"วินนี" วินฟรีด เชเฟอร์ กุนซือทีมชาติไทย เผยยังขอสู้ต่อแม้ "ช้างศึก" จะชวดแชมป์ศึกฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน "เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ 2012" ต่อสิงคโปร์ ด้วยประตูรวม 2-3 ก็ตาม แต่เน้นต้องได้รับความรว่มมือจากทุกฝ่ายโดยเฉพาะปฏิทินการแข่งขันบอลในประเทศและฟีฟาเดย์ ด้าน ด้าน ราด็อจโก อัฟราโมวิช เฮดโค้ชทีมแชมป์ โบกมือลาตำแหน่ง
ทัพนักเตะทีมชาติไทย ชวดแชมป์อย่างน่าเสียดายหลังสู้สุดชีวิตบุกกระหน่ำใส่ตลอดทั้งเกมแต่ได้มาเพียงประตูเดียวจาก กีรติ เขียวสมบัติ เอาชนะ สิงคโปร์ 1-0 สกอร์รวมพ่าย 2-3 ส่งผลให้ทัพ "เมอร์ไลออนส์" คว้าแชมป์เจ้าอาเซียนสมัยที่ 4 ต่อจากปี 1998, 2004 และ 2007 ไปครอง วินฟรีด เชเฟอร์ กุนซือช้างศึก ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงเกมที่จบลงว่าขอชมนักเตะทุกคนที่สู้เต็มที่
"ก่อนอื่นผมต้องขอชื่นชมผู้เล่นของเราที่สู้กันอย่างเต็มที่ ทุกคนกรำศึกลีกภายในประเทศอันยาวนานทำให้เห็นความอ่อนล้าช่วงท้ายเกม โอกาสที่จะได้ประตูที่ 2 นั้นมีหลายครั้ง แต่เราทำไม่ได้เอง ซึ่งทุกคนเสียใจเห็นได้จากการที่ ธีราทร บุญมาทัน ถึงกับหลั่งน้ำตา สิ่งที่ทำให้เราพลาดแชมป์คือผลจากการออกไปแพ้เกมแรก 1-3 ก็ต้องขอแสดงความยินดีกับ สิงคโปร์ ด้วยกับตำแหน่งแชมป์ อาจจะมีการถ่วงเวลาในเกมบ้าง แต่ก็เป็นหน้าของผู้ตัดสินที่ต้องทดเพิ่มออกไป" เทรนเนอร์ชาวเยอรมันกล่าว
ส่วนในเรื่องของอนาคตนั้น "วินนี" เผยว่าเตรียมสู้ต่อแน่นอน "ผมไม่ใช่คนที่เลิกทำอะไรกลางคัน ต้องการที่จะสู้ต่อ แต่ต้องได้ความร่วมมือกันจากทุกฝ่าย โดยเฉพาะเรื่องปฏิทินฟีฟาเดย์ และโปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลลีก และบอลถ้วย ที่ต้องมีความชัดเจนและต่อเนื่อง ทีมที่รวมตัวกันมานี้เป็นทีมที่ยอดเยี่ยมมาก แม้จะมาจากหลายสโมสรก็ตาม ฟุตบอลไทยสามารถพัฒนาไปข้างหน้าได้อย่างแน่นอน ประเทศไทยมีนักเตะเยาวชนที่มีพรสวรรค์อยู่มากมาย พร้อมที่จะขึ้นมาทดแทน ตอนนี้ต้องมองไปที่อนาคต ต้องพัฒนาไปให้อยู่ระดับเดียวกับ เกาหลี และ ญี่ปุ่น ให้ได้ เรายังมีรายการสำคัญอีกในเดือนมกราคม 2556 ในศึกรอบคัดเลือก ฟุตบอลเอเชียนคัพ 2015"
ด้าน "ร็อดดี" ราด็อจโก อัฟราโมวิช กุนซือชาวเซิร์บ ที่พาสิงคโปร์ คว้าแชมป์สมัยที่ 4 และเป็นสมัยที่ 3 ของตน ต่อจากปี 2004 และ 2007 กล่าวว่าเตรียมอำลาตำแหน่งแน่นอน "เป็นการเดินทางที่ยาวไกลสำหรับทัวนาเมนต์นี้ ไทย ไม่ใช่ผู้แพ้ แต่ สิงคโปร์ โชคดี ต้องขอชมนักเตะทุกคนที่เล่นได้ดี และสมควรที่จะได้รับรางวัลนั้น ตั้งแต่เข้าทำงานเมื่อปี 2003 ผมได้การสนับสนุนมาโดยตลอดจากทางสมาคมฟุตบอลสิงคโปร์ และผู้สนับสนุนทุกฝ่าย ต้องขอขอบคุณทุกคน และผมคงจบเส้นทางการเป็นโค้ชทีมชาติสิงคโปร์ในวันนี้ ซึ่งเป็นการจากกันด้วยดี"
