ทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง สุดปลื้มนั่งแท่นผจก.ทีมชาติไทยชุดสู้ศึกเอเอฟเอฟ ซูซูกิฯ มั่นใจไม่ยากเกินความสามารถ ยันพร้อมหนุนทีมเต็มที่เพื่อหวังทวงคืนความยิ่งใหญ่ในย่านอาเซี่ยนกลับมาให้เร็วที่สุด กร้าวเอเอฟเอฟ ซูซูกิฯ ต้องแชมป์สถานเดียว ชี้แข้งไทยจะต้องเป็นขวัญใจมหาชน ส่วนวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ยิ้มร่าได้ร่วมงานกับคนมีฝีมือ เชื่อมั่นพาทีมประสบความสำเร็จได้แน่ พร้อมเลื่อนคิวอุ่นบังคลาเทศ เพื่อหลีกทางให้ฟุตซอลชิงแชมป์โลกนัดชิงฯ
เมื่อวันที่ 31 ต.ค ที่ผ่านมา ณ ห้องประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทวงการคลัง “บังยี”วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ พร้อมด้วย”บิ๊กเปี๊ยก”องอาจ ก่อสินค้า เลขาธิการสมาคมฯ ,วินฟรีด เชเฟอร์ กุนซือทีมชาติไทย และทีมงานสตาฟ์ฟโค้ชทีมชาติไทย ได้เข้าพบ ทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รมช.ว่าการกระทรวงการคลังและผจก.ทีมชาติไทย เพื่อประชุมหารือและเตรียมความพร้อมก่อนสู้ศึกฟุตบอลเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2012 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพร่วมกับมาเลเซีย ระหว่างวันที่ 24 พ.ย – 22 ธ.ค นี้
ทนุศักดิ์ เล็กอุทัย ผจก.ทีมชาติไทยคนใหม่ กล่าวถึงการเข้ามารับงานครั้งนี้ว่า ตนได้รับเกียรติจาก วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลฯให้เข้ามาดูแลทีมชาติไทยในฐานะผจก.ทีม ซึ่งในอดีตตนเคยเป็นนักฟุตบอลทีมราชประชารุ่นราวคราวเดียวกับ องอาจ ก่อสินค้า เลขาธิการสมาคมฯ โดยส่วนตัวเป็นคนที่ชื่นชอบฟุตบอลเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และการได้รับโอกาสให้เข้ามานั่งตำแหน่งผจก.ทีมถือว่าเป็นสิ่งที่ตนภาคภูมิใจมาก โดยเชื่อมั่นในประสบการณ์ของตัวเองที่เคยผ่านงานมามากมาย และไม่น่าจะยากเกินความสามารถของตน
ขณะเดียวกัน ผจก.ป้ายแดง ยังได้กล่าวต่อไปว่า “ในฐานะผจก.ทีมชาติไทยคนใหม่ ผมพร้อมที่จะให้การสนับสนุนทีมอย่างเต็มที่ ทั้งการดูแลทีมงานสตาฟ์ฟโค้ชและนักฟุตบอลรวมถึงสื่อมวลชน ซึ่งจะให้สิทธิ์วิลเฟร็ด เชเฟอร์ ดูแลทีมอย่างเต็มที่และจะไม่มีการเข้าไปล้วงลูกเป็นอันขาด โดยผมเองทราบดีว่าแฟนบอลชาวไทยต้องการเห็นความสำเร็จ หลังจากที่กระแสทีมชาติของเราค่อนข้างซบเซามานาน ซึ่งผมขออาสาที่จะพาทีมชาติไทยกลับมาทวงคืนความยิ่งใหญ่ให้ได้อีกครั้งให้เร็วที่สุด”
นอกจากนี้นายใหญ่ทีมช้างศึกได้กล่าวถึงเป้าหมายในทัวร์นาเมนต์ เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพว่า “รายการนี้ถือว่าเป็นเวทีที่สำคัญอย่างมาก ซึ่งเป้าหมายของเราก็คือต้องทำอย่างไรก็ได้ให้เป็นแชมป์เท่านั้น เพื่อหวังกู้ศรัทธาของวงการฟุตบอลไทยให้กลับมายิ่งใหญ่ในย่านอาเซียนอีกครั้ง และอยากบอกว่าทัวร์นาเมนต์นี้เป็นแค่ใบเบิกทางแห่งความสำเร็จ เพราะเป้าหมายที่แท้จริงของผมก็คือต้องการพาทีมชาติไทยกลับสู่ร่มเงาความสำเร็จที่ยั่งยืน โดยเชื่อมั่นในฝีเท้าของนักเตะไทยว่าไม่ได้เป็นสองรองใครทั้งนั้น และพวกเราจะก้าวไปสู่ความสำเร็จพร้อมๆกันได้ไม่ยาก”
พร้อมกันนี้ ทนุศักดิ์ เล็กอุทัย ยังได้กล่าวอีกว่า “ผมคิดว่าเราจะต้องทำให้นักฟุตบอลทีมชาติไทยเป็นฮีโร่ขวัญใจประชาชนให้ได้ โดยในวันที่ 18 พ.ย นี้ จะมีการจัดการแข่งขันวิ่งมาราธอนประเพณี “สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด กรุงเทพ มาราธอนครั้งที่ 25” ที่บริเวณถนนสนามไชย ข้างวัดพระแก้ว เขตพระนคร โดยอยากจะเชิญนักฟุตบอลทีมชาติไทยเข้าร่วมในพิธีการในช่วงเช้าเวลาประมาณ 5.00 น. เพื่ออยากจะให้นักเตะได้ใกล้ชิดกับประชาชน และเป็นการออกกำลังกายยามเช้าอีกด้วย ซึ่งก็คงต้องขออนุญาติกับทางวิลเฟร็ด เชเฟอร์ หัวหน้าผู้ฝึกสอนรับไว้พิจารณาถึงความเหมาะสมต่อไป”
ด้าน วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลฯเปิดเผยว่า รู้สึกเป็นเกียรติเช่นกันที่ได้ร่วมงานกับ รมช.ว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถในหลายๆด้าน โดยเชื่อว่าจะพาทีมชาติไทยกลับมาสู่ความยิ่งใหญ่ได้ไม่ยาก ในส่วนของการเตรียมทีมชาติไทยนั้น วันที่ 1 พ.ย นี้ จะมีการเรียกตัวนักเตะทีมชาติไทยเข้ามารายงานตัวที่โรงแรมเอส.ซี ปาร์ค เพื่อเก็บตัวฝึกซ้อมเตรียมทีม และจะมีโปรแกรมอุ่นเครื่อง 3 นัด ประกอบด้วย 7 พ.ย พบกับ มาเลเซีย ที่สนามเอสซีจี สเตเดี้ยม เวลา 18.00 น.,14 พ.ย พบ ภูฐาน ที่สนามไทย-ญี่ปุ่น เวลา 18.00 น. และ 18 พ.ย พบ บังคลาเทศ ที่สนามไทย-ญี่ปุ่น เวลา 18.00 น. แต่ล่าสุดได้มีการเปลี่ยนแปลงโปรแกรมอุ่นเครื่องนัดสุดท้าย วันที่ 18 พ.ย ที่จะอุ่นกับบังคลาเทศ โดยวันเดียวกันมีศึกฟุตซอลชิงแชมป์โลกนัดชิงชนะเลิศ ทำให้ต้องเลื่อนมาเป็นวันที่ 17 พ.ย นี้ แทน
