ศูนย์ข่าวภูเก็ต -พบเต่าหญ้าเพศเมียถูกเศษอวนรัดบาดเจ็บเกยตื้นแพกคู่หาดกะรน จ.ภูเก็ต ผงะพบหนอนพยาธิที่ผิวหนังเต่าเจ้าหน้าที่หวั่นเป็นพาหะนำเชื้อโรคทำเต่าทะเลป่วย เร่งทำการรักษาด่วน ระบุ ตอนนี้มีเต่าในความดูแลจำนวนมาก
นายก้องเกียรติ กิตติวัฒนาวงศ์ หัวหน้ากลุ่มสัตว์ทะเลหายาก สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเลและป่าชายเลน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 15 กันยายนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ประจำกลุ่มสัตว์ทะเลหายากได้รับแจ้งจากนายศุภชัย จันทร์เพ็ชร หัวหน้าศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวเทศบาลตำบลกะรน อ.เมือง ภูเก็ต ว่า พบเต่าทะเลขนาดใหญ่ จำนวน 2 ตัว ถูกคลื่นซัดเข้ามาเกยตื้นที่บริเวณหาดกะรน ใกล้โรงแรมรวมเทพอินทร์ ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต หลังรับแจ้ง ทางเจ้าหน้าที่จึงเดินทางไปตรวจสอบ และรับเต่าทะเลทั้ง 2 ตัวมาดูแลรักษา โดยในเบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวเทศบาลตำบลกะรน ได้นำเต่าทะเลมาไว้ที่ศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวแล้ว
ซึ่งจากการสอบถามทราบว่า เต่าทะเลทั้ง 2 ตัวถูกคลื่นซัดเข้ามาเกยตื้นที่บริเวณชายหาดกะรนในช่วงเช้าของวันที่ 15 ก.ย.โดยมีเศษอวนรัดติดมาทั้ง 2 ตัว และพบว่าทั้ง 2 ตัวถูกอวนบาดจนได้รับบาดเจ็บทั้งบริเวณขา และคอ โดยขณะที่เจ้าหน้าที่ไปถึง ทางเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวได้ตัดเอาเศษอวนออกจากตัวเต่าทั้ง 2 ตัวแล้ว จากการตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่า เต่าทั้ง 2 ตัว เป็นเต่าหญ้าเพศเมีย ขนาดกว้าง 50 ซม. 1 ตัว และขนาดกว้าง 40 ซม. 1 ตัว ที่บริเวณกระดองมีตะไคร่น้ำเกาะ มีบาดแผลรอยถูกอวนบาด ทั้ง 2 ตัว สภาพร่างกายอ่อนแอ
นอกจากนั้น ยังพบว่าที่บริเวณลำตัวของเต่าหญ้าเพศเมียตัวเล็กมีหนอนพยาธิเกาะอยู่เป็นจำนวนมาก เมื่อเจ้าหน้าที่นำมาถึงกลุ่มสัตว์ทะเลหายากก็ได้จัดการดูแลรักษา และกำจัดหนอนพยาธิที่เกาะตัวเต่ามาอย่างเร่งด่วน เพราะถ้าปล่อยไว้อาจจะทำให้เต่าตัวดังกล่าวถูกพยาธิที่เกาะอยู่ตามลำตัวดูดซึมสารอาหารจากตัวเต่าออกไป ซึ่งจะอาจจะส่งผลให้เต่าตัวดังกล่าวป่วยเป็นโรคเลือดจาง และตายในที่สุดได้ นอกจากนั้น ยังเกรงว่าพยาธิดังกล่าวอาจจะเป็นพาหะนำโรคบางอย่างได้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะนำไปตรวจวิเคราะห์ต่อไป
อย่างไรก็ตาม สำหรับหนอนพยาธิดังกล่าวจะมีการพบเห็นบ้าง แต่ในเต่าทะเลที่มีสภาพร่างกายแข็งแรงจะไม่ค่อยพบว่ามีหนอนพยาธิดังกล่าวเกาะตามตัว เนื่องจากร่างกายของเต่าทะเลจะมีการขยับอยู่ตลอดเวลา แต่สำหรับเต่าตัวนี้คาดว่าสภาพร่างกายของเต่ามีความอ่อนแอ และไม่สามารถขยับร่างกายได้จึงเป็นโอกาสให้หนอนพยาธิจำนวนมากเกาะตามลำตัวเพื่อดูดกินสารอาหารจากตัวเต่าทะเล ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เต่าขยับร่างกายไม่ได้ก็น่าจะเกิดจากถูกอวนรัดอยู่เป็นเวลานาน ซึ่งในการรักษานั้นก็จะตัองกำจัดหนอนพยาธิออกจากตัวเต่าให้หมด รวมทั้งการรักษาบาดแผลที่ถูกอวนบาดจนเป็นแผล รวมทั้งการให้ยาต่างๆ และอาหารเพื่อรักษาให้หายจากการบาดเจ็บ
