เวสต์บรอมวิช อัลเบียน ที่เหลือผู้เล่นเพียง 10 คน เมื่อ โกรัน โปปอฟ แบ็กซ้าย ถูกใบแดงช่วงต้นครึ่งหลัง เป็นเหตุให้พ่ายคาบ้านแก่ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 0-1 จากประตูชัยของ แกเร็ธ เบล ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 ก.พ. ที่ผ่านมา
ฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
เวสต์บรอมฯ 0-1 สเปอร์ส
เสียงนกหวีดดังขึ้น ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ส ออกสตาร์ทหรู เมื่อเป็นฝ่ายครองบอลกดดันคู่แข่งมากกว่าช่วง 5 นาทีแรก จากนั้น เวสต์บรอมวิช อัลเบียน เริ่มตั้งเกมได้ และเป็นฝ่ายทักทายก่อน นาทีที่ 7 เมื่อ คริส บรันท์ จ่ายบอลให้ โรเมลู ลูคาคู สับไกบริเวณหน้ากรอบโทษด้านซ้าย ฮูโก โยริส ล้มตัวรับไว้ได้ ถัดมา 1 นาที ทีมเยือนตอบโต้ เมื่อ อารอน เลนนอน พาบอลขึ้นมาทางกรอบโทษด้านขวา แล้วเปิดมาทางเสาสองเข้าหัว คลินท์ เดมพ์ซีย์ โขกไม่เข้ากรอบ
รูปเกมยังคงเปิดแลกกันอย่างสูสี แต่ก็ไม่มีโอกาสลุ้นประตูมากนัก เมื่อเข้าสู่นาที 15 สเปอร์ส เริ่มทำเกมรุกได้น้ำได้เนื้อกว่า แต่หวิดถูกนำนาที 21 เมื่อ เกรแฮม ดอร์แรนส์ เปิดไซด์ก้อยทะลุช่องให้ เชน ลอง ทางกรอบโทษด้านซ้าย แต่ยิงติดเซฟ ฮูโก โยริส ถัดมา 6 นาที “ไก่เดือยทอง” ได้เสียวจากการยิงไกลบริเวณหัวกะโหลกของ คลินท์ เดมพ์ซีย์ แต่บอลไม่ตรงกรอบ
ทั้งสองฝ่ายยังคงผลัดกันรุก และรับ แต่การผ่านบอลยังขาดความแน่นอนจึงไม่สามารถสร้างโอกาสกดดันแนวรับคู่แข่งได้ จนถึงนาที 34 ท็อตแนมฯ ได้ลุ้น เมื่อ แกเร็ธ เบล ซัดฟรีคิกเต็มแรงบริเวณหัวกะโหลกข้ามคาน จากนั้น ทีมอันดับ 4 ของตาราง ครองบอลบุกมากกว่า ทว่ากลับหาช่องเข้าทำไม่ได้ และเกือบถูกเกมโต้กลับของ เจ้าถิ่น เล่นงานนาที 43 เมื่อ โรเมลู ลูคาคู หลุดเดี่ยวมาทางกรอบโทษด้านซ้าย แต่กลับยิงเข้าอัฒจันทร์ชนิดไม่มีลุ้น
ช่วงทดเจ็บนาทีที่ 3 ทีมจากกรุงลอนดอน หวิดเฮ เมื่อ แกเร็ธ เบล ลากบอลมาถึงหน้ากรอบโทษด้านขวา ก่อนแต่เข้าเท้าซ้าย แล้วกดเต็มแรง แต่ เบน ฟอสเตอร์ ลอดตัวปัดข้ามคาน จากนั้นทั้งสองฝ่ายทำอะไรกันไม่ได้ ครบ 45 นาที จึงเสมอกันอยู่ 0-0
ครึ่งหลังเปิดฉากเพียง 2 นาที เวสต์บรอมฯ ต้องเหลือผู้เล่นเพียง 10 คน เมื่อ โกรัน โปปอฟ ฟิวส์ขาดถ่มน้ำลายใส่ คายล์ วอล์คเกอร์ เมื่อถูกฟูลแบ็กทีมชาติอังกฤษเข้าแย่งบอลทางด้านหลัง จากนั้น อาคันตุกะจากเมืองหลวง อาศัยความได้เปรียบเดินหน้าบุกแหลกหมายยิงประตูขึ้นนำจนเกือบทำสำเร็จนาที 54 เมื่อ ลูอิส โฮลท์บี สับไกจากกรอบโทษด้านซ้ายติดเซฟ เบน ฟอสเตอร์ ก่อนถูกเคลียร์พ้นอันตราย
