เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บรมกุนซือของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตั้งเป้านำลูกทีมคว้าแชมป์ ศึกฟุตบอล เอฟเอ คัพ ครั้งแรกในรอบ 10 ปี ก่อนลงฟาดแข้ง รอบ 3 กับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด คืนวันเสาร์ที่ 5 ม.ค. นี้
พลพรรค "ปิศาจแดง" คว้าแชมป์เอฟเอ คัพ ครั้งล่าสุดเมื่อปี 2004 ด้วยการถล่ม มิลวอลล์ 3-0 ณ สนามมิลเลนเนียม สเตเดียม เมืองคาร์ดิฟฟ์ ซึ่งปัจจุบันยังมีนักเตะที่หลงเหลือจากทีมชุดดังกล่าวเพียง 3 คน ประกอบด้วย ไรอัน กิ๊กส์ , พอล สโคลส์ และ ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์
หลังจาก ยูไนเต็ด ชนะเลิศครั้งสุดท้าย เชลซี คว้าแชมป์ทัวร์นาเมนต์ดังกล่าว 4 ครั้ง ซึ่ง ยอดผู้จัดการทีมชาวสก็อตต์ ออกโรงกระตุ้นเหล่าแข้ง "เรด อาร์มี" ว่า ความสำเร็จในสนามเวมบลีย์ เป็นการรอคอยที่ยาวนานเกินไป
เทรนเนอร์วัย 71 ปี กล่าว "เชลซี ทำผลงานได้อย่างน่าทึ่งในรายการนี้ แต่พวกเขาโชคดีที่เอาชนะเราในรอบชิงชนะเลิศ ปี 2007 เมื่อ ดิดิเยร์ ดร็อกบา ทำประตูช่วงท้ายเกม และเราแพ้จุดโทษ อาร์เซนอล ซึ่งทุกคนจำได้ว่า มันเป็นผลการแข่งขันที่น่าหัวเราะ เรายิงเข้ากรอบ 23 ครั้ง มันเหลือเชื่อ เราเล่นได้ยอดเยี่ยมมากในวันนั้น"
บอสใหญ่แห่งถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด ยอมรับ ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก เป็นรายการสำคัญกว่า ฟุตบอลถ้วยที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ซึ่งยักษ์ใหญ่ของพรีเมียร์ ลีก ต่างต้องการถ้วย "บิ๊ก เอียร์" มากที่สุด ทว่า "เฟอร์กี" ยังคงต้องการชูโทรฟี เอฟเอ คัพ สักครั้งก่อนวางมือ
"ไม่ต้องสงสัย แชมเปียนส์ ลีก เป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่กว่า คุณต้องขับเคี่ยวกับสโมสรชั้นนำมากมาย และเราต้องเล่นกับ รีล มาดริด เอฟเอ คัพ เป็นรายการที่มีความสำคัญไม่แพ้กัน พูดตามตรง คุณอยากเจอ เวสต์แฮม หรือ มาดริด? มันเป็นความจริงของชีวิต แต่ เอฟเอ คัพ ยังเป็นรายการในประเทศที่ดีที่สุดในโลก" เซอร์ อเล็กซ์ ทิ้งท้าย
