xs
xsm
sm
md
lg

จังหวะชีวิต "เอ-อาร์ต" ปรากฎการณ์ลูกขนไก่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บดินทร์ อิสระ
ASTVผู้จัดการรายวัน-ถือเป็นปรากฎการณ์ใหม่ของวงการแบดมินตันไทยก็ว่าได้ สำหรับชื่อของ "เอ" มณีพงศ์ จงจิตร และ "อาร์ต" บดินทร์ อิสระ ที่ล่าสุดทะยานรั้งชายคู่มือ 8 ของโลกจากการประกาศของ สหพันธ์ตบขนไก่โลก (บีดับเบิลยูเอฟ) เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ถือว่าไต่ขึ้นไปได้สูงสุดนับตั้งแต่ไทยเคยมีนักกีฬาประเภทนี้มา ทีมข่าว MGR SPORT จึงถือโอกาสจับเข่าคุยกับ 2 หนุ่มที่ถือว่ากว่าจะมีวันนี้ได้ต้องผ่านอุปสรรคและจุดเปลี่ยนนานับประการ จากนี้ก็จะต้องจับตาดูกันว่าทั้งสองคนจะไปได้ไกลแค่ไหนหลังสอบผ่านก้าวแรกไปแล้ว

ตามประสาวัยรุ่นแน่นอนว่าจะต้องเจอกับสิ่งเร้าที่เข้ามาในชีวิตมากมายเพื่อทดสอบจิตใจและมาทำให้เส้นทางนักกีฬาต้องไขว้เขว่พบกับทางแยก ไม่ว่าจะเป็นความเบื่อหน่ายในการซ้อมและอยากใช้เวลาสนุกกับเพื่อนฝูง ซึ่งกว่าที่จะมาบรรจบเป็น "เอ-อาร์ต" ลงตัวเฉกเช่นทุกวันนี้เข้าถึงรอบ 8 คู่สุดท้าย โอลิมปิก ลอนดอน เกมส์ 2012 และเป็นความหวังสำหรับศึก ซีเกมส์ 2013 ที่ พม่า ไม่ใช่เรื่องง่าย

บดินทร์ ได้เริ่มย้อนความว่าถึงวันแรกที่เริ่มจับไม้แบดมินตันให้ฟังว่า "ผมเริ่มเล่นแบดมินตันตอนอายุ 5 ขวบที่สโมสร สิงห์เอชเอช โดยมาอาศัยลุงกับป้าอยู่ที่กรุงเทพฯ ส่วนพ่อแม่ผมอยู่อุตรดิตถ์ จากนั้นก็เริ่มได้แชมป์เยาวชนชายเดี่ยวหลายรายการ จนกระทั่งเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นก็ติดเพื่อนเป็นธรรมดาจึงห่างหายจากการเล่นไปเกือบครึ่งปี ช่วงนั้นก็ทำให้เริ่มหลงใหลการสักตามร่างกายจากการแนะนำของเพื่อน กว่าจะกลับสู่เส้นทางนี้อีกครั้งก็ได้ 'โค้ชอ๋อง' อภิชัย ธีระรัตน์สกุล เป็นเพื่อนพี่ชาย เรียกกลับมาฝึกซ็อมและย้ายสู่ ส.แบด ต่อมาก็ถูกเรียกเข้าแคมป์ของ เอสซีจี ทำให้ได้จับคู่กับ มณีพงศ์ ตั้งแต่นั้นมา"

หนุ่มที่กำลังจะอายุ 22 ปีเดือนธันวาคมนี้ แต่เวลานี้มีครอบครัวที่น่ารักและลูกสาวก็เหมือนจะนำสิ่งดีๆ มาให้กับผู้เป็นพ่อ บดินทร์ เล่าว่า "ผมกับ ฝ้าย เราคบกัน 6-7 ปีแล้ว จากนั้นแต่งงานตอนอายุ 19 ปี พ่อแม่ฝ่ายผู้หญิงก็ไม่ได้ว่าอะไร บอกให้เรามาสู่ขอลูกสาวให้ถูกต้องตามประเพณี จากนั้นเราได้โซ่คล้องใจคือลูกสาวคนนี้ชื่อว่า น้องมินิ บุญนินทร์ อายุ 3 ขวบแล้ว"

