เชลซี เปิดบ้านล้างแค้น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้สำเร็จหลังพลิกกลับมาเอาชนะในช่วงต่อเวลาพิเศษ 5-4 แบบหืดจับ ในศึกฟุตบอลแคปิตอล วันคัพ รอบ 16 ทีมสุดท้าย เมื่อคืนวันพุธที่ 31 ต.ค.ที่ผ่านมา ส่วน ลิเวอร์พูล และ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ กอดคอกันตกรอบทั้งคู่
ฟุตบอลแคปิตอล วันคัพ รอบ 16 ทีมสุดท้าย
เชลซี 3-3 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (เชลซี ชนะช่วงต่อเวลาพิเศษ 5-4)
เกมฟุตบอลถ้วยใบเล็กของอังกฤษเป็นแมตช์แก้มือระหว่าง เชลซี ที่เพิ่งแพ้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในศึกพรีเมียร์ลีก เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เกมนี้ทังสองทีมเปลี่ยนผู้เล่นลงสนามหลายตำแหน่ง เจ้าถิ่นนำโดย ฆวน มาตา, วิคตอร์ โมเซส และ แดเนียล สเตอร์ริดจ์ ส่วน “ผีแดง” มี ฮาร์เวีย เฮอร์นานเดซ จับคู่ แดนนี เวลเบ็ค ล่าตาข่าย
ออกสตาร์มมา 12 นาที เป็น “ปิศาจแดง” ได้โอกาสลุ้นก่อน นานี ซัดฟรีคิดระยะ 25 หลาบอลพุ่งแรงเข้ากรอบแต่ก็ไม่ตรงตัว ปีเตอร์ เช็ก ที่ยืนตำแหน่งได้เยี่ยม 3 นาที ถัดมา เวลเบ็ค ได้ยิงอีกครั้ง แต่เช็กยืนถูกที่บอลเข้ามาตรงตัวตามเคย นาที 22 เช็ก ออกบอลพลาดให้ โรเมอูล ถูกรุมเข้ามา 3 คน และเป็นกิ๊กฉกบอลไปยิงล่อเป้าไม่มีเหลือ ขึ้นนำก่อน 1-0
ผ่าน 30 นาที วิคตอร์ โมเซส พาบอลหนี อเลกซานเดอร์ บุทเนอร์ ก่อนถูกสกัดล้มลง ผู้ตัดสิน ลี เมสัน เป่าเป็นจุดโทษทันที และ ดาวิด ลุยซ์ รับหน้าที่สังหารผ่านมือ อันเดิร์ส ลินเดอร์การ์ด เข้าไปตุงตาข่ายไล่ตีเสมอเป็น 1-1 ท้ายครึ่งแรก ลุยซ์ เสียบอล กลางสนาม อันแดร์สัน ตัดบอลจ่ายเร็วให้ ฮาร์เวีย เฮอร์นานเดซ แปสวนตัว เช็ก เข้าประตูแซงนำ 2-1 อีกครั้งพร้อมปิดครึ่งแรกด้วยสกอร์นำ
กลับมาเล่นครึ่งหลัง “ปิศาจแดง” เอา นิค พาวเวลล์ ลงมาเป็นคำสำรอง และได้โอกาสซัดทันทีจากนอกกรอบบอลกระดอนพื้น เช็ก ต้องพุ่งปัดทิ้งออกไป แต่แล้วนาที 52 “สิงห์บลูส์” ไล่ตีเสมอได้อีกครั้ง 2-2 จากลูกเตะมุม แกรี เคฮิลล์ โขกเข้าไปแล้วแต่ ราฟาเอล พยายามโขกออกมาก็ไม่เป็นผล ผู้ตัดสินให้เป็นประตูไปแล้ว
นาที 58 เกมรุก แมนฯ ยู ทำชิ่งสั้นๆ นานี เล่นกับ อันแดร์สัน ทะลุเข้าไปชิปข้ามตัว เช็ก เข้าไปกองก้นตาข่ายอย่างเหนือชั้น แซงนำ 3-2 นาที 68 เชลซี พลาดโอกาสการตีเสมออย่างน่าเสียดาย มาตา เปิดข้ามมาที่เสาสอง เซซาร์ อัซปิลิกูเอตา เติมขึ้นมาโขกโลกๆ บอลเหินข้ามคานชนิดต้องโทษตัวเอง นาที 75 โมเซส ได้ยิงจ่อๆ กลางประตู แต่ไม่ห่างมือ ลินเดอร์การ์ด พุ่งเซฟก่อนรับไว้อีกครั้ง
ท้ายเกม เชลซี โหมบุกอย่างหนัก ออสการ์ อีกหนึ่งตัวสำรองหาช่องยิงไกลเต็มแรง บอลพุ่งเข้ากลางประตู แต่ ลินเดอร์การ์ด เซฟไว้ได้อย่างเหลือเชื่อ กระทั่งนาทีสุดท้ายช่วงทดเจ็บ รามิเรส ถูก สกอตต์ วูทตัน ชนด้านหลัง เมสัน เป่าเป็นจุดโทษและ เอเดน ฮาซาร์ด ซัดเข้ากลางประตู ไล่ตีเสมอ 3-3 ต้องหาผู้ชนะในการต่อเวลาพิเศษอีก 30 นาที
ช่วงต่อเวลาพิเศษ ความผิดพลาดของ วูทตัน โขกตั้งมาให้ สเตอร์ริดจ์ ลาดบอลล่อเป้าก่อนหลบ ลินเดอร์การ์ด ยิงระตูโล่งๆ แซงนำ 4-3 จากนั้นครึ่งหลัง จากจังหวะโต้หลับเร็ว ฮาซาร์ด ปล่อยบอลให้ รามิเรส ที่เติมขึ้นมาพอดีเข้าล็อกหลบนายประตูทีมเยือนยิงเข้าไปง่ายๆ อีกเป็น 5-3 ก่อน “ปิศาจแดง” จะมาได้จุดโทษ ไรอัน กิ๊กส์ ยิงไล่มาเป็น 4-5 แต่เวลาก็ไม่เพียงพอ เชลซี ชนะไป 5-4 ในช่วงต่อเวลาเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายแบบหืดจับ
ขณะที่ผลอีก 2 คู่ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เปิดรังถูก สวอนซี บุกเอายัดเยียดความพ่ายแพ้ถึงถิ่น 1-3 ตกรอบ ไปพร้อมกับ “ไก่เดือยทอง” สเปอร์ส ที่ถูก “นกขมิ้น” นอริช ซิตี เร่งเครื่องแซงยิงประตูเอาชนะไป 2-1 กอดคอกันตกรอบนี้ไปทั้งหมด
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก, ดาวิด ลุยซ์, แกรี เคฮิลล์, เซซาร์ อัซปิลิกูเอตา, ไรอัน เบอร์ทรานด์, โอริโอล โรเมอูล, ฆวน มาตา, จอห์น โอบี มิเกล, วิคตอร์ โมเซส, แดเนียล สเตอร์ริดจ์, ลูคัส เปียซอย
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : อันเดิร์ส ลินเดอร์การ์ด, ราฟาเอล, อเลกซานเดอร์ บุทเนอร์, สกอตต์ วูทตัน, ไมเคิล คีน, อันแดร์สัน, ไรอัน กิ๊กส์, ดาเรน เฟล็ทเชอร์, ฮาร์เวีย เฮอร์นานเดซ, แดนนี เวลเบ็ค
