โทนี โรโม ควอเตอร์แบ็คตัวเก่งของ ดัลลัส คาวบอยส์ โชว์ฟอร์มสุดบู่ หลังทำเสีย 5 อินเทอร์เซ็ปต์ ส่งผลให้ทีมพ่ายต่อ ชิคาโก แบร์ส แบบขาดลอย 18-34 ในศึกอเมริกันฟุตบอล เอ็นเอฟแอล เมื่อเช้าวันอังคารที่ 2 ต.ค. ที่ผ่านมา
แลนซ์ บริกกส์ และ ชาร์ลส ทิลแมน 2 จาก 5 ผู้เล่นกองหลังตัวจริงของ ชิคาโก วิ่งย้อนทำทัชดาวน์จากการอินเทอร์เซ็ปต์ ส่งผลให้ ทีมจากรัฐอิลลินอยส์ บุกมาถล่ม ดัลสัส ถึงถิ่น คาวบอยส์ สเตเดียม ในเกมมันเดย์ ไนท์
หน่วยป้องกันของ ชิคาโก ตามกดดัน จอมทัพวัย 32 ปี อย่างหนัก จนถูกแซ็ค 1 ครั้ง และเสีย 5 อินเทอร์เซ็ปต์ ซึ่งถือเป็นการเสียเทิร์นโอเวอร์มากที่สุดตลอดอาชีพการเล่นของตัวเอง นับตั้งแต่ยึดตำแหน่งตัวจริง ในฤดูกาล 2006-07
บริกก์ส เก็บอินเทอร์เซ็ปต์ และเปลี่ยนมาเป็น 7 คะแนนให้ แบร์ส ช่วงครึ่งทางของควอเตอร์ที่ 3 จากการวิ่งย้อนระยะ 74 หลา หลังจาก เจย์ คัตเลอร์ จอมทัพทีมเยือน ขว้างระยะ 34 หลาให้ เดวิน เฮสเตอร์ ในช่วงเริ่มครึ่งหลัง ก่อนที่ อดีตผู้เล่นของ เดนเวอร์ บรองโกส์ จะทำสกอร์ที่สอง ด้วยการขว้างทัชดาวน์ระยะ 31 หลาให้ แบรนดอน มาร์แชลล์ รีซีฟเวอร์คู่ใจ และจบเกมด้วยผลงานการปาบอลเข้าเป้า 18 จาก 24 ครั้ง ระยะ 275 หลา กับ 2 ทัชดาวน์ ส่วน มาร์แชลล์ รับลูก 7 ครั้ง 138 หลา กับ 1 ทัชดาวน์
เมเจอร์ ไรท์ ผู้ซึ่งทำทัชดาวน์จากการ อินเตอร์เซ็ปต์ ในเกมที่แล้วของ ชิคาโก เก็บ 2 จาก 5 อินเทอร์เซ็ปต์ ขณะที่ ดี.เจ. มัวร์ เก็บอินเทอร์เซ็ปต์ที่ 9 ในอาชีพของตัวเอง ซึ่งเป็น 3 จาก 5 เทิร์นโอเวอร์ของ โรโม สำหรับการนำทีมลงสนามในคืนวันจันทร์
โรโม จบการแข่งขันด้วยสถิติการขว้าเข้าเป้า 31 จาก 43 ครั้ง ระยะ 307 หลา กับ 1 ทัชดาวน์ เสีย 5 อินเทอร์เซ็ปต์ จากนั้น เจสัน การ์เร็ตต์ เฮดโค้ช ส่ง ไคล์ ออร์ตัน จอมทัพฟรีเอเจนต์ ลงมานำทีมบุกแทน ในช่วง 3 นาทีสุดท้าย และสามารถทำสกอร์ตีตื้นขึ้นมาอีก 7 คะแนน ก่อนหมดเวลา 34 วินาที จากการขว้างระยะ 5 หลาให้ เจสัน วิตเท็น ปีกในตัวเก่ง
ช่วงครึ่งแรก ทิลแมน เก็บอินเทอร์เซ็ปต์และวิ่งย้อนระยะ 25 หลา เข้าสู่เอนด์ โซน หลังจาก ร็อบบี โกลด์ เตะฟิลด์ โกล เป็นสกอร์แรกของเกมนี้ จากนั้น โรโม ก็มาทำสกอร์แรกของตัวเอง ด้วยการขว้างทัชดาวน์ระยะ 10 หลาให้ ไมล์ส ออสติน
