ASTV ผู้จัดการรายวัน – “วินนี” วินฟรีด เชเฟอร์ กุนซือทีมชาติไทย ปัดมีปัญหาในการทำทีม ดีใจที่ได้ร่วมงานกับ “บิ๊กโต้ง” กิตติรัตน์ ณ ระนอง ผู้จัดการทีม ในการร่วมพัฒนาวงการฟุตบอลไทย พร้อมกันนี้ยังมั่นใจ “ช้างศึก” ประเดิม 3 คะแนน เกมพบ คูเวต ศึกเอเชียนคัพ 2015 รอบคัดเลือก
“ช้างศึก” ทัพนักเตะทีมชาติไทย มีคิวลงสนามฟาดแข้งเกมสำคัญ ปะทะ ทีมชาติคูเวต ในศึกเอเชียนคัพ 2015 รอบคัดเลือก พุธที่ 6 กุมภาพันธ์ 2556 ณ สนามราชมังคลากีฬาสถาน เวลา 19.00 น. ถ่ายทอดสดทาง สทท.11 ซึ่งก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวขัดแย้งกันในเรื่องระยะเวลาการเก็บตัวเตรียมทีมระหว่าง วินฟรีด เชเฟอร์ เฮดโค้ช และ กิตติรัตน์ ณ ระนอง รมต.กระทรวงการคลัง ในฐานะผู้จัดการทีม โดย “วินนี” ออกมาเผยว่าช่วงที่ผ่านมาได้เจอเหตุการณ์ที่ไม่เคยเจอมาก่อนในชีวิตตลอดการเป็นโค้ช 26 ปี รวมถึงไม่ได้รับการสนับสนุนตามต้องการในเรื่องเกมอุ่นเครื่อง โดยยกเลิกแมตช์กับ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) แต่ไปลับแข้งกับ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี น้องใหม่ไทยลีกแทน
ล่าสุดเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ในงานแถลงข่าวก่อนเกมการแข่งขัน ณ โรงแรมโกลเด้น ทิวลิป ซอฟเฟอริน (พระราม 9) “วินนี” ได้ปัดตอบคำถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้น “ตอนนี้ผมไม่อยากพูดถึงเรื่องที่ผ่านมาแล้ว ขอมุ่งสมาธิไปที่ผลงานในสนามเป็นหลัก ขณะนี้ผมมีความสุขที่ได้เห็นการพัฒนาของผู้เล่นไทย และบอกได้เลยว่าผมรักประเทศไทยมาก ดีใจที่ได้ร่วมงานกับ กิตติรัตน์ ณ ระนอง ในฐานะผู้จัดการทีม และ วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ซึ่งเมื่อได้คุยกันแล้ว เราต่างมีเป้าหมายเดียวกันคือการพัฒนาวงการฟุตบอลไทยให้ดีขึ้น”
“ก่อนหน้านี้ วรวีร์ พูดกับผมว่าแม้รายการ ซูซูกิ คัพ และคิงส์คัพ ที่ผ่านมา จะไม่ได้แชมป์ แต่ได้กำลังใจกลับมา ถือเป็นประสบการณ์เป็นก้าวต่อไปของอนาคต สัญญาที่ผมทำไว้ไม่ใช่แค่ทีมชาติชุดใหญ่เท่านั้น แต่รวมถึงการพัฒนาฟุตบอลไทยในระยะยาวด้วย” เทรนเนอร์ชาวเยอรมันเผย
ขณะที่ความพร้อมของทีมชาติไทยก่อนประเดิมศึกเอเชียนคัพกับ คูเวต ปรากฏว่าได้มีการตัดชื่อ “ลีซอ” ธีรเทพ วิโนทัย ที่ติดโทษแบน 4 นัด ออกไปแล้ว ส่วน “เจ้าแป๊ะ” พิชิตพงษ์ เฉยฉิว ห้องเครื่องตัวเก่ง ทางสหพันธ์ฟุตบอลเอเชีย (เอเอฟซี) แจ้งว่าสามารถลงสนามได้ “สภาพทีมตอนนี้ไม่มีปัญหา นักเตะทั้ง 3 คน ดัสกร ทองเหลา, อดุล หละโสะ และ พิชิตพงษ์ มีความฟิตที่ดีขึ้นสามารถลงสนามได้แน่นอน แต่เป็นที่น่าเสียดายที่เราไม่สามารถใช้งาน ธีรเทพ ซึ่งเขาเป็นนักเตะที่มีความมุ่งมั่นมาก ส่วนในรายของ ธีรศิลป์ แดงดา กองหน้าตัวเก่งที่กลับมาจากการฝึกซ้อมกับ แอตเลติโก มาดริด ในสเปน ผมสังเกตเห็นว่าเขามีความมั่นใจมากขึ้น มีเทคนิคและจังหวะการเล่นในกรอบเขตโทษที่ดีขึ้น ผมเชื่อว่าเขาเป็น ศูนย์หน้าที่ดีที่สุดในอาเซียน”
“เกมกับ คูเวต เป็นเกมสำคัญ ผมเตรียมทีมมาเต็มที่ โดยให้นักเตะศึกษาเทป คู่ระหว่าง คูเวต พบ ซาอุดิอาระเบีย และ คูเวต พบ ยูเออี รวมถึง ทีมชาติไทย กับ สิงคโปร์ ในแมตช์ชิงฯนัดสอง ศึกซูซูกิ คัพ ที่ผ่านมา พร้อมกำชับให้ลูกทีมเล่นให้ได้อย่างนั้น เราต้องเล่นแบบมี วินัย เพรสซิงตลอดทั้งเกม และหวังว่าสภาพสนามจะไม่เลวร้ายนัก ซึ่งผมมั่นใจ 100 เปอร์เซ็นต์ว่า ทีมชาติไทย จะชนะ” เชฟอร์ กล่าวอย่างมั่นใจ
พร้อมกันนี้สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้ประกาศอัดฉีดเงินเป็นจำนวน 1 ล้านบาท หาก ทีมชาติไทย สามารถคว้าชัยชนะได้สำเร็จ แต่หาก เสมอ หรือ แพ้ จะมีการพิจารณาอีกครั้ง ซึ่ง “ช้างศึก” จะลงสนามในชุดสีแดง ส่วน คูเวต ในชุดน้ำเงิน โดยใช้คณะผู้ตัดสินจากประเทศญี่ปุ่น
11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนามในระบบ 4-5-1 ประกอบด้วย ผู้รักษาประตู กวิน ธรรมสัจจานันท์ แผงหลังจากซ้ายไปขวา ธีราทร บุญมาทัน, ชลทิตย์ จันทคาม, ภาณุพงศ์ วงศ์ษา และ ปิยพล บรรเทา แดนกลาง อดุล หละโสะ ตัดเกมร่วมกับ พิชิตพงษ์ เฉยฉิว ปีกซ้ายขวา อนุชา กิจพงษ์ศรี กับ จักรพันธ์ พรใส เพลย์เมกเกอร์ ดัสกร ทองเหลา หน้าเป้า ธีรศิลป์ แดงดา