“ฟีม” รัฐภาคย์ ก้าวที่ขอสู้ต่อไป

ASTVผู้จัดการรายวัน - ถือว่าศึกจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลกฤดูกาล 2012 รุ่น โมโตทู ของ “ฟีม” รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ นักบิดหนึ่งเดียวของไทย รูดม่านปิดฉากแล้วก็ว่าได้ หลังจากจบอันดับ 22 ศึก “มาเลเซียน กรังด์ ปรีซ์” ที่สนาม เซปัง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต เมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 ตุลาคม ที่ผ่านมา ด้วยสภาพร่างกายไม่พร้อมบาดเจ็บที่แขนต้องฝืนแข่งให้ครบโปรแกรมอีก 2 สนามที่เหลือ จากนี้จึงต้องจับตามองอนาคตว่าจะได้ขับให้ต้นสังกัด เกรซินี ต่อไปในปีหน้าหรือไม่กับผลงานที่ตอนนี้รั้งที่ 27 มีเพียง 8 แต้มที่ถือว่าไม่น่าประทับใจเท่าที่ควร

ถือเป็นปีที่ 6 แล้วสำหรับ รัฐภาคย์ กับการควบรถหมายเลข 14 โลดแล่นบนแทร็กจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก โดยฤดูกาลนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญกับการโยกมาขับให้สังกัด เกรซินี ภายใต้ชื่อ ไทย ฮอนด้า พีทีที เกรซินี จากค่ายเดิมคือ ไทย ฮอนด้า สิงห์ แซก แต่ยังคงไม่เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ความฝันที่จะได้เหยียบขึ้นโพเดียมยังไม่ใกล้ที่จะเป็นจริง เนื่องจากช่วงต้นฤดูกาลต้องใช้เวลาปรับตัวกับทีมงานและรถใหม่จนกระทั่งต้องมีการเปลี่ยนเฟรมจากโมริวากิเป็นซูเตอร์ที่ช่วยให้ดีขึ้นเพียงแค่สนาที่ 4 เลอ มังส์ ประเทศฝรั่งเศส จนทำให้จบฤดูกาลนี้คงต้องมานั่งทบทวนอนาคต และสัญญากับทีมใหญ่จากประเทศอิตาลีที่ค่อนข้างคาดหวังสูงกับนักบิดเอเชีย

หลังเสร็จศึกที่ เซปัง “ฟีม” เปิดเผยกับทีมข่าว MGR SPORT ว่า “ช่วงเปิดฤดูกาล ผมตั้งเป้ากับ เกรซินี ไว้ว่าจะทำผลงานให้ดีที่สุดและเก็บแต้มกลับมาให้ได้ทุกสนาม เพื่อลบความผิดหวังจากผลงานอันย่ำแย่ในอดีต แต่ก็จบด้วยความผิดหวังทั้งหมด ส่วนหนึ่งเป็นเพราะปัญหาบาดเจ็บด้วย ส่วนเรื่องรถที่ใช้แน่นอนว่าก็มีส่วน แต่ต้องยอมรับว่าเป็นผมเองที่ปรับตัวกับเฟรมรถไม่ได้ ทำให้ทุกอย่างไม่ออกมาเป็นไปตามที่ต้องการ ส่วนการร่วมงานกับ เกรซินี ก็ราบรื่นเพราะเวลามีปัญหาทีมงานก็ให้คำปรึกษาและช่วยเหลือเราทุกครั้ง ถือเป็นทีมมืออาชีพของวงการ” รัฐภาคย์ กล่าว

เมื่อถามถึงความหวังในอีกสองสนามที่เหลือคือรายการ “ออสเตรเลีย กรังด์ ปรีซ์” กับ “บาเลนเซีย กรังด์ ปรีซ์” แม้ต้องฉีดยาลงแข่งเจ้าตัวยืนยันขอทำเต็มที่เพื่อเก็บแต้มก่อนบินไปอิตาลีเพื่อผ่าตัดแขนขวาที่เป็น “อาร์มปั๊ม” (ตะคริวกล้ามเนื้อแขน) และพักฟื้น 2 สัปดาห์ เพื่อกลับมาเตรียมตัวบิดต่อในฤดูกาลหน้า

