คอลัมน์ EYE ON SPORTS โดย กษิติ กมลนาวิน ราชวังสัน
หลังจากการแข่งขันฟุตบอลสโมสรภายในประเทศ ประจำฤดูกาล 2012 ค่อยๆ ทยอยจบกันไปเกือบหมดแล้ว คงเหลือเพียง ลีก ภูมิภาค ดิวิเชิ่น 2 รอบแชมเปี้ยนส์ ลีก อีกไม่กี่นัด คราวนี้รายการต่อไปก็ถึงคิวของฟุตบอลทีมชาติ ซึ่งกำลังจะเปิดฉากให้แฟนบอลได้ร่วมเชียร์กันต่อในอีก 3 วันข้างหน้า นั่นคือ ฟุตบอลชิงแช้มพ์อาเซี่ยน ครั้งที่ 9 หรือ เอเอฟเอฟ ซูซุกิ คัพ 2012
สหพันธ์ฟุตบอลอาเซี่ยน ( ASEAN Football Federation - AFF ) ก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่ปี 1984 โดย 6 ชาติ คือ บรูไน อินโดเนเซีย ฟิลิปปีนส์ มาเลเซีย ซิงคโปร์ และ ไทย ต่อมาในปี 1966 กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ และ เวียตนาม เข้ามาร่วมเป็นสมาชิก รวมเป็น 10 ชาติ แล้วก็มี ตีมอร์ เล็ชท์ เข้ามาสมทบในปี 2004
ในขณะที่ ออสตราเลีย ซึ่งต้องการพัฒนาฝีเท้าทีมชาติของตน อยากจะมีแม็ทช์แข่งกับทีมที่มีความแข็งแกร่งหลากหลายหน่อย จึงขอออกจากโซนโอเชินเนีย แล้วย้ายมาอยู่ในโซนเอเชีย ซึ่ง สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า ให้การอนุมัติตั้งแต่สิ้นเดือนมิถุนายน 2005 แล้ว แต่จะไปมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2006 ดังนั้น ทาง AFF จึงเชิญ ซ็อคเค่อรูส์ เข้ามาในฐานะสมาชิกรับเชิญตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2005 แต่พวกเขาจะร่วมกับ AFF เฉพาะทีมระดับเยาวชนเท่านั้น
AFF จัดการแข่งขันฟุตบอลรายการเอกเลย ก็คือ ฟุตบอลชิงแช้มพ์อาเซี่ยน โดยได้เบียร์ยี่ห้อ ทายเก้อร์ เป็นผู้ให้การสนับสนุน ทำให้การแข่งขันเกิดขึ้นครั้งแรกในปี 1996 และตั้งชื่อรายการว่า ทายเก้อร์ คัพ (Tiger Cup) กำหนดแข่งกัน 2 ปีครั้ง
การแข่งขันครั้งที่ 6 ขลุกขลักหน่อย เพราะ ทายเก้อร์ เลิกให้การสนับสนุนแล้ว ต้องหันไปใช้ชื่อรายการว่า ฟุตบอลชิงแช้มพ์อาเซี่ยน ( ASEAN Football Championship ) และกว่าจะเริ่มการแข่งขันก็เลยข้ามปี ไปแข่งเอากลางเดือนมกราคม 2007 โน่นแน่ะ
แล้วในที่สุด วันที่ 7 สิงหาคม 2008 ซูซุกิ ตัดสินใจเข้ามาให้การสนับสนุน ชื่อรายการจึงกลายเป็น เอเอฟเอฟ ซูซุกิ คัพ จนถึงปัจจุบัน ซึ่งความจริง การแข่งขันในปี 2012 นี้ ฟิลิปปีนส์ แสดงความสนใจและขอเสนอตัวเป็นเจ้าภาพ แต่ก็วืดไป เพราะในการประชุมสภากรรมการ เอเอฟเอฟ เมื่อต้นปี 2011 เขาตัดสินให้ มาเลเซีย กับ ไทย เป็นเจ้าภาพ
การแข่งขันในปีนี้ เมื่อจบรอบคัดเลือก ก็ได้ เมียนมาร์ กับ ลาว มาสมทบกับ 6 ทีมที่ยืนรออยู่แล้ว รวมเป็น 8 ทีม แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่ม A มี ไทย เวียตนาม ฟิลิปปีนส์ และ เมียนมาร์ ทำการแข่งขันที่ ประเทศไทย ส่วน กลุ่ม B มี มาเลเซีย อินโดเนเซีย ซิงคโปร์ และ ลาว ไปแข่งกันที่ ประเทศมาเลเซีย แล้วคัดเอา 2 อันดับแรกของแต่ละกลุ่มมาไขว้เจอกันในรอบรองชนะเลิศ ซึ่งจะพบกันแบบ เหย้า-เยือน ผลัดกันเป็นเจ้าบ้าน แล้วเอาทีมชนะมาชิงแช้มพ์ แบบเหย้า-เยือน เช่นกัน
