“ช้างศึก” ทีมชาติไทย เก็บชัยหรูชนะ เมียนมาร์ 4-0 จากลูกยิงของ ธีรศิลป์ แดงดา ที่จัดการซัดแฮตทริก และ อภิภู สุนทรพนาเวส เก็บ 3 แต้มสำคัญ พร้อมกรุยทางสู่รอบรองชนะเลิศได้สำเร็จเป็นทีมแรก พร้อมนำฝูงกลุ่ม เอ ศึกเอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ 2012
เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ 2012 (รอบแรก)
ไทย 4-0 เมียนมาร์
“ช้างศึก” ทีมชาติไทย ลงสนามนัดสองในชุดน้ำเงินล้วน ศึกฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน “เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ 2012” รอบแรก กลุ่ม เอ ปะทะ “หม่อง” เมียนมาร์ นัดนี้ “วินนี” วินฟรีด เชเฟอร์ กุนซือทีมชาติไทย ส่ง ธีรศิลป์ แดงดา ลงล่าตาข่าย แดนกลางส่ง สุมัญญา ปุริสาย ลงแทน “โก้” ดัสกร ทองเหลา ที่มีอาการบาดเจ็บจากนัดแรก คอยทำเกมร่วมกับ อดุล หละโสะ และ พิชิตพงษ์ เฉยฉิว ริมเส้นซ้ายขวาเป็น อนุชา กิจพงษ์ศรี และ จักรพันธ์ พรใส แผงกลางมี ภานุพงษ์ วงษ์ศา กัปตันทีมคุมเกมรับ ร่วมกับ ชลทิตย์ จันทคาม, ธีราทร บุญมาทัน และ ปิยพล บรรเทา เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2555 ณ สนามราชมังคลากีฬาสถาน เวลา 20.20 น.
เริ่มเกมมาเป็นทีมชาติไทยที่ครองบอลได้มากกว่า และมาได้ทักทายใน น.3 พิชิตพงษ์ ลองส่องไกล บอลโค้งหลุดเสาออกไป แต่แล้วใน น.11 พิชิตพงษ์ โดนใบเหลือง ทำให้นัดหน้า กับเวียดนาม ติดโทษแบน ห้ามลงเล่นทันที ทว่าใน น.20 กองเชียร์ไทยได้เฮลั่นสนาม เมื่อธีราทร โยนบอลทางซ้าย เข้าเขตโทษ แนวรับเมียนมาร์เคลียร์บอลไม่ขาดเข้าทางพิชิตพงษ์ ยกบอลให้ ธีรศิลป์ หลุดเข้าในเขตโทษ ก่อนแปบอลสวนประตูให้ไทยนำ 1-0
“ช้างศึก” ยังคงคุมเกมได้อยู่หมัด ในครึ่งทางของครึ่งแรก น.33 ทีมไทยน่าได้ประตูเพิ่มจากสุมัญญา ปุริสาย แต่โดน ประตูเมียนมาร์ เซฟไว้ได้หวุดหวิด จากนั้นเข้าสู่ช่วงท้ายเกม 5 นาทีสุดท้าย ไทยยังครองบอลได้เหนือกว่าเห็นได้ชัด แต่ยังไม่มีฝ่ายใดทำประตูเพิ่มได้เลย จบครึ่งแรก ไทยนำอยู่ 1-0
กลับเข้ามาสู่ครึ่งหลัง เพียงนาทีแรกของเกม พม่าดูจะกลับมาด้วยความฮึกเหิมกว่าเดิม และเป็นฝ่ายบุกใส่ไทยก่อนอย่างดุเดือด น.50 ทีมชาติไทยได้สวนขึ้นมาทางริมเส้นฝั่งซ้าย ธีราทร บุญมาทัน เปิดมาที่เสาแรก จักรพันธ์ พรใส โฉบเข้ามาโหม่งแต่ไม่ตรงกรอบ นาทีถัดมา สุมัญญา จ่ายบอลให้มุ้ย หลุดเข้าไปเจอกับ ธิฮา สิ ธู ที่ผละจากเสาออกมาไกล แต่ธีรศิลป์ยิงไม่ตรงกรอบ