ขณะที่ชีวิตนอกแทร็ก “เจ้าฟีม” ที่ล่าสุดเพิ่งจูงมือ “น้องมด” อนุรดี พึ่งกลั่น หัวหน้าลูกเรือของสายการบินแอร์เอเชีย เข้าประตูวิวาห์ไปเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ก็เผยว่าชีวิตคู่นั้นกำลังไปได้สวยและราบรื่นดี แม้หน้าที่การงานที่รัดตัวอาจทำให้ทั้งคู่ไม่มีเวลาพบกันมากนัก แต่เมื่อถึงเวลาแข่ง รัฐภาคย์ ก็เผยมักจะได้รับกำลังใจจาก “น้องมด” ผ่านทางโทรศัพท์ หรือข้อความเสมอ ส่วนเรื่องทายาทในอนาคตนั้นเจ้าตัวเผยได้วางแพลนแล้วแต่ต้องเบรกไว้ก่อนเนื่องจากยังไม่มีเวลา

พร้อมย้ำว่า ชีวิตคู่นั้นไม่ได้มีอุปสรรคต่อการแข่งอย่างที่หลายคนตั้งข้อสังเกต นักบิดวัย 24 ปี เผยว่า “หลังแต่งงาน ผมบอกกับ มด แล้วว่าหน้าที่ของผมยังไม่จบ ยังอยากลงแข่งต่อไป ซึ่งก็เข้าใจและสนับสนุนเป็นอย่างดี เพราะเขารู้ดีว่าสิ่งที่ผมต้องการคือการขึ้นโพเดียม ส่วนเรื่องเป็นห่วงก็มีบ้าง แต่ก็บอกว่าไม่มีอะไรต้องกังวล เพราะทุกครั้งที่ลงสนามจทีมงานก็ได้ทำการเซฟตี้ ดูแลความปลอดภัยของนักแข่งไว้เป็นอย่างดี หลายคนคิดว่าพอแต่งงานแล้วก็จะเปลี่ยนไปดูแลตัวเองมากขึ้น ใช้เวลาแข่งน้อยลงเพื่อดูแลครอบครัว แต่ผมยืนยัน ณ ที่นี้ว่าจะลงแข่งต่อไป เพราะนี่คืออาชีพและหน้าที่ที่ต้องทำ ซึ่งถือเป็นการดูแลครอบครัวอีกทาง หากไม่ทำแล้วครอบครัวจะอยู่อย่างไร เป็นสิ่งเดียวที่ผมถนัดและทำได้ดี ประกอบกับเมื่อมีเสียงวิพากย์วิจารณ์ข้างสนามคอยกดดันก็ยิ่งเป็นแรงผลักดันให้ผมต้องพัฒนาตัวเองเพื่อลบคำสบประมาทนั้นให้ได้”

เวลานี้ต้องยอมรับว่าอนาคตของ “ฟีม” กับสังกัด เกรซินี ยังไม่ชัดเจน ทุกอย่างต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ ฟาอุสโต เกรซินี ทีมบอส หลังจากสิ้นสุดฤดูกาลนี้ เพราะการแข่งขันแต่ละฤดูกาลต้องใช้งบประมาณค่อนข้างสูงถ้าได้ไม่คุ้มเสียก็ต้องกลับมานั่งหารือกันอีกครั้งหนึ่ง แต่จากการได้สัมผัสกับ รัฐภาคย์ ทุกถ้อยคำที่ออกมาจากปากยังเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นที่จะสู้ต่อไปเพื่อโลดแล่นบนโลกแห่งความเร็วนี้แน่นอน