สำหรับหลักเกณฑ์ในการจัดอันดับทีมเพื่อได้สิทธิ์เข้ารอบต่อไปในกรณีที่เมื่อแข่งรอบแบ่งกลุ่มจบแล้วดันมีทีมที่มีคะแนนเท่ากัน ให้ดูตามลำดับ ดังนี้ครับ เมื่อคะแนนเสมอกันก็วัดกันที่ผลต่างประตู ได้-เสีย ก่อน ถ้ายังเท่ากันอีกก็ดูประตูที่ทำได้ ใครมากกว่าก็ถือว่าชนะไป แล้วถ้ายังไม่จบกันอีก ค่อยดูผลการแข่งขันระหว่างคู่กรณีคือ เฮด-ทู-เฮด ถึงตอนนี้ ยังอาจไม่ได้ข้อยุติ ก็ต้องใช้วิธีดวลจุดโทษหาผู้ชนะ แต่อันนี้มีข้อแม้ว่า ทั้งสองทีมคู่กรณียังอยู่ในสนาม ไม่เช่นนั้นต้องใช้หนทางสุดท้าย คือ จับสลาก
นี่เป็นอีกรายการหนึ่งที่ ไทย มีโอกาสคว้าแช้มพ์สูง และที่สำคัญ คุณทนุศักดิ์ เล็กอุทัย ผู้จัดการทีมชาติไทย ก็มั่นอกมั่นใจมาก ลงทุนเดิมพันด้วยลมปากว่า ต้องแช้มพ์สถานเดียว มันเป็นความฝันขนาดเล็กที่แฟนบอลผูกปีผิดหวังมานานมากแล้ว คราวนี้น่าจะสมปรารถนาเสียที แต่ถึงอย่างไรก็ต้องระวังทีมร่วมกลุ่มของเราให้ดีก็แล้วกัน เพราะเวลานี้หากนับอันดับฟีฟ่าแล้ว เราอยู่อันดับที่ 3 ของกลุ่มนะครับ โดยเฉพาะนัดแรกวันที่ 24 นี้ เจอกับ ฟิลิปปีนส์ ที่เพิ่งทำอันดับแซงผ่านหน้าเราไป ไม่เช่นนั้น พลาดพลั้งชวดแช้มพ์ก็ขอเชิญขนกันไปให้หมดทั้งยวงเลยนะครับ ทั้ง หัวดำ หัวขาว
หลังจากการแข่งขันฟุตบอลสโมสรภายในประเทศ ประจำฤดูกาล 2012 ค่อยๆ ทยอยจบกันไปเกือบหมดแล้ว คงเหลือเพียง ลีก ภูมิภาค ดิวิเชิ่น 2 รอบแชมเปี้ยนส์ ลีก อีกไม่กี่นัด คราวนี้รายการต่อไปก็ถึงคิวของฟุตบอลทีมชาติ ซึ่งกำลังจะเปิดฉากให้แฟนบอลได้ร่วมเชียร์กันต่อในอีก 3 วันข้างหน้า นั่นคือ ฟุตบอลชิงแช้มพ์อาเซี่ยน ครั้งที่ 9 หรือ เอเอฟเอฟ ซูซุกิ คัพ 2012
สหพันธ์ฟุตบอลอาเซี่ยน ( ASEAN Football Federation - AFF ) ก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่ปี 1984 โดย 6 ชาติ คือ บรูไน อินโดเนเซีย ฟิลิปปีนส์ มาเลเซีย ซิงคโปร์ และ ไทย ต่อมาในปี 1966 กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ และ เวียตนาม เข้ามาร่วมเป็นสมาชิก รวมเป็น 10 ชาติ แล้วก็มี ตีมอร์ เล็ชท์ เข้ามาสมทบในปี 2004
ในขณะที่ ออสตราเลีย ซึ่งต้องการพัฒนาฝีเท้าทีมชาติของตน อยากจะมีแม็ทช์แข่งกับทีมที่มีความแข็งแกร่งหลากหลายหน่อย จึงขอออกจากโซนโอเชินเนีย แล้วย้ายมาอยู่ในโซนเอเชีย ซึ่ง สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า ให้การอนุมัติตั้งแต่สิ้นเดือนมิถุนายน 2005 แล้ว แต่จะไปมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2006 ดังนั้น ทาง AFF จึงเชิญ ซ็อคเค่อรูส์ เข้ามาในฐานะสมาชิกรับเชิญตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2005 แต่พวกเขาจะร่วมกับ AFF เฉพาะทีมระดับเยาวชนเท่านั้น
