เบรนแดน ร็อดเจอร์ส นายใหญ่ ลิเวอร์พูล ออกมาชี้ว่าการเปลี่ยนแผนจาก 5-3-2 มาเล่นระบบใหม่ในช่วงครึ่งหลัง มีส่วนทำให้ลูกทีมตนเองเล่นได้ดีขึ้นจนนำมาซึ่งประตูตีเสมอ 1-1 ในเกมเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
“หงส์แดง” ภายใต้การทำทีมของ ร็อดเจอร์ส ออกสตาร์ทด้วยการยืนในระบบ 5-3-2 ใช้เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ 3 ตัว ในการไปเยือนถิ่นสแตมฟอร์ม บริดจ์ หวังเพื่อนหยุดแนวรุกของเจ้าถิ่น แต่มาพลาดเสียประตูก่อนจากการโหม่งของ จอห์น เทอร์รี ในนาที 20 และลูกเกมเป็นรองตลอด 45 นาทีแรก ก่อนจะมาแก้เกมจนได้ประตูตีเสมอ 1-1 จาก หลุยส์ ซัวเรซ ช่วงครึ่งหลัง
ภายหลังจบเกม ร็อดเจอร์ส ให้สัมภาษณ์โดยชื่อว่าการแก้เกมปรับแท๊กติคของตนเอง คืนสาเหตุหลังที่ทำให้เหล่า “เดอะค็อปส์” ได้ผลการแข่งขันที่ต้องการและได้ 1 แต้มกลับออกจากกรุงลอนดอน แม้ว่าอีกสาเหตุที่หลัง เชลซี อ่อนลงไปเพราะอารบาดเจ็บของ “เจที” ตั้งแต่ช่วงครึ่งแรก
“ครึ่งแรกเราเล่นกันได้ไม่ดี แต่พอมาครึ่งหลังนักเตะผมมุ่งมั่น ทุ่มเทกันมากขึ้น ผมพยายามปรับการเล่นให้เร็วขึ้น เปลี่ยนระบบการยืนเล็กน้อยและการมาเยือนที่นี่ไม่เคยมีงานง่ายซึ่งผมรู้ดี 1 แต้มจึงเป็นสิ่งที่สำคัญคงต้องยกความชอบให้กับนักเตะทุกคนด้วย” นายใหญ่แห่งถิ่น แอนฟิลด์ กล่าว
พร้อมกันนี้ ร็อดเจอร์ส ยังเอ่ยปากชม เจมี คาราเกอร์ แนวรับของทีมที่ต้องลงมาทำหน้าที่แทน มาร์ติน สเคอร์เทล เนื่องจากมีอาการป่วย ว่า “เขาทำได้ยอดเยี่ยม เป็นนักเตะที่มีความเป็นมืออาชีพ ให้ความเคารพในการตัดสินของกุนซือ นี่คือ นักเตะต้นแบบจริงๆ”