“เจ๊มล” เตรียมส่งร่าง พ.ร.บ.กีฬา ต่อรัฐสภาต้น ม.ค.

“เจ๊มล” นางนฤมล ศิริวัฒน์ ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญ พิจารณาร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมกีฬาอาชีพ วุฒิสภา เตรียมส่งร่าง พระราชบัญญัติส่งเสริมกีฬาอาชีพ ต่อรัฐสภาในช่วงวันที่ 7-8 มกราคมนี้ ซึ่งมีสาระสำคัญในเรื่องผู้ตัดสินล้มกีฬาอาชีพ พร้อมกับเพิ่มในส่วนของเงินกองทุนส่งเสริมกีฬาอาชีพ ที่ช่วยเหลือนักกีฬาที่เลิกไปแล้ว แต่ไม่มีรายได้ยังชีพให้กับตัวเอง และการเชิดชูเกียรติแก่นักกีฬาอาชีพแล้ว ยังให้เพิ่มบุคลากรกีฬาอาชีพแห่งชาติเข้าไปด้วย ในฐานะที่เป็นอย่างที่ดีให้กับนักกีฬามาโดยตลอด

เมื่อเวลา 10.00 น.การประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมกีฬาอาชีพ วุฒิสภา ที่มี นางนฤมล ศิริวัฒน์ เป็นประธานในที่ประชุม เพื่อพิจารณาแก้ไขพระราชบัญญัติส่งเสริมกีฬาอาชีพเพิ่มเติม พร้อมด้วย คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ และสมาชิกวุฒิสภา 7 คน เสนอคำแปรญัตติ เข้าร่วมประชุม ที่ห้องประชุมกรรมธิการ 307 อาคารรัฐสภา 2 เมื่อวันพุธที่ 26 ธันวาคมที่ผ่านมา

โดย นางนฤมล กล่าวสรุปสาระสำคัญของการประชุม ว่า “ประเด็นหลักของการร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมกีฬาอาชีพฉบับนี้ เน้นไปที่เรื่องการตัดสินผู้ตัดสินใน 13 ชนิดกีฬา ซึ่งมีปัญหาร้องเรียนมาโดยตลอดหลายปีที่ผ่านมา ทำให้เพิ่มบทลงโทษให้มีความชัดเจนมากขึ้น ตามมาตรา 66 คือ ระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีแต่ไม่เกินสิบปี หรือปรับตั้งแต่สามแสนบาทถึงหกแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้เราต้องการให้ผู้ตัดสินกีฬาชนิดต่างๆ มีความระมัดระวังในการทำหน้าที่มากกว่านี้”

นอกจากนี้ “เจ๊มล” ยังได้เสริมเรื่องกองทุนส่งเสริมกีฬาอาชีพ ในการกีฬาแห่งประเทศไทย “เพื่อเป็นทุนหมุนเวียนสำหรับใช้จ่ายเพื่อการดำเนินงานเกี่ยวกับการช่วยเหลือ การสงเคราะห์สวัสดิการ การส่งเสริม การสนับสนุน การพัฒนา ที่เกี่ยวข้องกับกีฬาอาชีพนั้น ให้กับนักกีฬาอาชีพที่เลิกเล่นไปนานแล้ว แต่ไม่มีรายได้เลี้ยงชีพตนเองได้นั้น นอกเหนือจากเชิดชูเกียรตินักกีฬาอาชีพแล้ว ควรจะเพิ่มบุคลากรอาชีพ อย่างเช่น โค้ช ทีมงานด้านกีฬาเข้าไปด้วย เพราะในฐานะที่เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับนักกีฬาอาชีพมาตลอด”

“ส่วนอีกเรื่องที่สำคัญ คือ เรื่องการอบรมให้ความรู้เรื่องอนุญาโตตุลาการกีฬา ซึ่งบุคลากรทางการกีฬาหลายคน ยังไม่มีข้อมูลและความรู้ทางด้านนี้อย่างกว้างขวางเท่าที่ควร และไม่เป็นที่ยอมรับในวงการกีฬาไทย แต่เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในยุโรป กลับเป็นที่ยอมรับการตัดสินขององค์กรนี้มากกว่าเสียอีก ตนจึงอยากฝากให้ ผู้ว่าฯหนุ่ม กนกพันธุ์ จุลเกษม ช่วยจัดหาบุคลากรที่มีความรู้และเชี่ยวชาญมาอบรมให้ความรู้แก่บุคลากรทางการกีฬาในประเทศด้วย เพื่อเเป็นประโยชน์ในอนาคต” ปธ.กมธ.วิสามัญฯ กล่าวทิ้งท้าย

ด้าน “แมน” ธัญญะ วงศ์นาค ผู้จัดการทีม “มังกรไฟ” บีอีซี เทโรศาสน ที่มาร่วมฟังการประชุม การร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมกีฬาอาชีพ ว่า “ผมคิดว่าเป็นเรื่องที่ดีที่จะมีการผลัดกันเรื่องนี้อย่างจริง และให้เป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น ทั้งในเรื่องของการตัดสินล้มกีฬาอาชีพต่างๆ ก็มีบทลงโทษมากขึ้น และในส่วนของบุคลากรในอาชีพอย่างตนจะได้ร่วมฟังและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในบางอย่าง เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการ พ.ร.บ.กีฬา ฉบับนี้ ให้สมบูรณ์มากขึ้นด้วย”

สำหรับการร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมกีฬาอาชีพ นั้นทางกรรมาธิการวิสามัญฯ จะยื่นร่างฉบับนี้ ในช่วงวันที่ 7-8 มกราคม 2556 เมื่อผ่านแล้วและนำประกาศในราชกิจจานุเบกษา เพื่อสามารถนำมาใช้ได้ แต่ถ้าไม่ผ่านร่างฉบับนี้ ก็จะกลับมาประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญฯอีกครั้ง