ASTVผู้จัดการรายวัน - “ช้างศึก” ทีมชาติไทย พร้อมบุกถอนแค้น “ลอดช่อง” สิงคโปร์ ในศึกฟุตบอลเอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ 2012 รอบชิงชนะเลิศ นัดแรก วันนี้ (พุธที่ 19 ธ.ค.55) ประกาศศักดาเจ้าอาเซียนสมัยที่ 4 ขณะที่ “เจ้ามุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา มีคิววัดคมลุ้นตำแหน่งดาวซัลโวกับ ชาห์รีล อิชัค
ทีมชาติไทย อดีตแชมป์ 3 สมัย เมื่อปี 1996, 2000 และ 2002 พลาดโอกาสครองความสำเร็จสูงสุดในวงการลูกหนังอาเซียน เมื่อปี 2007 โดยสกอร์รวมสองนัดรอบชิงชนะเลิศปราชัย สิงคโปร์ 2-3 ผลพวงจากนัดแรกที่ “ช้างศึก” บุกพ่ายถึงแดนลอดช่อง 1-2 เมื่อโดนจุดโทษกังขา ก่อนเจอดีเจอตามตีเสมอท้ายเกม 1-1 ที่สนามศุภชลาศัย ส่งผลให้ สิงคโปร์ ได้แชมป์สมัยที่สาม ต่อจากปี 1998 และ 2004 ซึ่งคราวนี้ ไทย มีโอกาสถอนแค้น แต่ต้องฝ่าความกดดันในเกมเยือน จาลัน เบซาร์ สนามหญ้าเทียม ให้ได้ในรอบชิงนัดแรก พุธที่ 19 ธ.ค.นี้ เวลา 19.00 น.
โดยขุนพล “ช้างศึก” จากชุดเมื่อ 5 ปีก่อน เหลือเพียง 4 รายได้แก่ สินทวีชัย หทัยรัตนกุล, นิเวส ศิริวงศ์, ณัฐพร พันธ์ฤทธิ์ และ ดัสกร ทองเหลา ซึ่งกรณี นิเวส ยังต้องลุ้นลงสนามสั่งลาทีมชาติในวัย 35 ปี ทว่า น่าจะมีเพียง “เจ้าโก้” ดัสกร ที่ได้รับความไว้วางใจจาก วินฟรีด เชเฟอร์ กุนซือชาวเยอรมัน ให้ลงบัญชาเกม สุมัญญา ปุริสาย และ อภิภู สุทธรพนาเวศน์ ยังเป็นกำลังเสริมลุ้น ขณะที่ พิชิตพงษ์ เฉยฉิว กับ อดุล หละโสะ เป็นคีย์แมนแดนกลาง ที่เหลือยังเป็นชุดใหญ่ กวิน ธรรมสัจจานันท์ เฝ้าเสา แผงหลัง ธีราทร บุญมาทัน, ภานุพงศ์ วงศ์ษา, ชลทิต จันทคาม, ปิยพล บรรเทา ปีกซ้าย-ขวา ยังเป็นจุดเด่นในเกมรุก อนุชา กิจพงษ์ศรี กับ จักรพันธ์ พรใส คอยลากทะลวง หน้าเป้า ธีรศิลป์ แดงดา ดาวซัลโว 5 ประตู
อย่างไรก็ตาม อุปสรรคสำคัญในนัดนี้ของไทย คงเป็นการเล่นบนสนามหญ้าเทียม แม้ก่อนหน้านี้ เชเฟอร์ เตรียมให้ลูกทีมไปฝึกซ้อมที่ ลีโอ สเตเดียม ของบางกอกกล๊าส เอฟซี ที่เป็นสนามหญ้าเทียม แต่ก็ต้องพับแผนไป ทำให้นักเตะมีเวลาน้อยกับการปรับตัวให้ชินกับสภาพสนาม นอกจากนั้น ยังมีผู้เล่นที่มีใบเหลืองคาดโทษก่อนหน้าอยู่ 6 คน คือ ภาณุพงศ์, ธีราทร, ดัสกร, พิชิตพงษ์, อภิภู และ สมปอง สอเหลบ เสี่ยงต่อการโดนแบนเมื่อกลับมาฟาดแข้งในนัดที่สอง
ฟากเจ้าถิ่น ราด็อจโก อัฟราโมวิช กุนซือชาวเซิร์บ ที่เคยฝากแผลใหญ่ให้ไทยเมื่อปี 2007 อาศัยทีเด็ดลูกกลางอากาศ เน้นโยนบอลจากด้านข้าง ใช้ความสูง 192 เซนติเมตร ของ อเล็กซานดาร์ ดูริค ซึ่งเตรียมอำลาแฟนๆ ในบ้านด้วยวัย 42 ปี โดยมี คาห์อิรูล อัมริ คอยทำเกมรุกร่วมกับ ชาห์รีล อิชัค ที่กดไปแล้ว 4 ตุง ลุ้นตำแหน่งดาวซัลโวกับ ธีรศิลป์ ซึ่งมิดฟิลด์ตัวรับ “ช้างศึก” จำเป็นต้องล็อกกุญแจใส่ อิชัค ให้ดี อย่างไรก็ตาม เจ้าบ้านจะขาด ฟารุดดิน มุสตาฟิก, ฉี ไจยี และ ฮาริส ฮารุน 3 มิดฟิลด์ตัวหลัก โดยนัดแรกจะใช้คณะผู้ตัดสินจากประเทศญี่ปุ่นทั้งหมด นำโดย โทมา มาซาอากิ
ด้าน พิพัฒน์ ต้นกันยา อดีตกองหน้าทีมชาติไทย ที่ทำประตูในรอบชิงปี 2007 นัดละ 1 ประตู ได้กล่าวเตือนรุ่นน้อง ว่า ให้มุ่งมั่นสร้างประวัติศาสตร์และมีสมาธิตลอด 90 นาที “ผมไม่อยากให้นักเตะไทยมองว่าเป็นการแก้แค้น เพราะปีนั้นเราเป็นฝ่ายพลาดเองเสียประตูในช่วงท้ายเกม จึงอยากให้น้องทุกคนมีสมาธิตลอดทั้งเกม และช่วยกันสร้างประวัติศาสตร์ ผมเชื่อว่าเรายังเหนือกว่า เพราะสิงคโปร์ชุดนี้เทียบกับชุดที่แล้วไม่ได้”
ส่วนสมาคมฟุตบอลสิงคโปร์ พร้อมทุ่มเงินกว่า 700,000 เหรียญสิงคโปร์ (ประมาณ17.5 ล้านบาท) หากทัพลอดช่องคว้าแชมป์ได้สำเร็จ ซึ่งถือว่ายอดอัดฉีดข่มทัพนักเตะไทย ซึ่งคาดว่าจะได้รับราว 15 ล้านบาท เมื่อรวมกับรางวัลชนะเลิศและเงินสนับสนุนจากฝ่ายต่างๆ บวกกับทองคำที่ทาง ทนุศักดิ์ เล็กอุทัย ผู้จัดการทีมจะมอบให้
สำหรับนัดชิงชนะเลิศ นัดที่สอง ไทย จะได้กลับมาเล่นในถิ่นวันเสาร์ที่ 22 ธ.ค.55 ที่สนามศุภชลาศัย เวลา 19.00 น.ถ่ายสดทางช่อง 7 สามารถจับจองบัตรได้ทาง ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ ราคา 200, 300 และ 500 บาท ตั้งแต่วันที่ 19 ธ.ค.เวลา 10.00 น.เป็นต้นไป