นครศรีธรรมราช - ผู้ว่าฯ นครศรีฯ สั่งชุดเฉพาะกิจปราบปรามการลักลอบตัดไม้และทำลายธรรมชาติ เริ่มยุทธการปราบปรามลักลอบตัดไม้ ตะลึงพบไม้กระบากขนาดยักษ์อายุกว่า 500 ปีถูกตัดโค่นรอการแปรรูป พื้นที่ถูกรุกแล้วกว่า 200 ไร่กลางป่ากรุงชิง วิตกป่าถูกทำลายเพิ่มขึ้น ทั้งที่เป็นพื้นที่ภัยพิบัติครั้งใหญ่เมื่อปี 2553 และปี 2554 หากเจอฝนตกหนักต่อเนื่องอาจวิกฤตซ้ำรอยอีกครั้ง
วันนี้ (26 ก.ค.) ชุดเฉพาะกิจปราบปรามการลักลอบตัดไม้และทำลายทรัพยากรธรรมชาตินครศรีธรรมราช โดยคำสั่งของนายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยให้ผสานกำลัง 4 ฝ่าย ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ป่าไม้ ทหาร ตำรวจตระเวนชายแดน และตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช นำโดยนายศุภโชค พราหมพูน ในฐานะหัวหน้าชุดเฉพาะกิจ พร้อมด้วยกำลังติดอาวุธกว่า 20 นาย เดินเท้าเข้าทำการตรวจยึดพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่ากรุงชิงที่ถูกบุกรุกแผ้วถาง ในเขตป่าบ้านห้วยหินขาว ม.8 ต.กรุงชิง อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งพื้นที่ในย่านนี้เคยเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติน้ำป่าท่วมและดินโคลนถล่มเมื่อปี 2553 และปี 2554 ที่ผ่านมา โดยยังคงมีสภาพร่องรอยความเสียหายมาจนถึงปัจจุบัน
โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึดแปลงแรกพบว่าพื้นที่ถูกแผ้วถางจนราบ ต้นไม้ขนาดใหญ่ถูกโค่นแล้วเผาทำลายจนเหลือแต่ตอ แต่ไม่พบบุคคลใดๆ อยู่ในพื้นที่ ส่วนนอกแปลงนั้นพบการอาศัยอยู่ของชาวบ้านยืนยันว่าเป็นพื้นที่ของนายทุนที่เป็นหญิงม่ายคนหนึ่งในตัวอำเภอนบพิตำว่าจ้างแรงงานให้มาแผ้วถางปลูกยางพารา
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เดินเท้าลึกเข้าไปในป่าชั้นในพบว่ามีการแผ้วถางทำลายสภาพป่าจนราบ ไม้ขนาดใหญ่ถูกตัดโค่นเหลือแต่ตอ และที่เจ้าหน้าที่ต้องตกตะลึงเมื่อพบว่ามีไม้กระบากขนาดใหญ่อย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อนถูกโค่นล้มรอการแปรรูปมีความยาวกว่า 30 เมตร มีขนาดเส้นรอบวงกว่า 4.5 เมตร ในขณะที่พื้นที่รอบบริเวณถูกปรับแต่งเป็นขั้นบันไดปลูกยางพาราขนาดเล็กเต็มบริเวณ เบื้องต้นพบว่าในบริเวณที่มีการบุกรุกในย่านดังกล่าวมีกว่า 200 ไร่ และในผืนป่าชั้นในยังมีการบุกรุกอีกหลายจุดด้วยกัน โดยในชั้นต้นได้ทำการตรวจยึดพื้นที่ตามความผิดใน พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ 2507 มาตรา 14 และ 31 และ พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 11, 64, 69 และ 72 และเมื่อสอบถามชาวบ้านในย่านเชิงเขาที่เกิดเหตุยืนยันว่าได้มีนายทุนเป็นผู้หญิงประกอบอาชีพทำธุรกิจอยู่ในตัวอำเภอนบพิตำ ได้ว่าจ้างแรงงานเข้าแผ้วถางและปลูกยางพาราจนเต็มพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้บันทึกปากคำเพื่อเป็นพยานในการดำเนินคดีต่อเจ้าของแล้ว
นายศุภโชค พราหมพูน หัวหน้าชุดเฉพาะกิจ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจปราบปรามการลักลอบตัดไม้และทำลายทรัพยากรธรรมชาตินครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า เป็นเรื่องที่น่าตกใจเนื่องจากการตรวจสอบนั้นพบว่ามีการบุกรุกพื้นที่อย่างหนักและต่อเนื่อง ภูเขาบางลูกแทบหมดสภาพพื้นที่ป่า ซึ่งในพื้นที่ อ.นบพิตำ เจ้าหน้าที่จะประสานกับทุกหน่วยงานเข้าทำการตรวจยึดอย่างต่อเนื่อง และหากพบบุคคลที่กระทำความผิดอยู่ในแปลงจะทำการจับกุมดำเนินคดีทันที