ทีมของ อังเดร วียาส โบอาส ประเคนเกมรุกชุดใหญ่ ทว่า แนวรับ “ดับเบิลยูบีเอ” ช่วยกันสกัดจังหวะอันตรายเอาไว้ได้ กอปรกับการผ่านบอลสุดท้ายยังขาดความแม่นยำ จึงยังไม่มีโอกาสเงื้อเท้ายิงแบบจะแจ้ง จนกระทั่งนาที 67 ความพยายามก็มาสัมฤทธิผล เมื่อ แกเร็ธ เบล รับบอลทางกรอบโทษด้านขวา ก่อนตัดเข้าในแล้วกดด้วยเท้าซ้ายบริเวณหัวกะโหลกผ่านมือ เบน ฟอสเตอร์ ตุงตาข่าย
รูปเกมยังไม่แตกต่างจากเดิม แม้ ทีมของ สตีฟ คลาร์ก จะมีโอกาสตอบโต้บ้าง แต่ก็ไม่ได้สร้างความหนักใจแก่แนวรับคู่แข่งเท่าไรนัก นาที 77 ผู้มาเยือนจากถิ่น ไวท์ ฮาร์ท เลน หวิดทิ้งห่าง เมื่อ คลินท์ เดมพ์ซีย์ รับบอลจาก มุสซา เดมเบเล แล้วซัดจากกรอบโทษด้านซ้ายติดเซฟ เบน ฟอสเตอร์ ออกหลัง ถัดมา 2 นาที กองเชียร์เจ้าบ้านได้เสียว เมื่อ เชน ลอง หลุดมาทางกรอบโทษด้านซ้าย แต่ยิงเข้าซอง ฮูโก โยริส
ช่วงเวลาที่เหลือ คู่ปรับตัวฉกาจของ อาร์เซนอล หันมาเน้นการครองบอลเพื่อปิดเกมมากขึ้น แม้ว่าจะหาจังหวะเข้าทำได้หลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ทำได้เพียงหวาดเสียวเท่านั้น ครบ 90 นาที ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ส ชนะ 1-0 ไล่จี้ เชลซี เหลือเพียง 1 แต้ม หลังเก็บ 45 คะแนน จาก 25 นัด
รายชื่อ 11 ตัวจริง
เวสต์บรอมฯ : เบน ฟอสเตอร์ , สตีเวน รีด , แกเร็ธ แม็คอัลลีย์ , โจนาส โอลส์สัน , โกรัน โปปอฟ , เกรแฮม ดอร์แรนส์ , เคลาดิโอ ยาค็อบ , เจมส์ มอร์ริสัน , คริส บรันท์ , เชน ลอง , โรเมลู ลูคาคู
สเปอร์ส : ฮูโก โยริส , คายล์ วอล์คเกอร์ , ไมเคิล ดอว์สัน , แยน แฟร์ตองเกน , เบอนัวต์ อัสซู-เอก็อตโต , มุสซา เดมเบเล , สก็อตต์ ปาร์เกอร์ , อารอน เลนนอน , แกเร็ธ เบล , คลินท์ เดมพ์ซีย์ , เจอร์เมน เดโฟ





ฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
เวสต์บรอมฯ 0-1 สเปอร์ส
เสียงนกหวีดดังขึ้น ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ส ออกสตาร์ทหรู เมื่อเป็นฝ่ายครองบอลกดดันคู่แข่งมากกว่าช่วง 5 นาทีแรก จากนั้น เวสต์บรอมวิช อัลเบียน เริ่มตั้งเกมได้ และเป็นฝ่ายทักทายก่อน นาทีที่ 7 เมื่อ คริส บรันท์ จ่ายบอลให้ โรเมลู ลูคาคู สับไกบริเวณหน้ากรอบโทษด้านซ้าย ฮูโก โยริส ล้มตัวรับไว้ได้ ถัดมา 1 นาที ทีมเยือนตอบโต้ เมื่อ อารอน เลนนอน พาบอลขึ้นมาทางกรอบโทษด้านขวา แล้วเปิดมาทางเสาสองเข้าหัว คลินท์ เดมพ์ซีย์ โขกไม่เข้ากรอบ
รูปเกมยังคงเปิดแลกกันอย่างสูสี แต่ก็ไม่มีโอกาสลุ้นประตูมากนัก เมื่อเข้าสู่นาที 15 สเปอร์ส เริ่มทำเกมรุกได้น้ำได้เนื้อกว่า แต่หวิดถูกนำนาที 21 เมื่อ เกรแฮม ดอร์แรนส์ เปิดไซด์ก้อยทะลุช่องให้ เชน ลอง ทางกรอบโทษด้านซ้าย แต่ยิงติดเซฟ ฮูโก โยริส ถัดมา 6 นาที “ไก่เดือยทอง” ได้เสียวจากการยิงไกลบริเวณหัวกะโหลกของ คลินท์ เดมพ์ซีย์ แต่บอลไม่ตรงกรอบ
