xs
xsm
sm
md
lg

“โปรจูเนียร์” ธิฎาภา เก่งเล็กตะลุยแอลพีจีเอ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ธิฎาภา ประเดิมรายการแรกสุดหรู
ASTV ผู้จัดการรายวัน - เปิดตัวบนเวที แอลพีจีเอ ทัวร์ ด้วยผลงานสวยหรูตั้งแต่รายการแรก สำหรับ ธิฎาภา สุวัณณะปุระ ด้วยการคว้าอันดับ 8 ร่วมรับเงินรางวัล 28,632 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 858,960 บาท) หลังวันสุดท้ายศึก "ไอเอสพีเอส ฮานดะ วีเมนส์ ออสเตรเลียน โอเพน" ชิงเงินรางวัลรวม 1.2 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 38.4 ล้านบาท) ณ สนาม รอยัล แคนเบอร์รา กอล์ฟ คลับ ระยะ 6,442 หลา พาร์ 73 ประเทศออสเตรเลีย เมื่อวันอาทิตย์ที่ 17 กุมภาพันธ์ 2556 ทำสกอร์วันสุดท้าย 6 อันเดอร์พาร์จาก 8 เบอร์ดี 2 โบกีรวมมี 11 อันเดอร์พาร์

ส่วน "โม" โมรียา จุฑานุกาล อีกหนึ่งสาวไทยวัย 18 ปีที่ได้การ์ดทัวร์ แอลพีจีเอ ฤดูกาลนี้เช่นเดียวกัน ผลงานไม่ธรรมดาวันสุดท้ายทำ 4 อันเดอร์พาร์จาก 5 เบอร์ดี 1 โบกีรวม 4 วันสกอร์ 13 อันเดอร์พาร์จบที่ 4 ร่วมรับเงินรางวัลก้อนแรก 70,456 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 2.1 ล้านบาท) ส่วนนักกอล์ฟไทยรายสุดท้าย "แหวน" พรอนงค์ เพชรล้ำ สกอร์ 5 อันเดอร์พาร์จบที่ 36 ร่วมรับเงินรางวัล 6,436 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 193,080 บาท) แชมป์เป็นของ ชิน จีไย มือ 8 ของโลกจากเกาหลีใต้สกอร์ 18 อันเดอร์พาร์รับเงินรางวัล 180,000 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 5.4 ล้านบาท) เฉือน เจิ้ง หยานี มือ 1 ของโลกจากไต้หวันที่วันสุดท้ายเร่งเครื่องทำเพิ่มถึง 7 อันเดอร์พาร์ 2 สโตรก

วงการกอล์ฟหญิงไทยถือว่าคึกคักมากช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ไล่ตั้งแต่ พรอนงค์ ที่ได้การ์ดทัวร์เมื่อปี 2009 ตามมาด้วย “หนูมา” จันทิมา กัลยาณมิตตา ที่ควอลิฟายได้ในปี 2012 และล่าสุดโอกาสมาถึง “โปรจูเนียร์” ธิฎาภา

ธิฎาภา เปิดตัวรายการแรกศึก ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ เมื่อปี 2006 จากนั้นก้าวไปติดทีมชาติทุกชุดไล่ตั้งแต่ ซีเกมส์ ที่ เวียงจันทร์ ปี 2009 ตามด้วย เอเชียน เกมส์ ที่ กว่างโจว ปี 2010 ก่อนตัดสินใจเทิร์นโปรในปีดังกล่าวด้วยวัย 18 ปี โดยเล่าให้ฟังถึงวินาทีแรกที่จับก้านเหล็กว่า “หัดเล่นกอล์ฟครั้งแรกตั้งแต่ยังจำความไม่ได้ คุณแม่เล่าให้ฟังว่ายังใส่แพมเพิสอยู่เลย พอโตขึ้นก็เริ่มลงแข่งรายการเล็กๆ ในประเทศจนได้ติดทีมชาติทุกชุด จากนั้นก็คิดว่าคงถึงเวลาที่จะต้องขึ้นมาเล่นอาชีพแล้ว”

ก้าวแรกระดับอาชีพของ “จูเนียร์” คือลงแข่งศึก เลดีส์ เอเชียน ทัวร์ และไทย แอลพีจีเอ ทัวร์ ก่อนตัดสินเหินฟ้าไปหาประสบการณ์ต่างแดนด้วยการคว้าสิทธิ์เล่นใน ซีเมทรา ทัวร์ ซึ่งถือเป็นทัวร์รองของ แอลพีจีเอ ทัวร์ ในปี 2011 โดยครั้งนั้นโปรสาววัย 20 ปีเผยว่าเธอเองมีลุ้นควอลิฟายได้การ์ดทัวร์เพื่อเข้าแข่ง แอลพีจีเอ ทัวร์ ในปี 2012 เพียงแต่ขาดโชคเล็กน้อยมาพลาดในการแข่งช่วงท้าย ทำให้ต้องเก็บประสบการณ์ในทัวร์รองต่อไป

