xs
xsm
sm
md
lg

เจ้าท่าภูเก็ตเอาอยู่คุมเจ็ตสกีไม่ให้เอาเปรียบนักท่องเที่ยว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต
ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เจ้าท่าภูเก็ตเผยมาตรการควบคุมเรือเจ็ตสกีไม่ให้เอาเปรียบนักท่องเที่ยว โก่งราคาเกินจริงเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ทำประกันชั้นหนึ่ง กำหนดโซนนิ่ง ไม่เพิ่มจำนวนให้คงที่อยู่ 286 ลำ

นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต กล่าวถึงการดำเนินการแก้ปัญหาการจัดระเบียบเจ็ตสกีในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ว่า จังหวัดภูเก็ตได้กำหนดนโยบายจัดระเบียบการประกอบธุรกิจเรือเจ็ตสกีในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เพื่อให้เกิดความปลอดภัย และไม่สร้างความเดือดร้อนแก่นักท่องเที่ยว ตลอดจนอยู่ภายใต้ระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ไม่เอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยว ซึ่งจะมีผลต่อภาพลักษณ์ที่ดีด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต โดยอนุญาตให้จดทะเบียนเรือเจ็ตสกีไว้ จำนวน 286 ลำ ซึ่งได้แก้ปัญหาเจ็ตสกี

โดยการกำหนดโซนนิ่ง แบ่งเขตการใช้พื้นที่ทางทะเลใน 6 หาด ที่ได้รับอนุญาตให้สามารถใช้เรือเจ็ตสกีได้ใน 6 หาด ได้แก่ หาดกะตะ-หาดกะรน จำนวน 38 ลำ หาดป่าตอง จำนวน 170 ลำ หาดกมลา จำนวน 26 ลำ หาดบางเทา จำนวน 40 ลำ และหาดเกาะนาคา จำนวน 12 ลำ รวมทั้งสิ้น 286 ลำ โดยใช้ทุ่นกั้นเป็นแนวชัดเจนในทุกหาดที่มีการให้บริการเรือเจ็ตสกีตามประกาศ เพื่อสร้างความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยว

ทั้งนี้ ยังได้ควบคุมเรือเจ็ตสกีให้อยู่ในจำนวน 286 ลำ ในกรณีที่เรือเจ็ตสกีหมดสภาพการใช้งาน ต้องให้เจ้าของเรือยื่นเรื่องยกเลิกใบอนุญาตใช้เรือก่อน และให้สิทธิเจ้าของเรือลำเดิมสามารถนำเรือเจ็ตสกีลำใหม่มาจดทะเบียนทดแทนเรือลำเดิมที่ยกเลิกไปแล้วได้ แต่ไม่สามารถจดทะเบียนเรือใหม่ในทุกกรณี และเรือเจ็ตสกีทุกลำต้องทำประกันภัยชั้น 1 รวมถึงประกันภัยคนโดยสารก่อนทุกครั้งที่จะต่อใบอนุญาตใช้เรือ หรือจดทะเบียนเรือใหม่กับสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต เรือเจ็ตสกีทุกลำต้องสังกัดชมรมเรือเจ็ตสกี

นอกจากนั้น ทางกรมเจ้าท่ายังได้ออกกฎหมายให้เปลี่ยนประเภทการใช้เรือเจ็ตสกีเป็น จากเดิมที่กำหนดเป็นประเภทสำราญ เปลี่ยนให้เป็นประเภท กิจการพิเศษ เจ็ตสกีเพื่อเช่าเป็นการเฉพาะ โดยกรมเจ้าท่าได้ออกกฎหมายกำหนดเขตการใช้เรือเจ็ตสกีเป็นการเฉพาะ สามารถกำหนดเขตการเดินเรือเจ็ตสกีให้ใช้ได้เฉพาะพื้นที่ โซนนิ่งที่ได้รับอนุญาตไว้ ซึ่งสามารถทำให้บังคับใช้กฎหมายจัดระเบียบในการควบคุมจำนวน และความปลอดภัย
 
สำหรับนักท่องเที่ยวที่นิยมกิจกรรมขับขี่เจ็ตสกี คือ กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย และเพื่อความสะดวก และความเข้าใจตรงกัน จึงได้กำหนดให้มีสัญญาเช่าเรือเจ็ตสกีเป็นภาษารัสเซียเพิ่มอีก 1 ภาษา ซึ่งเดิมมีอยู่แล้ว 2 ภาษา คือ ภาษาไทย และภาษาอังกฤษ และให้แต่ละชมรมในแต่ละหาดให้ใช้เป็นมาตรฐานเดียวกัน และได้ควบคุมดูแลให้ผู้ประกอบการเรือเจ็ตสกีต้องอบรม ให้ความรู้ มาตรการความปลอดภัย และต้องสวมใส่เสื้อชูชีพให้แก่นักท่องเที่ยวทุกคนก่อนใช้เรือทุกครั้ง 

และสำหรับเรือเจ็ตสกีทั้ง 286 ลำ ทางสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต ได้ดำเนินการจดทะเบียน และดำเนินการต่ออายุแล้ว 281 ลำ และยังไม่ได้ดำเนินการต่ออายุใบอนุญาตใช้เรือ จำนวน 5 ลำ ซึ่งกำลังดำเนินการติดตามมาดำเนินการและบังคับใช้กฎหมายต่อไป

กำลังโหลดความคิดเห็น