“ช้างศึก” ทัพนักเตะทีมชาติไทย เจอพิษจุดโทษเล่นงาน เหมือนครั้งปี 2007 บุกไปพ่าย “ลอดช่อง” สิงคโปร์ ก่อน 1-3 ในรอบชิงชนะเลิศ นัดแรก ศึกเอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ 2012 แม้จะได้อเวย์โกลจาก อดุล หละโสะ โดยนัดสอง จะกลับมาเล่นที่สนามศุภชลาศัย ในวันที่ 22 ธันวาคม เวลา 19.00 น.
เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ 2012 (รอบชิงชนะเลิศ นัดแรก)
สิงคโปร์ 3-1 ไทย
ทัพนักเตะทีมชาติไทย อดีตแชมป์ 3 สมัย ปี 1996, 2000 และ 2002 ที่เอาชนะ มาเลเซีย ในรอบที่แล้ว ลงสนามฟาดแข้งเกมสำคัญ ศึกฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน “เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ 2012” รอบชิงชนะเลิศ นัดแรก ออกไปเยือน จาลัน เบซาร์ สนามหญ้าเทียม รังเหย้าของ “ลอดช่อง” สิงคโปร์ แชมป์ 3 สมัยเท่ากัน (1998, 2004 และ 2007) ที่เฉือนฟิลิปปินส์มา เมื่อวันพุธที่ 19 ธันวาคม 2555 เวลา 19.00 น.ตามเวลาประเทศไทย
นัดนี้ “ช้างศึก” ได้ “เจ้าโก้” ดัสกร ทองเหลา มิดฟิลด์ตัวเก่งสลัดอาการบาดเจ็บลงบัญชาเกมรุกหลัง ธีรศิลป์ แดงดา ดาวซัลโว 5 ประตู ในระบบ 4-5-1 ร่วมกับ อนุชา กิจพงษ์ศรี, จักรพันธ์ พรใส, พิชิตพงษ์ เฉยฉิว และ อดุล หละโสะ ในแดนกลาง ด้าน “เมอร์ไลออนส์” ราด็อจโก อัฟราโมวิช กุนซือชาวเซิร์บ ชวดใช้งาน ฉี ไจยี และ ฮาริส ฮารุน แต่จะได้ มุสตาฟิค ฟาห์รูดิน ผ่านความฟิตลงแดนกลาง พร้อมวาง ชาห์รีล อิชัค กัปตันทีมที่กดไปแล้ว 4 ตุง เป็นตัวทีเด็ดร่วมกับ อเล็กซานดาร์ ดูริค และ คาห์อิรูล อัมริ
เริ่มเกมมา 5 นาทีแรก เป็นเจ้าถิ่นในชุดแดงที่ได้โอกาสจบสกอร์มากกว่า แต่ยังไม่อันตราย และแล้วใน น.7 กองเชียร์ชาวไทยก็ต้องช็อกเมื่อมาเสียลูกจุดโทษจากจังหวะที่ ปิยพล บรรเทา ไปเบียด อเล็กซานดาร์ ดูริค ล้มลง โทมะ มาซาอากิ ผู้ตัดสินชาวญี่ปุ่นไม่ลังเล ชี้เป็นจุดโทษทันที และเป็น มุสตาฟิค ฟาห์รูดิน ที่รับอาสายิงเข้าไปก่อนในครั้งแรก แต่ผู้ตัดสินชาวยุ่นให้ยิงใหม่ รอบสองก็ไม่พลาดหลอกยิงมุมขวาตัวเองเข้าประตู สิงคโปร์ ออกนำเร็ว 1-0 ตั้งแต่ยังไม่ถึง 10 นาที
หลังจากได้ประตูยังคงเป็น “ลอดช่อง” ที่ครองเกมบุกได้เป็นระยะ แม้ทีมชาติไทยจะพยายามทำเกมโต้แต่เหมือนบอลเด้งไม่เป็นใจในหลายจังหวะ ก่อนที่ น.26 ต้องเสีย ภานุพงศ์ กัปตันทีมที่ได้รับบาดเจ็บจากการเข้าปะทะ โดยเปลี่ยน ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์ ลงคุมเกมรับแทน เข้าสู่ช่วงครึ่งชั่วโมง “ช้างศึก” มาได้ลุ้นบ้าง พิชิตพงษ์ แทงบอลทะลุช่องจากกลางสนามให้ อนุชา กิจพงษ์ศรี หลุดเข้าไปล่อเป้า แต่ “เจ้าบอย” ยิงเฉียดเสาออกไปอย่างน่าเสียดาย