ปีถัดมา ธิฎาภา จึงทำตามความฝันของเธอสำเร็จจากผลงานการทำอันดับเงินรางวัลสะสมติด 1 ใน 10 อันดับแรกของทัวร์พร้อมตีตั๋วเข้าไปแข่งศึก แอลพีจีเอ ทัวร์ ปี 2013 หลังจากเทิร์นโปรมาได้เพียง 2 ปีเท่านั้น โดยนักกอล์ฟไทยเล่าถึงจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตคือกาาคว้าแชมป์ “วีดาเลีย แชมเปียนชิป” ที่รัฐจอร์เจีย ประเทศสหรัฐฯ เมื่อช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ขยับอันดับเงินรางวัลสะสมจาก 15 ขึ้นมาอยู่ที่ 4 และแม้จะจบรายการสุดท้ายของปีศึก “เดย์โทนา บีช” ด้วยอันดับ 30 ร่วม แต่ก็ไม่มีผลใดๆ ต่ออันดับเงินสะสมตบเท้าเข้าแข่ง แอลพีจีเอ ทัวร์ ตาม “โปรแหวน” และ “โปรหนูมา” ได้สำเร็จ

อย่างไรก็ตามด้วยความที่เกิดและเติบโตในประเทศไทย การปรับตัวและประสบการณ์ที่ยังน้อยนิดจึงเป็นอุปสรรคสำหรับหน้าใหม่อย่าง “โปรจูเนียร์” ซึ่งเธอยอมรับว่า “ในปีแรกคงไม่ตั้งความหวังมากนักขอสร้างมาตรฐานอย่างรุ่นพี่คนอื่นๆ คือการรักษาการ์ดทัวร์เอาไว้ให้ได้ในปีต่อไปและเรียนรู้การเล่นของคู่แข่งเพื่อนำมาพัฒนาเกมของตัวเองเท่านั้น ยอมรับว่าตัวเองประสบการณ์ยังน้อยมาก ไปเทียบกับ พี่แหวน ที่เล่นมา 3-4 ปียังไม่ได้ เราเพิ่งมาเป็นปีแรกและยังไม่เคยแข่งในรายการใหญ่ๆ มาก่อน เหมือนต้องมาเริ่มต้นทุกอย่างใหม่หมด เรียกว่ามาคล้ำทางในปีแรกก็ได้ ความตั้งใจสูงสุดหลังจากได้เข้ามาเล่นขอรักษาการ์ดทัวร์เอาไว้ในฤดูกาลต่อไปให้ได้”

ถือเป็นความโชคดีที่ ธิฎาภา จะได้ไปพักบ้านเดียวกับ “โปรแหวน” และ “โปรหนูมา” จึงเป็นโอกาสที่จะได้ขอคำแนะนำจากสองรุ่นพี่อย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรับมือสภาพอากาศและแก้ไขจุดด้อยของตนเอง “ตอนนี้ระยะไดร์ฟคือจุดอ่อน พอเราตีช็อตแรกได้ไม่ไกลตกห่างกรีนเลือกแผนการเล่นต่อไปก็ลำบาก ถ้ามีระยะเพิ่มอีก 20-30 หลาจะสามารถเลือกเกมการเล่นต่อไปง่ายขึ้น ส่วนเรื่องจินตนาการเป็นอีกอย่างที่ต้องพัฒนา บางครั้งยังรู้สึกคิดไม่ออกและมองช็อตต่อไปไม่เป็นว่าควรเล่นอย่างไรให้ได้เปรียบ” โปรวัย 20 ปี กล่าว

สำหรับ ธิฎาภา ถือเป็นโปรสาวรายที่ 4 ที่ได้สิทธิ์ลงแข่ง แอลพีจีเอ ทัวร์ ในปี 2013 ต่อจาก พรอนงค์, จันทิมา และอีกหนึ่งรุคกีอย่าง “น้องโม” โมรียา โดยยังเป็นแค่ก้าวแรกเท่านั้นจากนี้ต้องตามลุ้นกันตลอดปีว่า “โปรจูเนียร์” จะทำผลงานคงเส้นคงวาเพื่อรักษาการ์ดไว้ได้อย่างที่ฝันหรือไม่
“วีดาเลีย แชมเปียนชิป” ใบเบิกทางสู่ แอลพีจีเอ
“โปรจูเนียร์” ปีแรกขอเก็บประสบการณ์
“โปรแหวน” คอยแนะนำรุ่นน้อง
กำลังโหลดความคิดเห็น