จนท.ล้อมจับนายทุนใช้แบ็กโฮรุกป่าลำปาง พบพ่อเลี้ยงเชียงใหม่รุกป่าฯ แม่ยาว

ลำปาง - นายอำเภอเกาะคา นำทีมผู้นำท้องถิ่น ล้อมยึดรถแบ็กโฮ พร้อมคนงาน และของกลาง ขณะบุกรุกป่าสงวนกว่า 10 ไร่ ด้านป่าไม้บุกตรวจผืนป่าสงวนฯ แม่ยาว พบถูกพ่อเลี้ยงเชียงใหม่ “นอมินี” บริษัทใหญ่ กทม.บุกรุกเตรียมพื้นที่ปลูกมะม่วง-ยางพาราอีกเพียบ

บ่ายวันนี้ (15 ก.ค.) นายศรีโรจน์ นิมมานพัชรินทร์ นายอำเภอเกาะคา พร้อมด้วยนายประดิษฐ์ ปงหาญ นายก อบต.นาแส่ง, กำนันสวง อินทิ กำนัน ต.นาแส่ง, นายบุญเนตร คำเผือ ผญบ.นาแก้วตะวันออก, นายเหรียญ บุญมา ผญบ.แม่ไฮ และนายนิคม ศรีโวย ผญบ.บ้านนาแส่ง ตลอดจนเจ้าหน้าที่ป่าไม้ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เกาะคา ได้เข้าตรวจสอบที่บริเวณป่าสงวนแห่งชาติแม่อาย ม.3 ต.นาแส่ง อ.เกาะคา จ.ลำปาง หลังได้รับแจ้งว่า มีการลักลอบบุกรุกแผ้วถางป่าเป็นบริเวณกว้าง

เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึง มีกลุ่มบุคคล รวม 3 คน กำลังขับรถแบ็กโฮดันต้นไม้ล้มเป็นบริเวณกว้าง บางคนกำลังใช้เลื่อยยนต์ขนาดพกพาตัดไม้ที่ล้มแล้วเป็นท่อน เพื่อนำไปทำฟืน ซึ่งไม้ส่วนใหญ่เป็นไม่หวงห้าม เช่น ไม้กระยาเลย และไม้สักบางส่วน ที่มีขนาดเล็กถึงปานกลาง เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัว ทำให้คนที่ขับแบ็กโฮ และคนที่กำลังตัดไม้อยู่ วิ่งหลบหนีเข้าป่าไปได้ 2 คน เหลือเพียงนายสุรชัย น้ำทอง อายุ 32 ปี บ้านเลขที่ 81 ม.6 บ้านน้ำจำ ต.ปงยางคก อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง หลังจากนั้น นายเสรี พิชัยรัตน์ อยู่บ้านเลขที่ 29/1 ต.ปะเหลียน อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ได้เข้ามาแสดงตัวว่าเป็นเจ้าของรถแบ็กโฮ เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวไว้

จากการสอบถามนายเสรี ทราบว่า นางจันทร์ ไม่ทราบนามสกุล มีอาชีพรับราชการพยาบาลในจังหวัดลำปาง เป็นผู้ว่าจ้างให้ตนเองนำรถแบ็กโฮมาปรับพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งนางจันทร์ อ้างว่า เป็นของตนเอง ตนจึงให้ลูกน้อง (ที่หลบหนีไป) นำรถเข้ามาปรับพื้นที่

ส่วนนายสุรชัย ให้การว่า มีอาชีพตัดไม้เพื่อนำไปทำฟืน วันนี้ตนได้มาแถวนี้ และเห็นมีการล้มไม้ ตนจึงขอเข้าทำการตัดเพื่อนำไปทำฟืน แต่เจ้าหน้าไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากนายสุรชัย เป็นคนนอกพื้นที่ และคาดว่า น่าจะเป็นผู้ร่วมขบวนการเดียวกัน คือ เมื่อมีการล้มต้นไม้แล้วก็จะมีอีกหนึ่งทีมเข้ามาตัดไม้ที่ล้มเพื่อนำไปแปรสภาพ หรือนำไปจำหน่ายให้แก่ผู้ที่ทำฟืนจำหน่าย

จากการสำรวจพบว่า มีพื้นที่ป่าที่ถูกบุกรุกไปแล้วกว่า 10 ไร่ เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวสองผู้ต้องหา พร้อมของกลาง ซึ่งประกอบด้วย รถแบ็กโฮ 1 คัน รถปิกอัพ 1 คัน รถจักรยานยนต์ 1 คัน เลื่อยยนต์ 1 ตัว ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ป่าไม้

ขณะเดียวกัน กำลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้นำโดยนายอิทธิชัย อุศีรษะ หัวหน้าหน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ 37 และคณะเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษตำรวจภูธร จังหวัดลำปาง ได้สนธิกำลังกับนายบุญทวี กาวิชัย ผู้ใหญ่บ้านบ้านโป่งขวาก หมู่ที่ 5 ตำบลแม่สัน อำเภอห้างฉัตร จังหวัดลำปาง กว่า 20 นาย เข้าตรวจสอบบริเวณที่ดินที่มีนายทุนบุกรุกเข้าไปแผ้วถางพื้นที่ป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติแม่ยาว โดยพบว่า มีการใช้รถไถ และมีร่องรอยการแผ้วถาง ตัดไม้ ซึ่งเป็นป่าเต็งรังเพื่อเตรียมปลูกมะม่วง และยางพาราเป็นบริเวณกว้าง กว่า 20 ไร่

นอกจากนี้ ยังพบร่องรอยการจับจองพื้นที่ป่าเพื่อรอการทำลายป่าอีกจำนวนนับพันไร่ จึงได้ทำการตรวจยึดพันธุ์ไม้ที่มีนายทุนซื้อมาซุกซ่อนไว้ในป่าบริเวณดังกล่าวที่รอปลูก เพื่อจับจองพื้นที่ดินแปลงดังกล่าว เพื่อสืบสวนหาผู้กระทำความผิด พ.ร.บ.ป่าไม้ และตัวการใหญ่ที่ให้คอยให้การสนับสนุนด้านเงินทุนให้ชาวบ้านเข้าไปรุกป่า มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ จากการสอบสวนเบื้องต้น พอจะรู้แล้วว่า กลุ่มทุนที่อยู่เบื้องหลังเป็นนายทุนใหญ่อักษรย่อว่า พ่อเลี้ยง ท. เป็นชาวจังหวัดเชียงใหม่ เป็น “นอมินี” ของบริษัทใหญ่จากกรุงเทพฯ เคลื่อนไหวโดยการเข้าไประดมซื้อที่ดินจากชาวบ้านในพื้นที่หลายจังหวัดในภาคเหนือเพื่อจับจองที่ดิน โดยการปลูกไม้ยืนต้นเพื่อครอบครองปรปักษ์ ผ่านนายหน้าในพื้นที่ ซึ่งหน่วยเหนือได้ทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว และคาดว่า จะสามารถดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมสาวลึกไปนายทุนใหญ่ที่อยู่เบื้องการบุกรุกป่าในพื้นที่จังหวัดลำปาง และหลายจังหวัดในภาคเหนือได้ในเร็วๆ นี้