แน่นอนว่าความคลั่งไคล้สมัยเป็นวัยรุ่นเกี่ยวกับรอยสัก ทำให้ชื่อ น้องมินิ ไปอยู่บนแขนซ้ายของ บดินทร์ ด้วย "หลังจากที่ผมมีลูกสาวเหมือนกับสิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิต ไม่ว่าะเป็นชื่อเสียง ความสำเร็จแชมป์แบดมินตันหลายรายการ โดยรายการที่ทำให้ทุกคนรู้จักพวกเราคือการที่เราคว้าแชมป์ อินเดีย โอเพน 2012 ซึ่งเป็นใบเบิกทางสู่ โอลิมปิก เกมส์ และเป็นที่รู้จักมากขึ้น หลังจากนั้นผมเลยสักลายเพิ่มที่บริเวณแขนซ้ายคำว่า MINI เป็นชื่อเล่นของลูกสาวครับ"

ด้าน "เอ" มณีพงศ์ ที่มีเส้นทางวัยเด็กคล้ายกับคู่หูอย่าง บดินทร์ เริ่มเท้าความบ้างว่า "ผมเข้าสู่วงการแบดมินตันตั้งแต่อายุ 7 ขวบที่สโมสรภูเก็ต ซึ่งแม่ทำงานขายน้ำอยู่ด้วย ช่วงแรกยังไม่ได้รางวัล แต่จากนั้น 1 ปีต่อมาก็ได้แชมป์เรื่อยมาจนกระทั่งอายุ 14 ปีก้าวสู่การเป็นวัยรุ่น ช่วงนั้นติดเพื่อนมากและอยากใช้ชีวิตเฮฮา จึงทำให้ตนติดเกมออนไลน์อย่างแร็คนาร็อคแต่นั้นมา แต่ก็ยังกลับไปซ้อมอยู่บ้าง แต่ไม่จริงจังเท่าไหร่นัก ทางบ้านก็ไม่รู้ด้วยว่าเราแอบโดดซ้อมอยู่ด้วย ยอมรับเลยว่าเล่นเกมนานสุดคือข้ามคืนข้ามวัน ทำให้ฝีมือเราตกลงไปมาก"

"แต่ได้ 'พี่สิงห์' คฑาวุฒิ พันครุฑ ซึ่งเป็นโค้ชที่สโมสรภูเก็ต ดึงเรากลับสู่เส้นทางนี้อีกครั้ง ก่อนที่ผมจะเดินทางมากรุงเทพฯ เพื่อทำการฝึกซ้อมก่อนถูกเรียกตัวไปเก็บตัวที่ เอสซีจี แบดมินตัน อคาเดมี แคมป์ ตั้งแต่อายุ 17 ปี ซึ่งนั่นก็ทำให้ผมต้องเลือกเส้นทางว่าเราจะเล่นเดี่ยวหรือคู่ ผมจึงตัดสินใจว่าจะเลือกคู่กับ บดินทร์ เพราะผมเห็นว่าเขาเป็นที่ตีหนักและเคยเจอตั้งแต่สมัยเด็กๆ มาแล้วจึงรู้ทางดีว่าเป็นคนอย่างไรและเล่นสไตล์ไหน" ตบวัย 19 ปีเผย

ทั้งนี้คู่หูชายมือ 1 ของไทยยังได้เผยถึงเป้าหมายในการแข่งขันซีเกมส์ที่ เนปิดอว์ และ เอเชียน เกมส์ ที่ อินชอน ทิ้งท้ายว่า "เป้าหมายที่สำคัญของพวกเราคือการคว้าเหรียญทองประเภทชายคู่ให้ได้ที่ เนปิดอว์ เกมส์ หลังจากคว้าทองแดงประเภททีมเมื่อคราวที่แล้วที่ ปาเลมบัง รวมถึงขอหยิบทองที่ เกาหลีใต้ ในอีกสองปีข้างหน้านี้ แม้ว่าจะมีอุปสรรคสำคัญคือ คู เคียน เคียต กับ ตัน บูน ฮง คู่หูจากมาเลเซียที่ฝากรอยแผลที่ ลอนดอน เกมส์ มาแล้วก็ตาม เพราะคู่นี้เคยเจอก่อนหน้านี้ที่ เวียงจันทน์ เกมส์ เมื่อปี 2550 มาแล้ว แต่ก็ไม่ประมาทแน่นอน"
มณีพงศ์ จงจิตร
ครอบครัวน่ารักของ บดินทร์
รอยสักชื่อลูกสาว
กำลังโหลดความคิดเห็น