นายก้องเกียรติ กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ต้องดูแลเต่าทะเลที่ถูกคลื่นซัดเข้ามาเกยตื้นที่บริเวณชายหาดต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต พังงา จำนวนมากเกือบ เกือบ 309 ตัว ซึ่งส่วนใหญ่ถูกเศษอวนรัดบาดจนได้รับบาดเจ็บ โดยบางตัวต้องกลายเป็นเต่าพิการขาขาด บางตัวไม่สามารถดำน้ำได้อีกตลอดชีวิตเนื่องจากปอดถูกทำลาย และเต่าทะเลที่ถูกคลื่นซัดเข้ามาเกยตื้นทั้งหมดในช่วงนี้เป็นเต่าหญ้าเพศเมีย ที่คาดว่าจะว่ายน้ำเข้ามาเพื่อหาคู่ผสมพันธุ์ และเตรียมวางไข่ในช่วงปลายปีนี้
ขณะที่นายศุภชัย จันทร์เพ็ชร หัวหน้าศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวเทศบาลตำบลกะรน กล่าวว่า ในช่วงมรสุมจะมีเต่าถูกคลื่นซัดขึ้นมาเกยหาดที่หาดกะรนหลายสิบตัว ส่วนใหญ่จะเป็นเต่าหญ้า ส่วนสาเหตุที่เต่าขึ้นมาเกยหาดนั้นเนื่องจากอยู่ในหน้ามรสุม มีคลื่นลมแรง เต่าถูกคลื่นซัดเข้าฝั่ง หรือเต่ามีอาการป่วยจนไม่สามารถว่ายน้ำช่วยเหลือตัวเองได้ และที่สำคัญที่สุดพบว่า เต่าส่วนใหญ่ที่ขึ้นมาเกยหาดจะมีอาการบาดเจ็บเนื่องจากถูกเศษอวนรัด ทำให้เป็นแผลฉกรรจ์ จนไม่สามารถว่ายน้ำได้ จึงถูกคลื่นซัดเข้าฝั่ง
นายก้องเกียรติ กิตติวัฒนาวงศ์ หัวหน้ากลุ่มสัตว์ทะเลหายาก สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเลและป่าชายเลน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 15 กันยายนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ประจำกลุ่มสัตว์ทะเลหายากได้รับแจ้งจากนายศุภชัย จันทร์เพ็ชร หัวหน้าศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวเทศบาลตำบลกะรน อ.เมือง ภูเก็ต ว่า พบเต่าทะเลขนาดใหญ่ จำนวน 2 ตัว ถูกคลื่นซัดเข้ามาเกยตื้นที่บริเวณหาดกะรน ใกล้โรงแรมรวมเทพอินทร์ ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต หลังรับแจ้ง ทางเจ้าหน้าที่จึงเดินทางไปตรวจสอบ และรับเต่าทะเลทั้ง 2 ตัวมาดูแลรักษา โดยในเบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวเทศบาลตำบลกะรน ได้นำเต่าทะเลมาไว้ที่ศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวแล้ว
ซึ่งจากการสอบถามทราบว่า เต่าทะเลทั้ง 2 ตัวถูกคลื่นซัดเข้ามาเกยตื้นที่บริเวณชายหาดกะรนในช่วงเช้าของวันที่ 15 ก.ย.โดยมีเศษอวนรัดติดมาทั้ง 2 ตัว และพบว่าทั้ง 2 ตัวถูกอวนบาดจนได้รับบาดเจ็บทั้งบริเวณขา และคอ โดยขณะที่เจ้าหน้าที่ไปถึง ทางเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวได้ตัดเอาเศษอวนออกจากตัวเต่าทั้ง 2 ตัวแล้ว จากการตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่า เต่าทั้ง 2 ตัว เป็นเต่าหญ้าเพศเมีย ขนาดกว้าง 50 ซม. 1 ตัว และขนาดกว้าง 40 ซม. 1 ตัว ที่บริเวณกระดองมีตะไคร่น้ำเกาะ มีบาดแผลรอยถูกอวนบาด ทั้ง 2 ตัว สภาพร่างกายอ่อนแอ