สิงคโปร์ มาได้โอกาสอีกครั้ง น.36 ดูริค ได้ดีดด้วยซ้ายในกรอบ แต่ กวิน ธรรมสัจจานันท์ ยังไม่พลาดเซฟไว้ได้ ก่อนที่ 5 นาทีสุดท้าย “เมอร์ไลออนส์” จะลงมารับต่ำเกือบทั้งทีม หมดเวลาการแข่งขันครึ่งแรก ไทย ตาม สิงคโปร์ 0-1
ครึ่งหลังเล่นมา น.53 “วินนี” ตัดสินใจแก้เกม โดยส่ง อาทิตย์ สุนทรพิธ ลงทำเกมริมเส้นฝั่งซ้ายแทน อนุชา ที่เลื้อยไม่ออก ถัดมา น.58 ด้วยความขยันของ อดุล หละโสะ ที่วิ่งไล่บอลก่อนจะออกข้าง แล้วลากขึ้นมาส่งให้ ธีรศิลป์ หลุดเข้าเขตโทษฝั่งขวา “เจ้ามุ้ย” โชว์ทักษะยกบอลหนีกองหลังก่อนปาดเข้ากลางประตู และเป็น “บังดุล” คนเดิมที่วิ่งตามขึ้นมายิงเน้นๆ บอลชนเสาเข้าประตูให้ ทีมชาติไทย ตามตีเสมอได้สำเร็จ 1-1
แต่ดีใจได้ไม่นาน น.61 “ลอดช่อง” ก็มาได้ประตูขึ้นนำอีกครั้ง 2-1 ดูริค วัย 42 ปี เปิดบอลจากฝั่งซ้ายให้ คาห์อิรูล อัมริ ที่เคยยิงประตูดับฝันไทยเมื่อนัดชิงปี 2007 พลิกหลบ ณัฐพร กับ ชลทิตย์ ก่อนยิงด้วยขวาเสียบเสาแรกอย่างเด็ดขาด เกมเริ่มสนุกทั้งสองทีมเปิดหน้าแลกใส่กัน ไทย ได้ฟรีคิกใน น.63 จักรพันธ์ พรใส รับอาสายิงบอลพุ่งข้ามกำแพง แต่ อิซวาน มาห์บุด นายด่านเจ้าถิ่นปัดชนคาน
กุนซือชาวเยอรมัน ยังสู้ต่อ ปรับทัพมาใช้หน้าคู่เสริม พิภพ อ่อนโม้ ลงมาเล่นเกมแรกในทัวร์นาเมนต์แทน ดัสกร จากนั้น น.80 สิงคโปร์มาได้ฟรีคิกระยะเกือบ 30 หลา ไชฟูล อีซาห์ ซัดไกลด้วยซ้ายบอลพุ่ง แต่เป็น กวิน อีกครั้งที่ปัดไว้ได้ ช่วงเวลาที่เหลือทั้งคู่ทำอะไรเพิ่มไม่ได้ แต่แล้วช่วงทดเวลาเจ็บ “เมอร์ไลออนส์” มาได้ประตูปิดกล่อง 3-1 จากจังหวะเตะมุม บอลเลยมาตกใส่หลัง ชลทิตย์ เด้งมาเข้าทาง ไบฮัคกี ไคย์ซาน ซัดจ่อๆ ไม่ถึงหลาเข้าประตูไป จบเกมเป็น สิงคโปร์ ที่ชิงความได้เปรียบไว้ก่อนในนัดแรก 3-1 โดยเกมรอบชิงนัดสอง จะกลับมาเล่นที่สนามศุภชลาศัย ในวันเสาร์ที่ 22 ธันวาคม 2555 เวลา 19.00 น.
คลิปโดย TEAMTHALAND
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
สิงคโปร์ : อิซวาน มาห์บุด (ผู้รักษาประตู), ไชฟูล อีซาห์, อิซา อับดุล ,ไบฮัคกี ไคย์ซาน, ดาเนียล เบนเนทท์, ชาห์ดัน สุไลมาน, มุสตาฟิค ฟาห์รูดิน, ซาฟูวาน บาฮารูดิน, ชาห์รีล อิชัค (กัปตันทีม), คาห์อิรูล อัมริ, อเล็กซานดาร์ ดูริค
ไทย : กวิน ธรรมสัจจานันท์ (ผู้รักษาประตู), ภานุพงศ์ วงศ์ษา (กัปตันทีม), ชลทิตย์ จันทคาม, ปิยพล บรรเทา, ธีราทร บุญมาทัน, อดุล หละโสะ, จักรพันธ์ พรใส, อนุชา กิจพงษ์ศรี, พิชิตพงษ์ เฉยฉิว, ดัสกร ทองเหลา, ธีรศิลป์ แดงดา
