คอลัมน์ “ริงไซด์ ไฟต์คลับ” โดย “ลักษมณ์ นันทิวัชรินทร์”
ชาวไทยหลายท่านน่าจะได้ชมศึก “มวยโลกบ่ายสามโมง” เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมาและก็ได้เห็นการน็อคแบบ “ช็อคโลก” (ตามที่ผู้บรรยายว่า) เมื่อ พงษ์ศักดิ์เล็ก กระทิงแดงยิม อดีตแชมป์โลกรุ่นฟลายเวท ระดับ ฮอลล์ ออฟ เฟม ของสภามวยโลก ต้องมาโดนนักชกฟิลิปปินส์ต่อยร่วงน็อคยก 3 คาเวทีมวยชั่วคราว จังหวัดนครราชสีมา เสียเข็มขัดแชมป์ไปอย่างไม่คาดฝัน
จากการชกไฟต์นี้แสดงให้เห็นว่า “เจ้ากร” นั้น หมดสภาพไปเรียบร้อยแล้ว ลีลา ชั้นเชิงอาจจะยังดีอยู่ แต่ก็ช้าไปมากและที่สำคัญสภาพร่างกายในวัย 35 กะรัตนี้ก็ขอยกมือประท้วงว่าไม่ไหวแล้วครัง เพราะหลังจากโดนหมัดนักชกฟิลิปปินส์ลงไปให้กรรมการนับก็ไม่สามารถฟื้นตัวขึ้นมาได้ ใจยังอยากสู้ แต่ตาลอยและขายังสั่น พอประหมัดกันอีกรอบคราวนี้เลยโดนน็อคเรียบร้อย
อันที่จริงตั้งแต่ พงษ์ศักดิ์เล็ก แพ้น็อคเสียแชมป์ไปเมื่อต้นปี ก็กลายเป็นมวยคางเปราะไปเลย ไฟต์นั้นแฟนๆ คงจำได้ว่าขึ้นชกกันกลางสายฝน พื้นเวทีลื่น ทำให้ “เจ้ากร” หลักไม่มั่นและโดนนักชกฟิลิปปินส์ไล่ต่อยแพ้น็อคไป ซึ่งเรื่องนี้ก็วิพากษ์วิจารณ์กันมากถึงมาตรฐานการจัดมวยในบ้านเรา ซึ่งผมจะไม่ฉายซ้ำ แต่ที่สำคัญเมื่อวันพฤหัสบดีก็เผยออกมาให้เห็นอีกครั้ง โดนจุดโฟกัสปลายคางเข้าทีเดียวเสียศูนย์ไปเลย
เห็นสภาพของ พงษ์ศักดิ์เล็ก แล้วก็เห็นใจอดีตแชมป์โลก (ตัวจริง) ที่ยิ่งใหญ่คนหนึ่งของเรา ต้องฝืนสังขารขึ้นชกแล้วก็โดนน็อคแบบหมดสภาพ ได้ข่าวว่าทาง “เสี่ยเน้า” วิรัตน์ วชิรรัตนวงศ์ ตัดสินใจให้แขวนนวมแล้ว ซึ่งผมว่าแฟนมวยส่วนใหญ่ก็คงเห็นด้วย เพราะส่วนใหญ่เวลาชกก็ไม่ค่อยจะได้ค่าตอบแทนเต็มเม็ดเต็มหน่วยมากนัก ทำให้ต้องกัดฟันต่อยไปเรื่อยๆ ตราบเท่าที่ชื่อยังขายได้ สุดท้ายเมื่อร่างกายไม่ไหวจริงๆ ต้องเลิกไป ซึ่งบางครั้งก็สายไป อย่าง รัตนพล ส.วรพิน ก็มีอาการทางประสาทหลังเลิกชกแล้ว สำหรับ “เจ้ากร” ก็กรำศึกมาไม่น้อย แม้จะเป็นนักมวยเชิง ไม่ใช่มวยลงทุนอย่าง “บักโบ้” แต่พอมีปัญหาเรื่องคางแบบนี้ ถ้าฝึนต่อไปก็จะไม่เป็นผลดีกับตัว
จากนี้ไปแฟนมวยก็คงไม่ได้เห็น พงษ์ศักดิ์เล็ก บนเวทีแล้ว เว้นแต่อาจมีการชกโชว์หรือโชว์ตัวบ้าง เราก็คงติดตามเอาใจช่วยให้ธุรกิจที่ “เจ้ากร” เปิดร่วมกับภรรยาไปได้ด้วยดี จะได้มีชีวิตหลังเลิกชกที่ดี ไม่ต้องมีปัญหาเหมือนอดีตแชมป์โลกหลายๆ คน ที่จบชีวิตนักมวยในสภาพ “หมาล่าเนื้อ” ที่ถูกเจ้าของทอดทิ้งอย่างที่เราเห็นๆ และได้ข่าวอยู่เสมอๆ นะครับ