นอกจากนั้น ยังพบว่าที่บริเวณลำตัวของเต่าหญ้าเพศเมียตัวเล็กมีหนอนพยาธิเกาะอยู่เป็นจำนวนมาก เมื่อเจ้าหน้าที่นำมาถึงกลุ่มสัตว์ทะเลหายากก็ได้จัดการดูแลรักษา และกำจัดหนอนพยาธิที่เกาะตัวเต่ามาอย่างเร่งด่วน เพราะถ้าปล่อยไว้อาจจะทำให้เต่าตัวดังกล่าวถูกพยาธิที่เกาะอยู่ตามลำตัวดูดซึมสารอาหารจากตัวเต่าออกไป ซึ่งจะอาจจะส่งผลให้เต่าตัวดังกล่าวป่วยเป็นโรคเลือดจาง และตายในที่สุดได้ นอกจากนั้น ยังเกรงว่าพยาธิดังกล่าวอาจจะเป็นพาหะนำโรคบางอย่างได้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะนำไปตรวจวิเคราะห์ต่อไป
อย่างไรก็ตาม สำหรับหนอนพยาธิดังกล่าวจะมีการพบเห็นบ้าง แต่ในเต่าทะเลที่มีสภาพร่างกายแข็งแรงจะไม่ค่อยพบว่ามีหนอนพยาธิดังกล่าวเกาะตามตัว เนื่องจากร่างกายของเต่าทะเลจะมีการขยับอยู่ตลอดเวลา แต่สำหรับเต่าตัวนี้คาดว่าสภาพร่างกายของเต่ามีความอ่อนแอ และไม่สามารถขยับร่างกายได้จึงเป็นโอกาสให้หนอนพยาธิจำนวนมากเกาะตามลำตัวเพื่อดูดกินสารอาหารจากตัวเต่าทะเล ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เต่าขยับร่างกายไม่ได้ก็น่าจะเกิดจากถูกอวนรัดอยู่เป็นเวลานาน ซึ่งในการรักษานั้นก็จะตัองกำจัดหนอนพยาธิออกจากตัวเต่าให้หมด รวมทั้งการรักษาบาดแผลที่ถูกอวนบาดจนเป็นแผล รวมทั้งการให้ยาต่างๆ และอาหารเพื่อรักษาให้หายจากการบาดเจ็บ
นายก้องเกียรติ กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ต้องดูแลเต่าทะเลที่ถูกคลื่นซัดเข้ามาเกยตื้นที่บริเวณชายหาดต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต พังงา จำนวนมากเกือบ เกือบ 309 ตัว ซึ่งส่วนใหญ่ถูกเศษอวนรัดบาดจนได้รับบาดเจ็บ โดยบางตัวต้องกลายเป็นเต่าพิการขาขาด บางตัวไม่สามารถดำน้ำได้อีกตลอดชีวิตเนื่องจากปอดถูกทำลาย และเต่าทะเลที่ถูกคลื่นซัดเข้ามาเกยตื้นทั้งหมดในช่วงนี้เป็นเต่าหญ้าเพศเมีย ที่คาดว่าจะว่ายน้ำเข้ามาเพื่อหาคู่ผสมพันธุ์ และเตรียมวางไข่ในช่วงปลายปีนี้
ขณะที่นายศุภชัย จันทร์เพ็ชร หัวหน้าศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวเทศบาลตำบลกะรน กล่าวว่า ในช่วงมรสุมจะมีเต่าถูกคลื่นซัดขึ้นมาเกยหาดที่หาดกะรนหลายสิบตัว ส่วนใหญ่จะเป็นเต่าหญ้า ส่วนสาเหตุที่เต่าขึ้นมาเกยหาดนั้นเนื่องจากอยู่ในหน้ามรสุม มีคลื่นลมแรง เต่าถูกคลื่นซัดเข้าฝั่ง หรือเต่ามีอาการป่วยจนไม่สามารถว่ายน้ำช่วยเหลือตัวเองได้ และที่สำคัญที่สุดพบว่า เต่าส่วนใหญ่ที่ขึ้นมาเกยหาดจะมีอาการบาดเจ็บเนื่องจากถูกเศษอวนรัด ทำให้เป็นแผลฉกรรจ์ จนไม่สามารถว่ายน้ำได้ จึงถูกคลื่นซัดเข้าฝั่ง