ทั้งสองฝ่ายยังคงผลัดกันรุก และรับ แต่การผ่านบอลยังขาดความแน่นอนจึงไม่สามารถสร้างโอกาสกดดันแนวรับคู่แข่งได้ จนถึงนาที 34 ท็อตแนมฯ ได้ลุ้น เมื่อ แกเร็ธ เบล ซัดฟรีคิกเต็มแรงบริเวณหัวกะโหลกข้ามคาน จากนั้น ทีมอันดับ 4 ของตาราง ครองบอลบุกมากกว่า ทว่ากลับหาช่องเข้าทำไม่ได้ และเกือบถูกเกมโต้กลับของ เจ้าถิ่น เล่นงานนาที 43 เมื่อ โรเมลู ลูคาคู หลุดเดี่ยวมาทางกรอบโทษด้านซ้าย แต่กลับยิงเข้าอัฒจันทร์ชนิดไม่มีลุ้น
ช่วงทดเจ็บนาทีที่ 3 ทีมจากกรุงลอนดอน หวิดเฮ เมื่อ แกเร็ธ เบล ลากบอลมาถึงหน้ากรอบโทษด้านขวา ก่อนแต่เข้าเท้าซ้าย แล้วกดเต็มแรง แต่ เบน ฟอสเตอร์ ลอดตัวปัดข้ามคาน จากนั้นทั้งสองฝ่ายทำอะไรกันไม่ได้ ครบ 45 นาที จึงเสมอกันอยู่ 0-0
ครึ่งหลังเปิดฉากเพียง 2 นาที เวสต์บรอมฯ ต้องเหลือผู้เล่นเพียง 10 คน เมื่อ โกรัน โปปอฟ ฟิวส์ขาดถ่มน้ำลายใส่ คายล์ วอล์คเกอร์ เมื่อถูกฟูลแบ็กทีมชาติอังกฤษเข้าแย่งบอลทางด้านหลัง จากนั้น อาคันตุกะจากเมืองหลวง อาศัยความได้เปรียบเดินหน้าบุกแหลกหมายยิงประตูขึ้นนำจนเกือบทำสำเร็จนาที 54 เมื่อ ลูอิส โฮลท์บี สับไกจากกรอบโทษด้านซ้ายติดเซฟ เบน ฟอสเตอร์ ก่อนถูกเคลียร์พ้นอันตราย
ทีมของ อังเดร วียาส โบอาส ประเคนเกมรุกชุดใหญ่ ทว่า แนวรับ “ดับเบิลยูบีเอ” ช่วยกันสกัดจังหวะอันตรายเอาไว้ได้ กอปรกับการผ่านบอลสุดท้ายยังขาดความแม่นยำ จึงยังไม่มีโอกาสเงื้อเท้ายิงแบบจะแจ้ง จนกระทั่งนาที 67 ความพยายามก็มาสัมฤทธิผล เมื่อ แกเร็ธ เบล รับบอลทางกรอบโทษด้านขวา ก่อนตัดเข้าในแล้วกดด้วยเท้าซ้ายบริเวณหัวกะโหลกผ่านมือ เบน ฟอสเตอร์ ตุงตาข่าย
รูปเกมยังไม่แตกต่างจากเดิม แม้ ทีมของ สตีฟ คลาร์ก จะมีโอกาสตอบโต้บ้าง แต่ก็ไม่ได้สร้างความหนักใจแก่แนวรับคู่แข่งเท่าไรนัก นาที 77 ผู้มาเยือนจากถิ่น ไวท์ ฮาร์ท เลน หวิดทิ้งห่าง เมื่อ คลินท์ เดมพ์ซีย์ รับบอลจาก มุสซา เดมเบเล แล้วซัดจากกรอบโทษด้านซ้ายติดเซฟ เบน ฟอสเตอร์ ออกหลัง ถัดมา 2 นาที กองเชียร์เจ้าบ้านได้เสียว เมื่อ เชน ลอง หลุดมาทางกรอบโทษด้านซ้าย แต่ยิงเข้าซอง ฮูโก โยริส
ช่วงเวลาที่เหลือ คู่ปรับตัวฉกาจของ อาร์เซนอล หันมาเน้นการครองบอลเพื่อปิดเกมมากขึ้น แม้ว่าจะหาจังหวะเข้าทำได้หลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ทำได้เพียงหวาดเสียวเท่านั้น ครบ 90 นาที ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ส ชนะ 1-0 ไล่จี้ เชลซี เหลือเพียง 1 แต้ม หลังเก็บ 45 คะแนน จาก 25 นัด
รายชื่อ 11 ตัวจริง
เวสต์บรอมฯ : เบน ฟอสเตอร์ , สตีเวน รีด , แกเร็ธ แม็คอัลลีย์ , โจนาส โอลส์สัน , โกรัน โปปอฟ , เกรแฮม ดอร์แรนส์ , เคลาดิโอ ยาค็อบ , เจมส์ มอร์ริสัน , คริส บรันท์ , เชน ลอง , โรเมลู ลูคาคู
สเปอร์ส : ฮูโก โยริส , คายล์ วอล์คเกอร์ , ไมเคิล ดอว์สัน , แยน แฟร์ตองเกน , เบอนัวต์ อัสซู-เอก็อตโต , มุสซา เดมเบเล , สก็อตต์ ปาร์เกอร์ , อารอน เลนนอน , แกเร็ธ เบล , คลินท์ เดมพ์ซีย์ , เจอร์เมน เดโฟ