-1 นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด
(นิวคาสเซิล เข้ารอบด้วยผลประตูรวม 1-0)

ลาซิโอ 2-0 โบรุสเซีย มึนเชนกลัดบัค
(ลาซิโอ เข้ารอบด้วยผลประตูรวม 5-3)

โอลิมปิก ลียง 1-1 ท็อตแนม ฮอตสเปอร์
(สเปอร์ส เข้ารอบด้วยผลประตูรวม 3-2)

ซีเอฟอาร์ คลูจ 0-3 อินเตอร์ มิลาน
(อินเตอร์ มิลาน เข้ารอบด้วยผลประตูรวม 0-5)

ลิเวอร์พูล 3-1 เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก
(ผลประตูรวม 3-3 เซนิต เข้ารอบด้วยกฏประตูทีมเยือน)

วิคตอเรีย เพลเซน 2-0 นาโปลี
(เพลเซน เข้ารอบด้วยผลประตูรวม 5-0)

เชลซี 1-1 สปาร์ตา ปราก
(เชลซี เข้ารอบด้วยผลประตูรวม 2-1)

สเตอัว บูคาเรสต์ 2-0 อาแจ็กซ์
(ผลประตูรวม 2-2 สเตอัว เข้ารอบด้วยการชนะจุดโทษ 4-2)