ชาวไทยหลายท่านน่าจะได้ชมศึก “มวยโลกบ่ายสามโมง” เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมาและก็ได้เห็นการน็อคแบบ “ช็อคโลก” (ตามที่ผู้บรรยายว่า) เมื่อ พงษ์ศักดิ์เล็ก กระทิงแดงยิม อดีตแชมป์โลกรุ่นฟลายเวท ระดับ ฮอลล์ ออฟ เฟม ของสภามวยโลก ต้องมาโดนนักชกฟิลิปปินส์ต่อยร่วงน็อคยก 3 คาเวทีมวยชั่วคราว จังหวัดนครราชสีมา เสียเข็มขัดแชมป์ไปอย่างไม่คาดฝัน
จากการชกไฟต์นี้แสดงให้เห็นว่า “เจ้ากร” นั้น หมดสภาพไปเรียบร้อยแล้ว ลีลา ชั้นเชิงอาจจะยังดีอยู่ แต่ก็ช้าไปมากและที่สำคัญสภาพร่างกายในวัย 35 กะรัตนี้ก็ขอยกมือประท้วงว่าไม่ไหวแล้วครัง เพราะหลังจากโดนหมัดนักชกฟิลิปปินส์ลงไปให้กรรมการนับก็ไม่สามารถฟื้นตัวขึ้นมาได้ ใจยังอยากสู้ แต่ตาลอยและขายังสั่น พอประหมัดกันอีกรอบคราวนี้เลยโดนน็อคเรียบร้อย
อันที่จริงตั้งแต่ พงษ์ศักดิ์เล็ก แพ้น็อคเสียแชมป์ไปเมื่อต้นปี ก็กลายเป็นมวยคางเปราะไปเลย ไฟต์นั้นแฟนๆ คงจำได้ว่าขึ้นชกกันกลางสายฝน พื้นเวทีลื่น ทำให้ “เจ้ากร” หลักไม่มั่นและโดนนักชกฟิลิปปินส์ไล่ต่อยแพ้น็อคไป ซึ่งเรื่องนี้ก็วิพากษ์วิจารณ์กันมากถึงมาตรฐานการจัดมวยในบ้านเรา ซึ่งผมจะไม่ฉายซ้ำ แต่ที่สำคัญเมื่อวันพฤหัสบดีก็เผยออกมาให้เห็นอีกครั้ง โดนจุดโฟกัสปลายคางเข้าทีเดียวเสียศูนย์ไปเลย
เห็นสภาพของ พงษ์ศักดิ์เล็ก แล้วก็เห็นใจอดีตแชมป์โลก (ตัวจริง) ที่ยิ่งใหญ่คนหนึ่งของเรา ต้องฝืนสังขารขึ้นชกแล้วก็โดนน็อคแบบหมดสภาพ ได้ข่าวว่าทาง “เสี่ยเน้า” วิรัตน์ วชิรรัตนวงศ์ ตัดสินใจให้แขวนนวมแล้ว ซึ่งผมว่าแฟนมวยส่วนใหญ่ก็คงเห็นด้วย เพราะส่วนใหญ่เวลาชกก็ไม่ค่อยจะได้ค่าตอบแทนเต็มเม็ดเต็มหน่วยมากนัก ทำให้ต้องกัดฟันต่อยไปเรื่อยๆ ตราบเท่าที่ชื่อยังขายได้ สุดท้ายเมื่อร่างกายไม่ไหวจริงๆ ต้องเลิกไป ซึ่งบางครั้งก็สายไป อย่าง รัตนพล ส.วรพิน ก็มีอาการทางประสาทหลังเลิกชกแล้ว สำหรับ “เจ้ากร” ก็กรำศึกมาไม่น้อย แม้จะเป็นนักมวยเชิง ไม่ใช่มวยลงทุนอย่าง “บักโบ้” แต่พอมีปัญหาเรื่องคางแบบนี้ ถ้าฝึนต่อไปก็จะไม่เป็นผลดีกับตัว
จากนี้ไปแฟนมวยก็คงไม่ได้เห็น พงษ์ศักดิ์เล็ก บนเวทีแล้ว เว้นแต่อาจมีการชกโชว์หรือโชว์ตัวบ้าง เราก็คงติดตามเอาใจช่วยให้ธุรกิจที่ “เจ้ากร” เปิดร่วมกับภรรยาไปได้ด้วยดี จะได้มีชีวิตหลังเลิกชกที่ดี ไม่ต้องมีปัญหาเหมือนอดีตแชมป์โลกหลายๆ คน ที่จบชีวิตนักมวยในสภาพ “หมาล่าเนื้อ” ที่ถูกเจ้าของทอดทิ้งอย่างที่เราเห็นๆ และได้ข่าวอยู่เสมอๆ นะครับ