แลนซ์ บริกกส์ และ ชาร์ลส ทิลแมน 2 จาก 5 ผู้เล่นกองหลังตัวจริงของ ชิคาโก วิ่งย้อนทำทัชดาวน์จากการอินเทอร์เซ็ปต์ ส่งผลให้ ทีมจากรัฐอิลลินอยส์ บุกมาถล่ม ดัลสัส ถึงถิ่น คาวบอยส์ สเตเดียม ในเกมมันเดย์ ไนท์
หน่วยป้องกันของ ชิคาโก ตามกดดัน จอมทัพวัย 32 ปี อย่างหนัก จนถูกแซ็ค 1 ครั้ง และเสีย 5 อินเทอร์เซ็ปต์ ซึ่งถือเป็นการเสียเทิร์นโอเวอร์มากที่สุดตลอดอาชีพการเล่นของตัวเอง นับตั้งแต่ยึดตำแหน่งตัวจริง ในฤดูกาล 2006-07
บริกก์ส เก็บอินเทอร์เซ็ปต์ และเปลี่ยนมาเป็น 7 คะแนนให้ แบร์ส ช่วงครึ่งทางของควอเตอร์ที่ 3 จากการวิ่งย้อนระยะ 74 หลา หลังจาก เจย์ คัตเลอร์ จอมทัพทีมเยือน ขว้างระยะ 34 หลาให้ เดวิน เฮสเตอร์ ในช่วงเริ่มครึ่งหลัง ก่อนที่ อดีตผู้เล่นของ เดนเวอร์ บรองโกส์ จะทำสกอร์ที่สอง ด้วยการขว้างทัชดาวน์ระยะ 31 หลาให้ แบรนดอน มาร์แชลล์ รีซีฟเวอร์คู่ใจ และจบเกมด้วยผลงานการปาบอลเข้าเป้า 18 จาก 24 ครั้ง ระยะ 275 หลา กับ 2 ทัชดาวน์ ส่วน มาร์แชลล์ รับลูก 7 ครั้ง 138 หลา กับ 1 ทัชดาวน์
เมเจอร์ ไรท์ ผู้ซึ่งทำทัชดาวน์จากการ อินเตอร์เซ็ปต์ ในเกมที่แล้วของ ชิคาโก เก็บ 2 จาก 5 อินเทอร์เซ็ปต์ ขณะที่ ดี.เจ. มัวร์ เก็บอินเทอร์เซ็ปต์ที่ 9 ในอาชีพของตัวเอง ซึ่งเป็น 3 จาก 5 เทิร์นโอเวอร์ของ โรโม สำหรับการนำทีมลงสนามในคืนวันจันทร์
โรโม จบการแข่งขันด้วยสถิติการขว้าเข้าเป้า 31 จาก 43 ครั้ง ระยะ 307 หลา กับ 1 ทัชดาวน์ เสีย 5 อินเทอร์เซ็ปต์ จากนั้น เจสัน การ์เร็ตต์ เฮดโค้ช ส่ง ไคล์ ออร์ตัน จอมทัพฟรีเอเจนต์ ลงมานำทีมบุกแทน ในช่วง 3 นาทีสุดท้าย และสามารถทำสกอร์ตีตื้นขึ้นมาอีก 7 คะแนน ก่อนหมดเวลา 34 วินาที จากการขว้างระยะ 5 หลาให้ เจสัน วิตเท็น ปีกในตัวเก่ง
ช่วงครึ่งแรก ทิลแมน เก็บอินเทอร์เซ็ปต์และวิ่งย้อนระยะ 25 หลา เข้าสู่เอนด์ โซน หลังจาก ร็อบบี โกลด์ เตะฟิลด์ โกล เป็นสกอร์แรกของเกมนี้ จากนั้น โรโม ก็มาทำสกอร์แรกของตัวเอง ด้วยการขว้างทัชดาวน์ระยะ 10 หลาให้ ไมล์ส ออสติน