AFF จัดการแข่งขันฟุตบอลรายการเอกเลย ก็คือ ฟุตบอลชิงแช้มพ์อาเซี่ยน โดยได้เบียร์ยี่ห้อ ทายเก้อร์ เป็นผู้ให้การสนับสนุน ทำให้การแข่งขันเกิดขึ้นครั้งแรกในปี 1996 และตั้งชื่อรายการว่า ทายเก้อร์ คัพ (Tiger Cup) กำหนดแข่งกัน 2 ปีครั้ง
การแข่งขันครั้งที่ 6 ขลุกขลักหน่อย เพราะ ทายเก้อร์ เลิกให้การสนับสนุนแล้ว ต้องหันไปใช้ชื่อรายการว่า ฟุตบอลชิงแช้มพ์อาเซี่ยน ( ASEAN Football Championship ) และกว่าจะเริ่มการแข่งขันก็เลยข้ามปี ไปแข่งเอากลางเดือนมกราคม 2007 โน่นแน่ะ
แล้วในที่สุด วันที่ 7 สิงหาคม 2008 ซูซุกิ ตัดสินใจเข้ามาให้การสนับสนุน ชื่อรายการจึงกลายเป็น เอเอฟเอฟ ซูซุกิ คัพ จนถึงปัจจุบัน ซึ่งความจริง การแข่งขันในปี 2012 นี้ ฟิลิปปีนส์ แสดงความสนใจและขอเสนอตัวเป็นเจ้าภาพ แต่ก็วืดไป เพราะในการประชุมสภากรรมการ เอเอฟเอฟ เมื่อต้นปี 2011 เขาตัดสินให้ มาเลเซีย กับ ไทย เป็นเจ้าภาพ
การแข่งขันในปีนี้ เมื่อจบรอบคัดเลือก ก็ได้ เมียนมาร์ กับ ลาว มาสมทบกับ 6 ทีมที่ยืนรออยู่แล้ว รวมเป็น 8 ทีม แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่ม A มี ไทย เวียตนาม ฟิลิปปีนส์ และ เมียนมาร์ ทำการแข่งขันที่ ประเทศไทย ส่วน กลุ่ม B มี มาเลเซีย อินโดเนเซีย ซิงคโปร์ และ ลาว ไปแข่งกันที่ ประเทศมาเลเซีย แล้วคัดเอา 2 อันดับแรกของแต่ละกลุ่มมาไขว้เจอกันในรอบรองชนะเลิศ ซึ่งจะพบกันแบบ เหย้า-เยือน ผลัดกันเป็นเจ้าบ้าน แล้วเอาทีมชนะมาชิงแช้มพ์ แบบเหย้า-เยือน เช่นกัน
สำหรับหลักเกณฑ์ในการจัดอันดับทีมเพื่อได้สิทธิ์เข้ารอบต่อไปในกรณีที่เมื่อแข่งรอบแบ่งกลุ่มจบแล้วดันมีทีมที่มีคะแนนเท่ากัน ให้ดูตามลำดับ ดังนี้ครับ เมื่อคะแนนเสมอกันก็วัดกันที่ผลต่างประตู ได้-เสีย ก่อน ถ้ายังเท่ากันอีกก็ดูประตูที่ทำได้ ใครมากกว่าก็ถือว่าชนะไป แล้วถ้ายังไม่จบกันอีก ค่อยดูผลการแข่งขันระหว่างคู่กรณีคือ เฮด-ทู-เฮด ถึงตอนนี้ ยังอาจไม่ได้ข้อยุติ ก็ต้องใช้วิธีดวลจุดโทษหาผู้ชนะ แต่อันนี้มีข้อแม้ว่า ทั้งสองทีมคู่กรณียังอยู่ในสนาม ไม่เช่นนั้นต้องใช้หนทางสุดท้าย คือ จับสลาก
นี่เป็นอีกรายการหนึ่งที่ ไทย มีโอกาสคว้าแช้มพ์สูง และที่สำคัญ คุณทนุศักดิ์ เล็กอุทัย ผู้จัดการทีมชาติไทย ก็มั่นอกมั่นใจมาก ลงทุนเดิมพันด้วยลมปากว่า ต้องแช้มพ์สถานเดียว มันเป็นความฝันขนาดเล็กที่แฟนบอลผูกปีผิดหวังมานานมากแล้ว คราวนี้น่าจะสมปรารถนาเสียที แต่ถึงอย่างไรก็ต้องระวังทีมร่วมกลุ่มของเราให้ดีก็แล้วกัน เพราะเวลานี้หากนับอันดับฟีฟ่าแล้ว เราอยู่อันดับที่ 3 ของกลุ่มนะครับ โดยเฉพาะนัดแรกวันที่ 24 นี้ เจอกับ ฟิลิปปีนส์ ที่เพิ่งทำอันดับแซงผ่านหน้าเราไป ไม่เช่นนั้น พลาดพลั้งชวดแช้มพ์ก็ขอเชิญขนกันไปให้หมดทั้งยวงเลยนะครับ ทั้ง หัวดำ หัวขาว