เกมรุกไทยยังไม่กระเตื้องขึ้น “วินนี” วินฟรีด เชเฟอร์ กุนซือทีมชาติไทย ส่ง อภิภู สุนทรพนาเวส ลงแทน สุมัญญา ปุริสาย ลงมาเพียงครู่เดียวใน น.59 แฟนบอลเฮลั่นสนาม “บอย” อนุชา กิจพงษ์ศรี กระชากบอลมาทางกราบซ้าย สุดเส้นหลัง ตวัดบอลเข้าเขตโทษให้ อภิภู ตัวสำรองที่เพิ่งลงไป ขึ้นโขกบอลเต็มศีรษะ บอลพุ่งเสียบสามเหลี่ยมให้ไทยหนีห่าง 2-0
ถัดมา น.70 ไทยส่งผู้เล่นสำรองคนที่สอง อาทิตย์ สุนทรพิธ ลงแทน พิชิตพงษ์ เฉยฉิว เกมยังคงเนือยๆอยู่ทั้งสองฝ่าย จนกระทั่ง น.82 “มุ้ย” ธีรศิลป์ เรียกเสียงเฮให้แฟนบอลอีกครั้ง เมื่อ ธีราทร ยกบอลมาให้ ธีรศิลป์ บอลกระดอนลงพื้นพอดี ก่อนซัดลูกบอลตุงตาข่ายให้ไทยนำไปอีก 3-0 จากนั้นน.88 สมปอง สอเหลบ ที่เพิ่งลงสนามมาก็ทำแอสซิสต์สวยๆ ด้วยการโยนบอลยาวจากครึ่งสนามให้กับธีรศิลป์ แดงดา เจ้าเก่า เกี่ยวบอลลงหน้าประตูของพม่า ก่อนที่จะยิงด้วยซ้ายสวนมือของ ธิอา สิ ธู เข้าไปนอนที่ก้นตาข่าย ให้ไทยนำ 4-0 ก่อนที่จบการแข่งขันไทยชนะเมียนมาร์ 4-0 ลิ่วสู่รอบรองชนะเลิศเป็นทีมแรกได้สำเร็จ
สำหรับทีมชาติไทย ที่เข้าสู่รอบรองชนะเลิศได้สำเร็จเป็นทีมแรก เก็บ 6 แต้มจากชัยชนะทั้งสองนัด จะพบกับเวียดนาม ในวันที่ 30 พ.ย.ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ส่วนทีมชาติฟิลิปปินส์ พบกับ เมียนมาร์ ที่สนามศุภชลาศัย โดยทั้งสองเกมเตะพร้อมกันในเวลา 20.20 น.
ตารางกลุ่มเอ
1.ไทย 6 แต้ม ชนะ 2
2.ฟิลิปปินส์ 3 แต้ม ชนะ 1 แพ้ 1
3.เวียดนาม 1 แต้ม เสมอ 1 แพ้ 1
4. เมียนมาร์ เสมอ 1 แพ้ 1
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
ทีมชาติไทย : กวิน ธรรมสัจจานันท์ (ผู้รักษาประตู), ภานุพงษ์ วงษ์ศา (กัปตันทีม), ชลทิตย์ จันทคาม, ธีราทร บุญมาทัน, ปิยพล บรรเทา, อดุล หละโสะ, พิชิตพงษ์ เฉยฉิว, จักรพันธ์ พรใส, อนุชา กิจพงษ์ศรี, สุมัญญา ปุริสาย, ธีรศิลป์ แดงดา
ทีมชาติเมียนมาร์ : ทิหา สี ตุ (ผู้รักษาประตู), ซอ มิน ตุน, ยาน อุง แก้ว, คิม เมือง ลวิน (กัปตันทีม), คยิ ลิน, ยาน เปียง, เปียว อุง, เดวิด ตัน, เปียว โก โก เทียน, เนียง ลิน โอ, อุง เฮน แก้ว